A room where goûtes flavors meet
ชวนสัมผัสประสบการณ์ทานขนมฝรั่งเศสกับการครีเอตรสชาติใหม่ไม่เหมือนใครที่ Goûtes pâtissière’s room ร้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสบรรยากาศสุดโฮมมี่แห่งย่านบางแวก โดยเลือกเสิร์ฟสารพัดเมนู Homemade Pastry ที่ผสมผสานวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม ออกมาเป็นขนมฝรั่งเศสซึ่งให้เนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ได้ความอร่อยทั้งในแบบดั้งเดิม พร้อมเพิ่มเติมกลิ่นอายความเป็นเอเชียนลงไปให้เหล่านักชิมสายขนมได้ลิ้มลองความแปลกใหม่ที่ต้องรับรองว่าจะต้องถูกปากและถูกใจแน่นอน
Feel comfortable with minimal vintage vibes
ร้านขนมแห่งนี้มีขนาดกะทัดรัด ตั้งอยู่ภายในพื้นที่โครงการ Workplace ราชพฤกษ์-จรัญ ซึ่งเมื่อมาถึงที่ร้าน คุณก็จะได้พบกับบรรยากาศของความเป็นบ้านอบขนมที่เต็มไปด้วยมู้ดแสนอบอุ่น ทั้งจากการตกแต่งร้านบวกกับการต้อนรับโดย คุณเฟิร์น-ณิชาภัทร พัลลภ ผู้เป็นเจ้าของร้าน เจ้าของสูตรขนมและลงมือทำขนมเองทั้งหมด ร่วมด้วย คุณฟอยล์-ภัทรานิษฐ์ พัลลภ น้องสาวของคุณเฟิร์นผู้ดูแลด้านการออกแบบ การตลาดและแบรนด์ดิ้งให้กับ Goûtes pâtissière’s room ซึ่งเธอทั้งคู่ได้ลงมาดูแลร้านกันด้วยตัวเองและให้การบริการที่เป็นกันเองกับทุก ๆ คน
สำหรับชื่อร้านขนมนั้นอ่านว่า ‘กุทท์ (Goûtes)’ มาจากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งแปลว่า ‘รสชาติ’ ด้วยความที่คุณเฟิร์นนั้นเรียนจบปริญญาตรีด้านภาษาฝรั่งเศสมาก่อน บวกกับความชอบทำขนมเป็นทุนเดิม ภายหลังจากที่เธอทำงานอยู่ที่เมืองไทยสักพัก จึงได้ตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่รักด้วยการเดินทางไปเรียนทำขนมต่อที่แคว้น Normandy ประเทศฝรั่งเศส คอนเซ็ปต์หลักของทางร้าน จึงเป็นการเสิร์ฟความอร่อยด้วยขนมสไตล์ฝรั่งเศส แต่เป็นการนำเสนอในลักษณะของ New Generation of Dessert รังสรรค์เมนูขนมต่าง ๆ จากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม แต่ให้ความแปลกใหม่ ทั้งในแง่ของรสชาติและเนื้อสัมผัสที่มีความวาไรตี้ สร้างความแตกต่างจากเดิมด้วยการผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นเอเชียนลงไปด้วย เพื่อให้นักชิมทุกคนได้รู้สึกสนุกไปกับการทานขนมสไตล์ฝรั่งเศสมากขึ้น (และเมื่อถึงช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ทางร้านก็จะครีเอต Special Menu ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย)
โดยทางคุณเฟิร์นอยากให้ที่นี่เป็นเหมือน ‘pâtissière’s room’ หรือ Pastry Room พื้นที่ที่คนรักการทานขนมได้แวะเข้ามาอิ่มอร่อยกับเมนูขนมที่ชื่นชอบ ซึ่งทางร้านจะทำหน้าที่เป็น connector เชื่อมโยงผู้คนที่หลงใหลในสิ่งเดียวกันให้ได้แวะมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ทานขนมอร่อย ๆ กันที่นี่ ภายในร้านจึงมีหลากหลายโซนนั่งสบาย ๆ ให้เลือกสรร รวมถึงการเลือกใช้ธีมสีเขียวที่ค่อนข้างสดใส เพื่อสื่อถึงความเป็นขนมหวาน อีกทั้งยังดูสะดุดตาและผ่อนคลายสายตาไปในคราวเดียวกันอีกด้วย
ส่วนแนวการตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์มินิมัลวินเทจ เรียบง่าย ไม่หรูหราจนเกินไป โดยจะเห็นได้จากการเลือกใช้โคมไฟ เชิงเทียน ซึ่งช่วยเสริมบรรยากาศโดยรวมภายในร้านให้ดูอบอุ่นและเข้ากับความเป็นร้านขนมฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี
Goûtes's recommend
หลากหลายเมนูขนมฝรั่งเศสที่ทางร้านครีเอตความอร่อยนั้น ทำสดใหม่แบบวันต่อวัน โดยวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียมทั้งหมดทางคุณเฟิร์นจะเป็นผู้คัดสรรเองทั้งหมด โดยเฉพาะการเลือกใช้แป้งและเนย montaigu จากแคว้นปัวตู-ชาร็องต์ (Charentes-Poitou) นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีสัญลักษณ์ของ AOP การันตีคุณภาพตามมาตรฐานของทางฝรั่งเศส ให้กลิ่นหอมและรสชาติแบบถั่วเฮเซลนัทที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากับตัวแป้งเเละการทำครีมสอดไส้ขนมได้เป็นอย่างลงตัว
มาถึง pâtissière’s room กันทั้งที คนรักขนมตัวจริงต้องห้ามพลาด ‘ขนมพายสไตล์ฝรั่งเศสฟิวชัน’ ที่ผสมผสานรสชาติของวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก (มีให้เลือกทานทั้งหมด 3 รสชาติ) แนะนำให้ลอง Midnight Apple Pie (150 บาท) พายไส้แอปเปิ้ล ที่ทางร้านเลือกใช้แอปเปิ้ล envy บวกกับเทคนิคเฉพาะที่มีการนำแอปเปิ้ลลงไป poached กับน้ำผึ้ง เนย เเละฝักวานิลลาจากมาดากัสการ์เป็นเวลา 1 คืน ก่อนจะนำไปกวนเเละนำเข้าเตาอบ ได้เท็กซ์เจอร์ของแป้งพายที่มีความกรอบนอกนุ่มใน และได้ความอร่อยหอมหวานของไส้แอปเปิ้ลไปพร้อม ๆ กัน
ท้าชิงความอร่อยด้วย Charming Corn Pie (Corn + Hojicha)(150 บาท) พายไส้ข้าวโพดที่เป็นการผสมผสานรสชาติแบบใหม่ โดยการนำชาโฮจิฉะมาผสม ทำให้ได้รสชาติความละมุนของข้าวโพดเเละได้กลิ่นหอมไหม้นิด ๆ ของชาเขียว ส่วนตัวฐานด้านล่างเพิ่มความพิเศษด้วย salted almond caramel crust เข้าไป ทำให้ได้เนื้อสัมผัสของความกรุบกรอบ พร้อมทิ้งความหอมเป็น aftertaste ไว้ในปาก เป็นการเปิดมิติใหม่ ๆ ของรสชาติได้เป็นอย่างดี
ถัดจากเมนูพาย แนะนำให้ลองสั่ง Camembert Cheese (Cake) Board (295 บาท) เซ็ตขนมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทาน cheese board หลังมื้ออาหารในประเทศฝรั่งเศส โดยทางร้านอยากให้คนทานได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการทานขนม ผ่านการจำลองวิธีการทานชีสบอร์ดแบบย่อส่วน โดยส่วนประกอบของขนมเซ็ตนี้จะประกอบไปด้วยแป้งทาร์ต ชีสกามองแบร์ (Camembert)(ก้อนชีสจำลอง ผิวเคลือบด้านนอกจะทำมาจากถั่วหลากชนิดที่นำไปปั่นละเอียดผสมเข้ากับไวท์ช็อกโกแลต) ที่ขึ้นชื่อของแคว้น Normandy มาเป็นส่วนประกอบหลัก พรีเซนต์ออกมาในรูปแบบของชีสเค้ก ตามด้วยคุกกี้ แครกเกอร์ ส่วนด้านข้างที่เสิร์ฟมาพร้อมกันนั้นจะเป็นแยมแอปเปิ้ลยูซุ สตรอเบอร์รีสด และผลไม้อบแห้งที่มาช่วยตัดรสชาติ ตัดความเลี่ยนของชีส โดยเป็นการเพิ่มกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับความสดชื่นของผลไม้แนวซีตรัส เสริมรสชาติโดยรวมของขนมให้กลมกล่อมลงตัวมากขึ้น และเป็นการสร้างความแตกต่างให้การทานขนมฝรั่งเศสมีความน่าสนใจ ไม่จำเจ
วิธีการทาน ให้ตัดชีสวางบนแผ่นบิสกิตหรือแครกเกอร์ แล้วทานคู่กับเเยมหรือผลไม้อบแห้งได้ตามความชอบ
และที่ขาดไม่ได้สำหรับใครที่ชอบทานขนมฝรั่งเศส ต้องลอง Strawberry Millefeuille (250 บาท) ขนมมิลล์เฟยสอดไส้ครีมคัสตาร์ด สตรอเบอร์รีสด และราดซอสสตรอเบอร์รีเข้มข้น หอมเนย montaigu เต็ม ๆ คำ โดยทั่วไปขนมมิลล์เฟยจะถูกดีไซน์ออกมาในลักษณะของแป้งที่กรอบบาง วางซ้อนกันเป็นเลเยอร์ ซึ่งเวลาทานตัวแป้งจะแตกร่วนง่าย ทานยากสักหน่อย ทางร้านจึงครีเอตรูปลักษณ์ของขนมเสียใหม่ พร้อมมาในลักษณะของถ้วยไอศกรีมที่สามารถตักทานได้ง่ายขึ้น ก่อนจะซ่อนเลเยอร์ด้วยเค้กลงไปในตัวขนมด้วยเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสในการทานให้ขนมมิลล์เฟยสูตรพิเศษนี้มีความแปลกใหม่กว่าที่เคย
นอกจากเมนูขนมที่ทางร้านเสิร์ฟความอร่อยเป็นหลักแล้ว ยังมีเครื่องดื่มประเภทกาแฟและน้ำผลไม้ให้สั่งมาดื่มควบคู่กันอีกด้วย แนะนำ Like a glass of red wine (135 บาท) เครื่องดื่มแก้วพิเศษที่มีส่วนผสมของน้ำองุ่นชีราส (Shiraz) และชาเอิร์ลเกรย์ ผสมผสานรสชาติออกมาได้คล้ายกับไวน์แดง พร้อมให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของอบเชย ดื่มแล้วสดชื่น เหมาะสั่งมาดื่มคู่กับเมนู Camembert Cheese (Cake) Board เพราะเรียกความสดชื่นระหว่างวันได้เป็นอย่างดีทีเดียว