From Chiangmai To Bangkok
Enough for life สานต่อแนวคิดเรื่องความพอเพียงจากจังหวัดเชียงใหม่สู่ Enough for life Bangkok คาเฟ่และช็อปแฮนด์คราฟต์คุณภาพสาขากรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท-แบริ่ง ภายใต้บรรยากาศสุดละมุนละไม เคล้ากลิ่นอายสไตล์วินเทจ
จากความสำเร็จของร้าน Enough for life บ้านข้างวัด และ Enough for life village ร้านขายงานฝีมือควบคาเฟ่แสนอบอุ่น ทั้ง 2 สาขาในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเครื่องยืนยันว่าปัจจุบันยังมีคนสนใจวิถีชีวิตเนิบช้าและงานหัตถกรรมฝีมือของคนในท้องถิ่นภาคเหนืออยู่อย่างไม่ขาดสาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ คุณนุจัง-ณัฐวุฒิ ปันสิน หนุ่มชาวลำปาง ผู้เป็นเจ้าของกิจการ พร้อมด้วย คุณ Jung Da-woon ภรรยาสาวชาวเกาหลี และ คุณ Kim Zoo-young เพื่อนชาวเกาหลีอีกหนึ่งคนของพวกเขา ที่ต่างชื่นชมนิยมในสิ่งเดียวกัน ทั้งเรื่องของศิลปะ วัฒนธรรม ความเนิบช้า และความหลงใหลในงานแฮนด์คราฟต์เหมือนกันอีกด้วย ตัดสินใจรวมพลังกันสร้าง Enough for life Bangkok โชว์รูมงานหัตถกรรมจากฝีมือของชาวบ้านทางภาคเหนือ พร้อมออกแบบร้านเพื่อให้คนไทยและชาวต่างชาติที่หลงรักงานฝีมือและสินค้าแนววินเทจได้เข้ามาเลือกช้อปสินค้ากันอย่างทั่วถึง เสริมด้วยโซนร้านกาแฟแสนอบอุ่นสไตล์เกาหลี แบบที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึงจังหวัดเชียงใหม่
Enough for Today
‘Enough for life’ แนวคิดนี้ได้มาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงสอนและเน้นย้ำถึงเรื่อง ‘ความพอเพียงในชีวิต’ คุณนุจังนำเอาหลักนี้มาใช้ในการดำเนินชีวิต ยึดเรื่องความพอเพียงคือการใช้ชีวิตกับสิ่งที่เรามีอยู่ เงินที่พอหามาได้ แม้กระทั่งกับเรื่องเวลาของครอบครัว เพื่อให้ชีวิตมีความพอดีและผ่อนคลาย เกิดมุมมองการใช้ชีวิตใหม่ที่เรียบง่ายและมีความสุขกับสิ่งรอบ ๆ ตัวมากขึ้น
Vintage is All Around
Enough for life Bangkok ดึงดูดสายตาผู้คนนับตั้งแต่บริเวณหน้าร้าน ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นกระจกใสมีผ้าม่านสีขาวกั้นที่ช่วยเสริมความละมุนตา ซึ่งหากเปิดประตูเข้ามาก็จะได้จะพบกับโซนโชว์รูมงานแฮนด์คราฟต์ ที่มีทั้งตะกร้าหวาย แก้วน้ำ จานชามเซรามิก ช้อนส้อมจากเขาควาย งานผ้าถักรองจาน กระเป๋า และผลิตภัณฑ์ทำมืออีกหลายอย่างให้เลือกช้อปอย่างจุใจ
ส่วนห้องตรงกลางมีของกระจุกกระจิกอย่างแก้วน้ำดื่มสกรีนลายน่ารัก รวมถึงโปสการ์ดดีไซน์สวย ด้านหลังสุดเป็นห้องที่ถูกทุบกำแพงออกเพื่อเชื่อมร้านขายของเข้ากับโซนคาเฟ่เล็ก ๆ หากใครอยากจะนั่งดูบาริสต้าชาวเกาหลีครีเอตเมนูเครื่องดื่มหรือร่วมพูดคุยกับพวกเขาก็ย่อมได้
ส่วนใครที่อยากรับลมสบาย ๆ ทางร้านก็มีโซนเล็ก ๆ ด้านนอกให้เลือกนั่งได้ตามชอบ อีกทั้งยังมีบริเวณชั้น 2 ไว้รองรับอีกด้วย และแน่นอนว่าในเรื่องของไอเดียการตกแต่งร้าน ที่นี่โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหน ๆ ด้วยการดีไซน์จากความชอบของ คุณ Kim Zoo-young ที่นำเอาไอเดียจากหลาย ๆ แห่งมาผสมผสานจนออกมาเป็นคาเฟ่สไตล์วินเทจแสนอบอุ่น
Korean Recipes
นอกจากนี้ ในโซนของคาเฟ่ ทางร้านยังต้อนรับผู้มาเยือนด้วยเมนูเครื่องดื่มและขนมเบเกอรีสูตรโฮมเมดที่ครีเอตความอร่อยโดยทีมบาริสต้าชาวเกาหลี ส่งตรงสูตรเฉพาะมาจากทีมงาน Oasis ร้านอาหารชื่อดังในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้กันเลยทีเดียว โดยร้านที่ว่านี้อยู่ตรงข้ามกับ SM Entertainment ซึ่งมักมีเหล่าศิลปิน K-Pop จากค่ายเพลงจะมานั่งทานอาหารกันอยู่เสมอ และนับเป็นความโชคดีที่ คุณ Kim Zoo-young นั้นเป็นเพื่อนกับทาง Oasis ทำให้ Enough for life Bangkok แห่งนี้มีการอิมพอร์ตบาริสต้าหนุ่มมากฝีมือมาครีเอตเครื่องดื่มและเมนูขนมอร่อย ๆ ให้คนไทยได้ลองทาน
สำหรับเมนูแนะนำของทางร้าน เริ่มต้นกันที่เครื่องดื่มสุดคลาสสิกอย่าง Hot Latte (80 บาท) กาแฟลาเต้ร้อน ที่มาพร้อมความพิเศษของลวดลายลาเต้อาร์ตซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันประกวดลาเต้อาร์ตจากประเทศเกาหลีใต้ เพราะฉะนั้นลาเต้ร้อนแก้วนี้จึงมีลวดลายที่สวยคม ผสมผสานเข้ากับรสชาติสุดนุ่มละมุนของกาแฟนมได้อย่างลงตัว
เอาใจคอกาแฟอย่างต่อเนื่องกับเมนู Enough Coffee (130 บาท) เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านกับการผสานรสชาติด้วยส่วนผสมของ Green Tea Latte ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ตามมาด้วยเอสเพรสโซช็อต และท็อปปิ้งตามด้วยครีมนม แก้วนี้แบ่งเลเยอร์สีอย่างสวยงาม ให้รสกลมกล่อมและกลิ่นหอมของทั้งชาเขียวและกาแฟในคราวเดียวกัน
เปลี่ยนบรรยากาศมาเติมเต็มความสดชื่นระหว่างวันกันบ้างกับ Passion Fruit Soda (100 บาท) เครื่องดื่มอิตาเลียนโซดาที่ดัดแปลงนำผลไม้แนว Tropical Fruit วัตถุดิบเฉพาะของไทยอย่างเสาวรสมาเป็นส่วนผสมหลักเข้ากับโซดา ก่อนจะเชคทั้งหมดจนได้รสหวานอมเปรี้ยวและความซาบซ่าของโซดาแบบเข้ากันดิบดี
หันมาลิ้มลองความอร่อยกับเมนูขนมหวานของทางร้านกันสักหน่อยกับ Croissant with Berry Compotée (70 บาท) ครัวซองต์อบร้อน 3 ชิ้นใหญ่ที่ถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับเบอร์รีเชื่อมหลากหลายแบบ ราดตามด้วยซอสเบอร์รีแบบฉ่ำ ๆ และโรยน้ำตาลไอซิ่ง เป็นครัวซองต์นุ่ม ๆ หอมเนยแบบเต็ม ๆ คำ ตัดรสชาติกันกับเบอร์รีเชื่อมที่ให้รสหวานอมเปรี้ยว ปิดท้ายมื้อแสนอร่อยได้อย่างน่าประทับใจ