Thai Sweet Cafe in Pranakorn
เอาใจคนรักไอศกรีมโฮมเมดและขนมไทยด้วยการพาไปเช็คอินที่ เกลอกัน คาเฟ่จิ๋วสุดน่ารักบนถนนจักรพงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายใน โรงแรมบ้านชาติ อีกหนึ่งทำเลที่พักและ Community Space ใจกลางย่านพระนคร พิกัดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เมื่อเดินทางมายังถนนข้าวสารแล้ว มักจะแวะมาแฮงก์เอาท์กันในวันสบาย ๆ ที่โรงแรมแห่งนี้อยู่เสมอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทางคาเฟ่เกลอกันได้เลือกโลเคชั่นนี้เป็นหมุดหมายของคนที่อยากลิ้มลองรสชาติความเป็นไทยผ่านหลากเมนูไอศกรีมโฮมเมดหลายรสชาติ ซึ่งจับคู่มาพร้อมขนมไทย และเมนูเครื่องดื่มไทยประยุกต์ นำเสนอความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากเมนูขนมทั่วไป ชวนให้เหล่าสายหวานได้ไปร่วมพิสูจน์ความอร่อยกันถึงที่
Glurr Gann Story
ด้วยความที่ คุณเกรซ-ศุภาพิชญ์ คูเกษมรัตน์ สาวสวยผู้เป็นเจ้าของร้าน ชอบทานไอศกรีมและขนมไทยเป็นชีวิตจิตใจมาก จึงสานต่อในสิ่งที่ตัวเองรักโดยการไปเรียนทำไอศกรีมและขนมขนมอย่างจริงจัง จนกระทั่งสามารถครีเอทเมนูไอศกรีมโฮมเมดสูตรเฉพาะได้หลากหลายรสชาติ ที่เมื่อนำมาเสิร์ฟพร้อมกับขนมไทยรสดั้งเดิมที่ทางร้านคัดสรรมาจากเจ้าเก่าแก่ ทานเป็นประจำ ได้รสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว นับเป็นไอเดียแปลกใหม่ ถ่ายทอดความเป็นไทยออกมาได้น่าสนใจทีเดียว
ส่วนที่มาของคำว่า ‘เกลอกัน’ นั้น มาจากการที่คุณเกรซชอบทำขนม ชอบทานขนม และคุณน้าของคุณเกรซที่ชอบทานขนม (ไทย) เป็นการรวมความชอบของผู้ที่รักในสิ่งเดียวกัน จนกลายมาเป็นไอเดียในการครีเอทเมนูไอศกรีมเสิร์ฟคู่กับขนมไทย เป็นของคู่กัน เหมือน ‘เกลอกัน’ ที่ขาดกันไม่ได้ นั่นเอง
White & Warm
สำหรับบรรยากาศภายในร้านมาในธีมสีขาวสะอาดตา สอดคล้องไปกับมู้ดแอนด์โทนของตัวอาคารสไตล์ไทยประยุกต์ที่ทางคาเฟ่นำเอาเฟอร์นิเจอร์ โซฟาเก้าอี้สาน โต๊ะหินอ่อน โคมไฟ และกรอบรูปแนววินเทจที่เพิ่มกลิ่นอายความคลาสสิกให้กับตัวร้านดูอบอุ่น เหมือนได้เข้ามาทานไอศกรีมภายในบ้าน และถึงแม้ว่าคาเฟ่จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ก็สามารถแบ่งโซนนั่งทานไอศกรีมและขนมไทยได้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นโซนด้านในที่มีมุมโซฟาและโต๊ะหินอ่อนใกล้ ๆ กันกับตู้ไอศกรีม หรือโซนด้านนอกที่มีการจัดวางโต๊ะเล็กแบบเป็นส่วนตัวให้นั่งทานตามอัธยาศัย อีกทั้งยังมีมุมเก๋ ๆ อย่างภาพเพนท์ลายดอกไม้และป้ายชื่อร้านให้ได้ถ่ายภาพกันอีกด้วย
Perfect Combination
ขึ้นชื่อว่าไอศกรีมโฮมเมด เพราะฉะนั้นเรื่องความพิเศษของเมนูไอศกรีมที่นี่ย่อมแตกต่างจากที่อื่น ๆ แน่นอน โดยคุณเกรซจะเป็นคนลงมือทำเองทั้งหมด นับตั้งแต่การเลือกซื้อวัตถุดิบคุณภาพ ส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ทั้งน้ำกะทิ น้ำผลไม้คั้นสด ที่ทำสดใหม่แบบวันต่อวัน ไปจนถึงขั้นตอนการทำไอศกรีมที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ผสมผสานเข้ากับความแปลกใหม่ที่นำไอศกรีมรสชาติต่าง ๆ มาจับคู่กันกับขนมไทยที่เบสรสชาติด้วยส่วนผสมอย่างเดียวกัน ปัจจุบันทางคาเฟ่มีไอศกรีมโฮมเมดให้ได้ทานทั้งหมด 9-10 รสชาติ (ราคาสกู๊ปละ 65 บาท เพิ่มท็อปปิ้ง 10 บาท) พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยไอศกรีมผลไม้ที่ครีเอทตามช่วงฤดูกาล เช่น ไอศกรีมมะยงชิด ไอศกรีมอะโวคาโด ไอศกรีมน้อยหน่า เป็นต้น
ในส่วนของเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่ Ta Goh (89 บาท) ไอศกรีมรสเผือกที่ทำมาจากกะทิสดและเนื้อเผือกปั่นล้วน ๆ จึงได้รสชาติของเผือกแบบเน้น ๆ ได้ความครีมมี่ เข้มข้น หอมหวานมันอย่างเป็นธรรมชาติ เสิร์ฟมาคู่กันกับขนมไทยอย่างตะโก้เผือกที่ทางร้านคัดสรรมาจากเจ้าประจำเก่าแก่ที่ครอบครัวคุณเกรซทานบ่อย ๆ ภายในตะโก้มีเผือกชิ้นโต เมื่อนำมาจับคู่กันกับไอศกรีมเผือกจะช่วยเบรคความหวานของขนมตะโก้ ให้รสชาติที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วย Sang Ka Yaa Fuk Tong (99 บาท) ไอศกรีมกะทิคั้นสดรสละมุน ท็อปด้านบนมาด้วยฝอยทอง เสิร์ฟพร้อมขนมสังขยาฟักทอง ที่ให้รสเข้มข้น หอมมัน ตักทานพร้อม ๆ กัน ฟินอย่าบอกใคร
อีกหนึ่งในซิกเนเจอร์เมนูที่ไม่ลองไม่ได้ก็คือ แสนคำนึง ลอยคอ (180 บาท) เมนูโฟลทที่หลอมรวมระหว่างไอศกรีม โกโก้ และขนมหม้อแกงเข้าไว้ด้วยกัน โดยทางร้านได้นำเอาไอศกรีมมะม่วงเสาวรสที่ทำจากมะม่วงน้ำดอกไม้สุกกำลังทานกับน้ำเสาวรสคั้นสด รสเข้มข้น เปรี้ยวอมหวานกำลังดี มาเสิร์ฟคู่กันกับขนมหม้อแกงที่ปั่นกับนมสดได้รสนุ่มละมุนเหมือนคัสตาร์ด ก่อนจะโรยด้วยผงโกโก้หอม ๆ ท็อปบนตัวขนมและตกแต่งจานเป็นลวดลายกนก ผสานรสชาติทั้งหมดได้อย่างลงตัว เป็นอีกเมนูแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำใครเช่นเคย
สำหรับเมนู 'แสนคำนึง ลอยคอ' ทางคุณเกรซได้รับสูตรมาจาก คุณนนท์-ประภากมล หุ่นใย เจ้าของร้าน Café au Chum เมื่อครั้งที่เคยได้ร่ำเรียนการทำขนมมาก่อนหน้าที่จะเปิดร้านเป็นของตนเอง แล้วชูจุดเด่นด้วยไอศกรีมมะม่วงเสาวรสสูตรโฮมเมดของทางร้าน
ก่อนจะปิดท้ายด้วย Coconut Affogato (145 บาท) อัฟโฟกาโต้หรือช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่ราดไอศกรีมกะทิ ที่ให้ความหอมจากทั้งไอศกรีมกะทิและกาแฟเอสเพรสโซ่ ซึ่งเบลนด์รสชาติละมุนไมเข้ากันได้ดีไม่แพ้อัฟโฟกาโต้ทั่วไปที่มักจับคู่กับไอศกรีมวานิลลาเลยทีเดียว
Signature Drinks
ถัดมาที่เมนูเครื่องดื่มกันบ้าง ซึ่งของทางเกลอกันก็โดดเด่นไม่แพ้เมนูไอศกรีมโฮมเมดเชียวล่ะ ลองสั่ง Banana Latte (120 บาท) กาแฟลาเต้รสนุ่มละมุนที่เพิ่มความหอมหวานด้วยไซรัปกล้วยหอม เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มดื่มกาแฟ หรือคนที่ไม่ดื่มกาแฟที่สุด เพราะดื่มง่าย ให้รสที่ไม่เข้มขมจนเกินไป
หากกำลังมองหาเครื่องดื่มรีเฟรชชิ่งอยู่ละก็ ต้องลอง Sweet Summer (145 บาท) กาแฟดำผสมน้ำผลไม้ที่ด้านล่างของแก้วจะมีส่วนผสมของไซรัปราสป์เบอร์รีและน้ำแอปเปิ้ล และด้านบนราดด้วยช็อตกาแฟเอสเพรสโซ่ เมนูนี้ให้กลิ่นหอมและรสชาติในแนวฟรุ้ตตี้ เป็นส่วนผสมของความขมที่ผสานเข้ากับรสเปรี้ยวอมหวานของน้ำผลไม้ ดื่มแล้วเรียกคืนความสดชื่นระหว่างวันได้ดีแน่นอน