From Provence To Bangkok
สัมผัสประสบการณ์อาหารฝรั่งเศสทางตอนใต้ ที่โดดเด่นด้วยรสชาติและบรรยากาศเก๋ ๆ แสนสบายที่ French St. ร้านอาหารฝรั่งเศสสไตล์ตรีทฟู้ด ทางเลือกใหม่บนถนน Rue de Brest หรือซอยเจริญกรุง 36 ถ่ายทอดความอร่อยตามแบบฉบับของฝรั่งเศสทางตอนใต้หรือที่รู้จักกันในชื่อของโพรวองซ์ เพื่อสะท้อนถึงวัฒนธรรมการทานอาหารของฝรั่งเศส ภาพการสังสรรค์บนโต๊ะอาหารของผู้คนที่นั่นในอีกมุมหนึ่งให้คนไทยได้ทำความรู้จัก และเข้าถึงรูปแบบการทานอาหารของบ้านเมืองเขามากขึ้น แบบไม่ต้องมีพิธีรีตองใด ๆ
Beautiful Serene Garden
French St. ตกแต่งร้านด้วยสีโทนอ่อนและเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อมเพิ่มความร่มรื่นด้วยต้นไม้เขียวปลูกทั่วร้าน ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานข้าวในสวน มีเคาน์เตอร์บาร์แบบเปิดโล่ง ให้ได้ดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรดแบบชิลล์ ๆ ในช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ หรือถ้าใครอยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกนิดขอแนะนำให้ขึ้นไปนั่งทานอาหารชั้นบนซึ่งเป็นโซนห้องแอร์ ซึ่งได้ความสบายและโรแมนติกไปอีกแบบ
Selected Local Ingredient
ในส่วนของอาหาร คอนเซ็ปต์ทุกเมนูของที่นี่ สร้างสรรค์ความอร่อยโดยเชฟ Frederic Guerin ชาวโพรวองซ์โดยกำเนิด ด้วยประสบการณ์การทำอาหารมากว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นฝึกงานในแบรนด์ระดับโลกอย่าง Relais & Chateaux และ Eden Rock St Barths จนเติบโตในเส้นทางของการเป็นเชฟในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ หลายร้านด้วยกัน
เชฟถ่ายทอดวัฒนธรรมโพรวองซ์ผ่านการนำเสนออาหารฝรั่งเศสทางตอนใต้ในรูปแบบสมัยใหม่ แต่ไม่ลืมที่จะใส่ใจในคุณภาพเป็นอันดับต้น ๆ ตามความตั้งใจของทางร้านที่ว่า ‘Eat Better, Live Better’ อาหารทุกจานจะต้องดีต่อสุขภาพ ถูกหลักโภชนาการ โดยทางร้านได้นำเข้าวัตถุดิบหลักตรงมาจากฝรั่งเศส สมุนไพรและผักต่าง ๆ ก็มีการสนับสนุนผลิตผลจากโครงการหลวง รวมทั้งได้รับความร่วมมือจาก COCA Boutique Farm ในการปลูกผักและสมุนไพรที่หาทานที่ไหนไม่ได้ มีเฉพาะที่ French St. เท่านั้น และทุกเมนูจะปรุงสุกด้วยน้ำมันมะกอกเท่านั้น ไม่มีการใช้ครีมหรือเนยให้เสียรสสัมผัสอีกด้วย
French Dining Experience
เมนูแนะนำของทางร้าน เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกันที่เมนู Starter อย่าง The Famous Marseille Fish Soup (550 บาท) ซุปบุยยาเบส หรือซุปทะเลสไตล์ Traditional Soup ซึ่งใช้ปลาจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนล้วน ๆ ที่ผ่านการต้ม บด และเคี่ยวจนได้เนื้อซุปเข้มข้น ได้สัมผัสกลิ่นทะเลอ่อน ๆ เสิร์ฟกับกรูต็องและซอสลุย ใครที่ชอบทานอาหารทะเลต้องห้ามพลาด
ตามมาด้วย Squid Ink Croquette (350 บาท) โครเกต์หรือขนมปังบดผสมหมึกดำแล้วนำไปทอดกรอบ สอดไส้ในด้วยเนื้อปลาหมึกกับเบชาเมลซอส เสิร์ฟบน Saffron Aioli ทำให้เมนูทานเล่นธรรมดา ๆ ดูไม่ธรรมดาขึ้นมาทันที
หรือจะเป็น Bell Pepper Bruschetta (230 บาท) ขนมปังอบหน้าชีสนมแพะผสมแอนโชวี ท็อปด้วยพริกหวานย่างเนื้อนุ่ม ก็ดีไม่น้อย
มาถึงจานหลักกันบ้างกับ Honey Duck(420 บาท) เป็ดอบน้ำผึ้งรสกลมกล่อม เนื้อนุ่ม ราดน้ำเป็ด Reduction รสเข้มข้น เสิร์ฟมาพร้อมกับลูกแพร์ตุ๋นและหัวไชเท้าราดซอสสูตรพิเศษ
จากนั้นมาต่อกันที่ Snapper Papillote (380 บาท) ปลาอบสไตล์ฝรั่งเศสที่อบเนื้อปลาสด ๆ พร้อมผักและสมุนไพรหลายชนิดในกระดาษที่ห่ออย่างมิดชิด เพื่อดึงกลิ่นหอมของสมุนไพรให้ซึมเข้าไปในเนื้อปลามากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนรักสุขภาพต้องลอง
ก่อนจะปิดท้ายความอร่อยในแบบฝรั่งเศสระหว่างมื้ออาหารนี้ด้วยเมนูของหวานอย่าง Nougat Glace (280 บาท) ขนมหวานหน้าตาคล้ายไอศกรีม ทำขึ้นจากไข่ขาว ครีมสด และน้ำตาล ผสมถั่วพิสตาชิโอ อัลมอนด์ และใส่น้ำผึ้งให้มีรสหอมหวาน เป็นขนมสูตรเฉพาะของ (คุณยาย) ครอบครัวเชฟ Frederic
Makes You Feel Like Summer Never Ends
และไม่เพียงแต่รสชาติอาหารเท่านั้น เครื่องดื่มดับร้อนก็รสชาติดีไม่แพ้กัน ได้บาร์เทนเดอร์ฝีมือดี การันตีด้วยประสบการณ์จากบาร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ เชี่ยวชาญการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ให้ได้รสชาติที่เข้ากันดีกับแต่ละเมนูอาหารของทางร้าน แถมยังเข้ากับสภาพอากาศเมืองไทยด้วย แนะนำ St Tropez (320 บาท) ค็อกเทลที่ทางร้านเบสด้วย Rose Wine เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของฝรั่งเศส มีส่วนผสมของเกรปฟรุ๊ตที่ให้รสชาติกลมกล่อม ดื่มง่าย