From The Roastery Coffee To The Perfect Cup
จากโรงคั่วบดกาแฟที่มีการคัดสรรเมล็ดกาแฟที่ดีและพัฒนาการคั่วกาแฟอย่างสม่ำเสมอของแบรนด์ Flow Coffee Roasters ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงกาแฟบ้านเรา จากการรับคั่วกาแฟส่งให้กับหลากหลายแบรนด์ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยการดูแลของ คุณมิงค์-อธิวัฒน์ พิเชฐธรรมสาร และ คุณปราณ โฆษิตธนากร ที่นำเอาประสบการณ์การทำงานด้าน Specialty Coffee เมื่อครั้งอยู่ประเทศออสเตรเลียมาประยุกต์ใช้กับโรงคั่วบดและร้านกาแฟที่ไทย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเมล็ดกาแฟคุณภาพ เครื่องคั่วบดคุณภาพ ไปจนถึงการให้บริการที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ล่าสุด Flow Coffee Roasters ได้ส่งต่อความอร่อยไปยังคอกาแฟมากขึ้น ด้วยการเปิดเป็นร้านในลักษณะของ Speed Bar บาร์กาแฟขนาดกะทัดรัด ภายในโครงการ Silom Connect ใจกลางย่านออฟฟิศสีลม ซึ่งอยู่ติดกับ BTS ช่องนนทรี ให้ทุกคนได้มีโอกาสได้ลองดื่มกาแฟคุณภาพดี รสชาติถูกใจ ในราคาที่ย่อมเยา
นอกจากรับคั่วบดเมล็ดกาแฟ เปิดร้านกาแฟเป็นหลักแล้ว ทางแบรนด์ยังเปิดสอนทำกาแฟลาเต้อาร์ต, Barista Training พร้อมจัดจำหน่ายเครื่องทำกาแฟจากประเทศเนเธอร์แลนด์ รุ่นติดอันดับท็อปของโลก เพื่อให้ผลลัพธ์ในทุก ๆ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านกาแฟมีคุณภาพและได้รับการยอมรับมากที่สุด
Quality Comes First
เมื่อได้ชื่อว่าเป็นร้านกาแฟที่มีโรงคั่วบดเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าเรื่องของคุณภาพ รสชาติกาแฟของที่นี่นั้นต้องไม่เป็นรองใคร Flow Coffee Roasters ควบคุมคุณภาพทุกด้านเองทั้งหมด ทั้งกระบวนการคั่วบด คัดสรรเมล็ดพันธุ์ดี สามารถสั่งทำ Costom Blend ได้ ให้คนดื่มเลือกโพรไฟล์กาแฟรสโปรดปรานของตัวเองโดยเฉพาะ
Feel Free At Speed Bar
สำหรับสาขานี้ เน้นเสิร์ฟเครื่องดื่มในลักษณะของ Grab & Go ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็สามารถนั่งดื่มที่บาร์หน้าร้าน ร่วมพูดคุยกับบาริสต้าอย่างเป็นกันเองแบบสบาย ๆ ได้ด้วย
Let’s Try Your Favorite Drinks
ในส่วนของเมนูกาแฟ Speed Bar แห่งนี้จะเสิร์ฟกาแฟทั้งเมนูร้อนและเย็น มีหลากหลายแบบให้เลือกดื่ม แต่ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็สามารถบอกกับทางร้านได้ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของกาแฟ ความหวาน ความเข้มข้นของกาแฟ แต่ละเดือนจะมีเมนูใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ที่ทางร้านเป็นคนครีเอท ลงมือทำเองทุกขั้นตอน
หากเป็นเมนูร้อน แนะนำ Flat White (50 บาท) กาแฟใส่นมร้อนที่ทางร้านใช้ Double Ristretto แม้จะเป็นเพียงแก้วเล็ก ๆ แต่ให้รสสัมผัสของกาแฟที่เข้มข้นและนุ่มละมุนเป็นที่สุด
ตามมาด้วย Dirty Hazelnut (55 บาท) กาแฟ House Blend ผสมนมที่ให้ความเข้มข้น รสกลมกล่อม ให้ความหวานมันของนม และความหอมของฮาเซลนัทอย่างมาก
หากใครอยากสัมผัสรสชาติของกาแฟแบบเน้น ๆ ต้องลอง Drip (50 บาท) กาแฟดริปที่สามารถเลือกเมล็ด Single Origin ซึ่งแต่ละเดือนมีหลากหลายสายพันธุ์หมุนเวียนมาให้ได้เลือกกัน อย่าง Rwanda ที่ให้กลิ่นแอปเปิ้ล ดื่มแล้วทิ้งท้ายด้วยความสดชื่นชุ่มคอ
ส่วนเมนูเย็น ลองสั่ง Iced Espresso Shake (55 บาท) เอสเพรสโซเชคที่ใช้เมล็ดกาแฟ House Blend ผสมนมเย็น แล้วท็อปด้านบนด้วยเอสเพรสโซช็อตที่ให้รสชาติกลมกล่อม ไม่เข้มจนเกินไป แม้จะเป็นเมนูกาแฟคลาสสิกที่หลายคนคุ้นเคย แต่ให้รสชาติที่ลงตัวมาก แถมยังมี 3 ไซรัป ทั้งวานิลลา คาราเมล และฮาเซลนัท ให้เลือกดื่มตามชอบอีกด้วย
ทางร้านมีกาแฟ Cold Brew Latte แบบขวดให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สั่งกลับไปดื่มที่บ้านด้วย
ไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูกาแฟเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ที่มาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะเป็น Matcha Lava (55 บาท) ชาเขียวนมที่ให้ความหอมและความเข้มข้นของผงมัทฉะแท้ ๆ จากชิซูโอกะ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น เสิร์ฟในรูปแบบของครีมลาวา ที่คนดื่มสามารถบีบลงในนมสดเองได้ เพื่อให้ได้รสหวานตามชอบแบบพอดิบพอดี หรือจะเป็น Chocolate Lava (55 บาท) ช็อกโกแลตนมเข้มข้นนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ทางร้านนำมาผสมผสานรสชาติในสูตรเฉพาะของแบรนด์เอง
นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ที่ร้านยังมีเมนูโฮมเมดเบเกอรี่อย่าง Canale' (50 บาท) ที่ทำสดใหม่เสิร์ฟทุกเช้า และ Caramel Pudding (40 บาท) ที่สั่งมาทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน
