From The House of Fish & Chips to Local Seafood Bar
หลายคนอาจจะเคยคุ้นหูคุ้นตากับ ‘Fishmonger’ หรือร้าน Fish & Chips เจ้าดังในย่านบรรทัดทอง ที่ต่อยอดมาจากธุรกิจขายปลาอย่าง ‘ลันตาปลาไทย’ ครั้งนี้ได้ทำการเปิดบ้านหลังใหม่ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยของปลาไทยที่ส่งตรงจากประมงท้องถิ่นพื้นบ้านของเกาะลันตามาให้ชาวอารีย์ได้ลิ้มลอง นอกจากจะมี Fish & Chips ที่เป็นไฮไลต์ของทางร้านแล้ว ยังเพิ่มเติมในส่วนของเมนูอาหารและเครื่องดื่มอีกมากมาย ให้ทุกคนได้มาอิ่มอร่อยท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ในพื้นที่ที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
Inspired by a Fishing Village
จากแรงบันดาลใจของหมู่บ้านชาวประมงที่เต็มไปด้วยสีสัน นำมาสู่การออกแบบและรีโนเวทร้านสาขาอารีย์ ที่ยังคงโครงสร้างเดิมของบ้านไม้เก่าอายุกว่า 70 ปีเอาไว้ ก่อนจะเพิ่มเติมสีสันความสดใสด้วยการทาสีฟ้าทั้งหลัง ชวนสะดุดตาด้วยตัวหนังสือ ‘Fishmonger Local Seafood Bar’ ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของสาขานี้ โดยต้องการอยากให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมาเอ็นจอยได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
ด้านในของตัวร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 ชั้นด้วยกัน ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปจะพบกับบรรยากาศของบ้านไม้แสนอบอุ่นที่ถูกออกแบบมาให้เป็นบาร์สไตล์ยุโรป มีมุมเคาน์เตอร์บาร์พร้อมห้องครัวอยู่ด้านหลัง ส่วนชั้นบนมีการเปิดรับแสงผ่านหน้าต่างรอบด้าน ทำให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศความผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในทุกอณู
From Sea to Serve
วัตถุดิบของทางร้านถูกส่งตรงมาจากเกาะลันตาที่ทำประมงโดยวิถีพื้นบ้าน จึงมั่นใจได้เลยว่าปลาไทยของทางร้านการันตีความสดใหม่และมีคุณภาพแน่นอน นอกจากปลาประจำร้านที่มีให้เลือกมากมายหลายชนิดแล้ว ในแต่ละวันยังมี Fish of The Day หรือปลาพิเศษที่จะคอยหมุนเวียนมาให้ลิ้มลองกันอยู่เรื่อย ๆ นำเสนอเมนูสไตล์ Comfort Food แสนอร่อยให้ทุกคนได้เอ็นจอยตลอดวัน
มาถึงแล้วต้องห้ามพลาดกับเมนูไฮไลต์อย่าง Fish & Chips (240 บาท) (ราคาขึ้นอยู่กับชนิดของปลา) จานนี้มีความพิเศษอยู่ที่เทคนิค Beer Batter หรือการผสมแป้งกับเบียร์ก่อนจะนำไปทอด ทำให้ได้ความกรอบและสัมผัสบางเบา ผสานความอร่อยเข้ากับเนื้อนุ่ม ๆ ของปลาเหลืองญี่ปุ่นที่เป็น Fish of The Day เคียงมากับเฟรนช์ฟรายส์ทอดและซอสทาร์ทาร์เข้ากันได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูที่แนะนำว่าต้องลอง คือ Fish Burger (No Chips) (280 บาท) (ราคาขึ้นอยู่กับชนิดของปลา) เบอร์เกอร์ปลาที่พิเศษด้วยบริยอชบันนุ่มละมุน เสิร์ฟมาพร้อมกับปลาอังเกยทอดจากเทคนิค Beer Batter ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสทาร์ทาร์สูตรเฉพาะของทางร้าน ให้ความหอมพร้อมรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ เข้ากันได้อย่างลงตัว
ตามด้วย Grilled Fish Caesar Salad (210 บาท) (ราคาขึ้นอยู่กับชนิดของปลา) ซีซ่าร์สลัดปลาย่าง ที่ทางร้านเลือกใช้ปลาช่อนทะเลเนื้อเฟิร์มกำลังดี เสิร์ฟพร้อมผักสลัดเบบี้คอสที่ให้สัมผัสกรุบกรอบ แล้วราดด้วยทาร์ทาร์ซอสสูตรของทางร้าน เป็นอีกหนึ่งจานที่ทานได้เพลิน ๆ
นอกจากเมนูฟิชแอนด์ชิปส์ เบอร์เกอร์ และสลัดแล้ว สาขานี้ยังมีเมนูทาปาสพร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยและเอ็นจอยกับกลุ่มเพื่อน แนะนำ Fishmonger Platter (790 บาท) ฟิชมองเกอร์รวมมิตรที่เสิร์ฟมา 3 อย่างด้วยกัน จานแรกเป็น ‘Chorizo Prawn’ กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งทะเลที่ให้สัมผัสกรอบและรสชาติหวาน ก่อนจะนำมาผัดกับ Chorizo หรือไส้กรอกสเปน ให้รสชาติเข้มข้นด้วยพริกแห้งและกระเทียม ตามด้วยจานที่สอง ‘Pesto Squid’ ปลาหมึกเพสโต้ ที่ทางร้านเลือกใช้ปลาหมึกหอมที่ไม่ผ่านการแช่น้ำจืดระหว่างส่งจากทะเล ทำให้มีความสดและรสชาติหวาน คลุกเคล้าเข้ากับซอสโหระพารสกลมกล่อม จานสุดท้ายเป็น ‘Garlic Prawn’ มีส่วนผสมของกุ้ง น้ำมัน กระเทียม และพริกแห้ง ทานคู่กับ Cuban Bread ขนมปังคิวบันโฮมเมดของทางร้าน เข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี
ปิดท้ายกันที่ Spicy Pomodoro Fish (290 บาท) สปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่มผัดคลุกเคล้าเข้ากับซอสมะเขือเทศรสเผ็ดกำลังดี เสิร์ฟพร้อมปลาที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล จานนี้ให้รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน ถูกปากคนไทย
ต้องจองก่อนล่วงหน้าเท่านั้น! ผ่านระบบ ‘รับบัตรคิวภายในวัน’ ทาง LINE Official ของทางร้าน
- เปิดจองคิวตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป (ร้านเปิด 12.00 น.)
- แอด LINE ร้าน @fishmonger แล้วกดปุ่ม ‘จองคิว สาขาอารีย์’ (อย่าลืมกด Allow Location)
- สามารถกดเข้าไปเช็คได้ว่าวันนี้คิวเยอะหรือไม่ ก่อนตัดสินใจที่จะจองหรือเดินทางมาที่ร้าน
- ลูกค้าที่อยู่ในโลเคชันไม่เกิน 4 กม. จากร้าน สามารถกดจองคิวผ่านปุ่ม ‘จองคิวอารีย์’ ได้เลย
- ลูกค้าสามารถมารับคิวหน้าร้านได้เช่นกัน แต่จะต่อหลังจากคนที่จองผ่านทาง LINE มาก่อนหน้านี้
- ระบบรันคิวจะเเจ้งเตือนทางไลน์ 5 คิวก่อนถึงคิวลูกค้า
- หากถึงคิวลูกค้าเเล้วยังไม่มาเกิน 15 นาที ทางร้านขออนุญาตให้สิทธิ์คิวถัดไป