Welcome To The Hideout
ใครที่เคยติดใจรสชาติของ Farm To Table คาเฟ่สาขาแรก ต้องไม่พลาดที่จะแวะมาที่ร้านใหม่นี้ สำหรับสาขานี้ตัวร้านถูกซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านปากคลองตลาด ใครที่ขับรถมาแนะนำให้จอดรถที่บริเวณตลาดยอดพิมานและเดินทะลุตลาดดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งแล้วจะพบกับร้านนี้ เมื่อเดินเข้ามา จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในบรรยากาศย้อนยุคนิด ๆ มองเห็นต้นไม้สีเขียวร่มรื่น ทำให้หายเหนื่อยเลยทีเดียว
ร้านนี้เกิดจากคุณจอย ครอบครัว และหุ้นส่วนได้ถูกใจบ้านเก่าสุดคลาสสิคหลังนี้ และต้องการต่อยอดจาก Farm To Table Cafe สาขาแรกที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยต้องการให้สาขาใหม่นี้เป็นที่สำหรับนั่งทานอาหาร ขนม และจิบกาแฟกันในบรรยากาศสบาย ๆ ไม่อึดอัดClassic Contemporary Style
ตัวร้านถูกรีโนเวทจากบ้านโบราณสมัยปลายรัชกาลที่ 5 และถูกออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงามโดยคุณปิ๊ก หนึ่งในหุ้นส่วนของทางร้าน การตกแต่งได้หยิบเอาบรรยากาศของความคลาสสิคมาปรับให้ดูทันสมัยขึ้น ผสมกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของร้าน เช่น การนำตะกร้าที่ใช้ขนผักสดออร์แกนิกของทางร้านมาใช้แทนลิ้นชัก การนำอุปกรณ์เครื่องครัวอย่างที่ตักไอศกรีมมาเป็นด้ามจับประตู การนำรูปภาพเก่าที่เล่าเรื่องราวของย่านนี้มาประดับตามมุมต่าง ๆ เป็นต้น ทางร้านเลือกใช้สีโทนอบอุ่นในการแต่งร้าน ไม่ว่าจะเป็นผนังอิฐบล็อกที่ได้จากการกะเทาะออกของผนังบ้านเดิม พื้นไม้ โต๊ะและเก้าอี้ไม้สีเข้ม โดยไม้บางส่วนเป็นไม้ของบ้านหลังเดิม ตัดกับเคาน์เตอร์หินอ่อนสีขาวและไฟโทนสีส้ม ทำให้บรรยากาศในร้านอบอุ่น เหมาะกับการนั่งทานอาหาร จิบกาแฟหลบอากาศร้อนจากภายนอก
Homey Organic Dishes
เมนูอาหารของที่นี่ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่เมนูแต่ทุกเมนูก็เน้นรสชาติและวัตถุดิบคุณภาพสดใหม่ทุกจาน แนะนำ สลัดผักออแกนิก + ไข่ต้ม (82 บาท) สลัดผักจานใหญ่ที่มาพร้อมผักสด ๆ ข้าวโพดหวาน มะเขือเทศ ไข่ต้มยางมะตูมเยิ้ม ๆ กรูตอง ไก่ย่างเนื้อนุ่ม และน้ำสลัดข้าวกล้องจากเชียงใหม่ เป็นจานสลัดที่เหมาะกับสาว ๆ ที่อยากทานอาหารไม่หนักมาก
ใครที่มองหาเมนูอิ่มท้อง แนะนำ ข้าวซี่โครงหมูอบ + คะน้าฮ่องกง (112 บาท) ซี่โครงหมูชิ้นโตตุ๋นกับเครื่องเทศสูตรของทางร้านจนเปื่อย ราดมาบนข้าวสวยร้อน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมผักคะน้าลวกและน้ำจิ้มที่มีเนื้อคล้ายกับเจลลี่และมีรสชาติคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ด เมื่อทานคู่กับซี่โครงหมูรสเข้มข้นได้รสตัดกันดีCharming Thai Desserts
สำหรับเมนูขนมของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทางร้านเน้นการหยิบเอารสชาติของขนมไทยมาประยุกต์และเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมที่ขึ้นชื่อของทางร้าน สามารถเลือกรสไอศกรีมที่จะเสิร์ฟคู่กับขนมได้เอง มาเริ่มกันที่เมนูหาทานยาก ขนมข้าวตอกตั้ง + เจลาโต้ (122 บาท) เนื้อขนมหนึบ ๆ ผสมกับกะทิและโรยด้วยข้าวคั่ว เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมมะพร้าวอัญชันที่ได้ความหอมของมะพร้าวและอัญชันแบบเต็ม ๆ เมื่อทานคู่กัน เนื้อไอศกรีมจะลดความหนึบของเนื้อขนมข้าวตอกได้ดี ทำให้ทานได้ง่ายขึ้น
อีกเมนูที่นำสมุนไพรไทยอย่างกระเจี๊ยบมาทำขนม ครัมเบิ้ลกระเจี๊ยบแดง + เจลาโต้ (122 บาท) ฐานด้านล่างเป็นเนื้อเค้กแน่น ๆ ท็อปด้วยครัมเบิ้ลกระเจี๊ยบแดงกรุบ ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมเชอร์เบทมิกซ์เบอร์รี่และซอสเบอร์รี่รสเปรี้ยว นอกจากเมนูขนมแล้ว ใครที่แวะมาต้องลองทานไอศกรีมของที่นี่ เพราะมีหลากหลายรสชาติให้ลอง ทั้งรสน้ำเต้าหู้ รสเฉาก๊วย รสงาดำงาขาว และรสชาซีลอน เป็นต้นDrinks To Try
ส่วนเมนูเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย โดยจะเน้นไปที่ Slow Bar Coffee ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟปาแป๋จากไร่กาแฟออร์แกนิกที่เชียงใหม่เป็นหลัก และยังมีเมล็ดกาแฟ Single Origins คุณภาพดีและเมล็ดกาแฟพิเศษที่ทางร้านจะนำเข้ามาโดยจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ให้เลือกดื่มกันด้วย แนะนำ French Press Coffee ( 88 บาท สำหรับเมล็ดกาแฟปาแป๋) ถ้าใครไม่ดื่มกาแฟ ลองสั่ง ชาอู่หลงเย็น (83 บาท) ชาหอม ๆ ดื่มดับร้อนกันได้