Film Lovers are ‘FICS’ People
ไม่ว่าใครต่างก็ต้องมีหนังเรื่องโปรดสักเรื่องในดวงใจ ว่ากันว่าคนเราถ้าชอบสิ่งไหนเหมือน ๆ กัน ก็มักจะได้เดินทางมาเจอกัน เช่นเดียวกับความตั้งใจของผู้กำกับหนัง บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ และหุ้นส่วน ที่ตั้งใจอยากสร้างพื้นที่ให้คนรักหนังเหมือนกันได้มาคุยและแชร์เรื่องราวดี ๆ ร่วมกัน จนเกิดเป็น Community Space สุดอินดี้ที่รวบรวมทุกอย่างเพื่อคนรักหนังอย่าง FICS ที่ย่อมาจาก F = Film, I = Inspired, C S = Coffee Shop / Concept Store / Community Space พร้อมเปิดต้อนรับเหล่า Film Lovers โดยเฉพาะ
FICS is Now Showing!
นับตั้งแต่ทางเข้าก็ให้ความรู้สึกคล้ายกับโรงหนัง Stand Alone สุดอินดี้ ที่มี Sculpture x FICS Photoautomat ตู้ถ่ายรูปตามธีมจากภาพยนตร์ Amélie ที่ตั้งอยู่ทางเข้าให้คุณแวะถ่ายรูปสนุก ๆ ก่อนขึ้นไปสู่โลกของภาพยนตร์ด้านบน ทันทีที่ขึ้นมาจะพบกับโซน Director’s Cup ที่ให้สัมผัสได้ถึงมู้ดโทนสีขาวสบายตา ตกแต่งออกมาแบบเรียบง่ายสไตล์มินิมัล ผสมผสานกลิ่นอายความคลาสสิกของโรงหนังสไตล์วินเทจเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีโซน Concept Store เต็มไปด้วยหลากหลายสินค้าที่คอหนังต้องถูกใจ!
ดื่มด่ำกับโลกของภาพยนตร์ให้เต็มอิ่มมากขึ้นด้วยโซน Poster District บริเวณชั้น 3 ที่นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เต็มไปด้วยโปสเตอร์หนังหายากแบบ Original Version ที่พิมพ์ออกมาพร้อมกับปีที่ฉายจริงหลากหลายเรื่อง โดยบางแผ่นมีอายุมากกว่า 50-60 ปี ที่เหล่าคนรักหนังและนักสะสมโปสเตอร์ต้องห้ามพลาด!
Enjoy with Director’s Cup
“ร้านเราอาจจะไม่ใช่ร้านกาแฟที่อร่อยที่สุด ไม่ใช่ร้านที่สวยเนี๊ยบที่สุด แต่เรามั่นใจว่าถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รักหนัง คุณจะอินกับร้านเรามากที่สุด เพราะเราทำขึ้นมาด้วย Passion ที่ทีมเรารักจริง ๆ เพราะฉะนั้นเราก็หวังว่าคนที่มาจะรู้สึกอินเหมือนกันกับเรา” จูนจูน-พัชชา พูนพิริยะ หนึ่งในหุ้นส่วนของร้านเล่าให้ฟังถึงความตั้งใจและอยากส่งต่อ Passion ให้กับคนรักหนังได้อินไปด้วยกัน
ถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่ใช่ร้านกาแฟที่อร่อยที่สุด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องดื่มของ FICS ต่างก็สร้างความน่าสนใจให้กับใครหลายคนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยการครีเอตเมนูมาจากภาพยนตร์ชื่อดัง มาถึงแล้วแนะนำให้ลองสั่ง Clockwork Orange (140 บาท) หนังดาร์กคอมเมดี้สุดคลาสสิก ที่ทางร้านหยิบเอาดาร์กช็อกโกแลตมาใช้เป็นเบสความเข้มขม แล้วเพิ่มความขี้เล่นที่ล้อไปกับชื่อหนังด้วยซอสส้ม เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูงที่มองเห็นเลเยอร์สีดำตัดกับส้มสุดแปลกตา สื่อถึงความวุ่นวายเช่นเดียวกับหนัง
ส่วนใครที่อยากลิ้มลองความแปลกใหม่ ต้องลอง Lost in Translation (160 บาท) ภาพยนตร์ที่เป็นเรื่องราวของความแตกต่างระหว่างสองวัฒนธรรม และเต็มไปด้วยความเหงาฟุ้งในกรุงโตเกียว ครีเอตออกมาเป็นเหล้าบ๊วยโซดา เสิร์ฟมาคู่กับมัทฉะเข้มข้นคุณภาพดี เป็นส่วนผสมที่เหมือนจะไปกันไม่ได้ แต่กลับผสมผสานความอร่อยออกมาได้อย่างลงตัว
แฟนคลับตัวยงของหนัง Amélie ต้องห้ามพลาดกับเมนู Amélie (135 บาท) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวฝรั่งเศส จึงครีเอตออกมาเป็นลาเต้เย็นที่มีส่วนผสมของแยมราสพ์เบอร์รีที่ทางร้านเคี่ยวเองแบบโฮมเมด เหมือนกับซีนไอคอนิกในภาพยนตร์ ดื่มพร้อมกันจะได้สัมผัสได้ถึงความหอมหวานและ Texture ความเหนียวของแยมราสพ์เบอร์รี ที่เข้ากันได้ดีกับความเข้มข้นและรสกลมกล่อมของกาแฟ
มาถึงเมนูสุดสดชื่นอย่าง Call Me By Your Name (135 บาท) ที่ทางร้านดึงเอา Element ความเป็นพีชในหนัง มาครีเอตสู่เมนูที่มีส่วนผสมของชาพีช โซดา มะนาว และใบมินต์ อีกทั้งยังเพิ่มพีชเป็นชิ้น ๆ เพื่อเสริมกลิ่นและมิติของรสชาติให้รู้สึกถึงน้ำถึงเนื้อแบบเต็มคำ ที่ไม่ว่าใครดื่มก็ต้องรู้สึกสดชื่นเหมือนนั่งอยู่ข้างสระน้ำหลังบ้านใน Lombardy ประเทศอิตาลีในช่วงซัมเมอร์อย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วยเมนู Blue Is the Warmest Colour (125 บาท) หนังรักของเด็กสาวผมสีฟ้าอ่อนที่ทางร้านแทนด้วยนมไวท์ช็อกโกแลตผสมอัญชัน เสิร์ฟมาอุ่น ๆ ตามชื่อหนัง ก่อนจะเพิ่มกลิ่นหอมด้วยซินนามอนเผาปิดท้าย เป็นเมนูง่าย ๆ ไม่ว่าใครก็ดื่มได้ เช่นเดียวกันหนังที่ไม่ว่าวัยไหนหรือเพศไหนก็สามารถมีความรักได้แบบไม่มีข้อจำกัด
Sculpture x FICS Photoautomat
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-17.30 น.Director’s Cup และ Concept Store
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-17.30 น.Poster District
เปิด วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00-19.00 น.