Good Coffee by Award-wining Barista
Factory Cafe ไม่ใช่คาเฟ่หน้าใหม่ที่ไหน แต่เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เติบโตจากฝีไม้ลายมือการครีเอทกาแฟซิกเนเจอร์รางวัลระดับโลก จนถูกอกถูกใจนักชิมกาแฟและกลายเป็นร้านในดวงใจของใครหลายคนกันมาแล้ว ไม่นานมานี้ Factory Cafe ได้ย้ายบ้านใหม่อย่างเป็นทางการไปอยู่ไม่ไกลจากสถานีบีทีเอสพญาไทที่เป็นโลเคชั่นเดิมมากนัก และยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความเท่สไตล์ลอฟต์ และบรรยากาศสบายให้นั่งละเลียดจิบกาแฟโดยบาริสต้าหนุ่มหล่อฝีมือดี
Loft Vibes
สไตล์การตกแต่งร้านยังคงความลอฟต์ ช่วยเสริมลุคเท่ ๆ เคร่งขรึมในพื้นที่กว้างขวางขึ้น แต่ยังคงเสน่ห์และคาแร็กเตอร์ดิบ ๆ แบบโรงงานเก่าเช่นเคย โดยใช้คอนกรีตขัดมันและโครงสร้างสายไฟในการตกแต่งผนัง เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ออกแบบกันเองดูเข้ากับร้านได้ลงตัว กลางร้านโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ที่เหล่าบาริสต้าหนุ่มใช้ร่วมกัน ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟ และพรีเซนเทชันเท่ ๆ ของเครื่องดื่มแต่ละชนิดที่บาริสต้าตั้งใจนำเสนอที่หลายคนติดอกติดใจแวะมาเยี่ยมเยียนดื่มกาแฟกันไม่ขาดสาย ไม่ใช่เพียงเพราะความหล่อของเหล่าบาริสต้าที่มารวมตัวกันที่บาร์เท่านั้น แต่เป็นฝีไม้ลายมือการสร้างสรรค์ และตั้งใจชงกาแฟทุกแก้วของทีมบาริสต้าที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นแชมป์ประเทศไทยไปแข่งขันบาริสต้าในระดับโลกมาแล้วถึง 2 ปีติด โดยเฉพาะ คุณบิว - เศรษฐการ วีรกุลเทวัญ และ คุณแมน - อธิป อาชาเลิศตระกูล ผู้ร่วมก่อตั้งร้านและบาริสต้าที่สร้างประวัติศาสตร์อันดับสูงสุดเท่าที่คนไทยเคยไปถึงในเวทีแข่งขันบาริสต้าระดับโลก คือการเป็นหนึ่งใน 16 คนสุดท้ายของการแข่งขัน WBC หรือ World Barista Championship 2018 ก่อนจะปิดรายการนี้ที่อันดับ 13 ของโลก
Perfect Blend
ขึ้นชื่อว่าบาริสต้ารางวัลระดับโลก แน่นอนว่าเมล็ดกาแฟของทางร้านต้องคัดสรรและเลือกใช้เมล็ดกาแฟดีมีคุณภาพเพื่อใช้ในการสร้างสรรค์เมนู อย่าง Phayathai Espresso เมล็ดกาแฟที่สนับสนุนเกษตรกรไทยจากแม่สาย จังหวัดเชียงราย ปลูกบนความสูงกว่า 1,400 เมตร เป็นเบสหลักของทางร้าน หรือใครที่ชื่นชอบเมล็ด Single Origin ก็มีเมล็ดกาแฟจาก Ethiopia และ Colombia และเมล็ดสำหรับ Filter จากโรงคั่วต่างประเทศหลากหลาย ที่สลับกันมาให้ลองชิมอยู่เรื่อย ๆ และซื้อกลับบ้านกันอีกด้วย
Signature Drinks
สำหรับเมนูกาแฟของที่นี่เน้นความเรียบง่ายแต่ละเอียด เราจะเห็นวิธีการทำงานโดยการแบ่งโซนบาร์ตามลำดับความสำคัญ เพื่อให้บาริสต้าแต่ละคนโฟกัสกับขั้นตอนและสมาธิในการทำ ทางร้านตั้งใจนำเสนอเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Black Cocoa Yen (200 บาท) ให้คุณค่อย ๆ ละเลียดชิม Black Cocoa เข้มข้นที่นำไปเชคกับนมและน้ำแข็งจนได้ที่ ก่อนโรยด้วย Chocolate Bar, Chocolate Powder และเกลือ Sea Salt Grinder เพื่อเพิ่มกลิ่นและตัดเลี่ยน ตบท้ายด้วยคาราเมลที่ค่อย ๆ บรรจงราดอย่างประณีตบนขอบแก้ว เพื่อเพิ่มรสชาติความกลมกล่อมของวัตถุดิบในแต่ละเลเยอร์
Honolulu (120 บาท) รสชาติที่รวมความกลมกล่อมของสองเลเยอร์จากชาโฮจิฉะเข้มข้นผสมนมในเลเยอร์แรก ตามด้วย Espresso Shot และโรยผงโฮจิฉะตบท้ายเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและความนุ่มนวล ก่อนที่สองรสชาติจะค่อย ๆ เบลนด์รวมกันในปาก และ Matcha Lemon Fizz (120 บาท) สดชื่นกับความซาบซ่าของ Tonic ที่ผสมผสาน Spakling ชาเขียวมัทฉะเข้มข้น ตกแต่งแก้วด้วยเปลือกเลมอน
และ Steve Jobs (140 บาท) ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง Cold Brew กับน้ำองุ่น Infused และข้าวคั่วที่ช่วยชูรสชาติ เพิ่มกลิ่นหอมให้คุณจิบเพลินพร้อมความสดชื่นจากผลองุ่นภายในแก้ว