The New House of Hands and Heart
หากเอ่ยถึงชื่อร้าน Hands and Heart หลายคนคงรู้จักในฐานะร้านกาแฟบรรยากาศเรียบง่ายที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมืองในย่านสุขุมวิทกันอย่างแน่นอน โดยล่าสุดนี้ได้ขยับขยายความอร่อยด้วยการเปิดบ้านหลังใหม่ภายใต้ชื่อ H________dining ที่ยังคงโดดเด่นด้วยกาแฟอันอัดแน่นไปด้วยคุณภาพไว้เช่นเดิม พร้อมเพิ่มเติมหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม เบเกอรี และอาหารแนว All Day Breakfast สุดพิเศษ ให้คุณได้อิ่มอร่อยท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่นของโลเคชันใหม่ที่ไม่ไกลจากเดิมมากนัก
สำหรับความหมายของชื่อร้าน H________dining ได้ถูกต่อยอดมาจากร้านเดิมของคำว่า Hands and Heart ซึ่งได้มีการขยับขยายโลเคชันที่ใหญ่ขึ้น เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังที่พร้อมให้ทุกคนได้เข้ามาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน เจ้าของร้านจึงนำเอาตัวอักษร H มาใช้ในการตั้งชื่อร้าน โดยเว้นช่องว่างไว้ด้วยเส้นใต้ขีดยาว ๆ ที่ไม่ได้จำกัดความหมายแค่คำว่า Hands and Heart แต่อาจจะเป็นได้ทั้ง Home / House / Hearty และ Happiness รวมถึงการสื่อถึงความหมายดี ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย
Minimal & Functional Style
ทางร้านต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่นแบบเป็นกันเอง โดยตัวร้านเกิดจากการรีโนเวทบ้านหลังเก่าสุดคลาสสิกให้กลายเป็นคาเฟ่และร้านอาหารสุดชิค ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยการตกแต่งในสไตล์ Minimal & Functional ที่เน้นถึงความเรียบง่ายและการใช้งานไปพร้อม ๆ กัน อันโดดเด่นด้วยโทนสีขาวสบายตา รวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อน ที่เราสัมผัสได้ถึงความ Homey เหมือนการนั่งทานอาหารที่บ้าน
Family Meal & Friendly Gatherings Concept
สำหรับเมนูอาหารของทางร้านมีความพิเศษอยู่ที่การนำเสนอความแปลกใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Family Meal & Friendly Gatherings ซึ่งเกิดจากความตั้งใจอันดีที่อยากให้พื้นที่แห่งนี้ได้พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและอาหาร ที่ผสมผสานรสชาติแบบไทย ๆ เข้ากับอิทธิพลของอาหารยุโรป ผ่านกรรมวิธีการทำแบบพิถีพิถัน พร้อมทั้งคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี มาการันตีความอร่อยจากเชฟมากฝีมือ ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงการทำอาหารระดับมิชลินสตาร์มาอย่างยาวนาน โดยเชี่ยวชาญในเรื่องการนำวัตถุดิบมาทวิสต์ใหม่ให้มีกลิ่นอายและรสชาติอย่างเอเชีย
The Good Combination
ทางร้านจึงพร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนู อาทิ เครื่องดื่ม เบเกอรี และ All Day Breakfast รวมไปถึง Natural Wine ให้อิ่มอร่อยตลอดวัน สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มกันที่ Special Menu อย่าง Roasted Eggplant with Chili Sauce (160 บาท) มะเขือม่วงเผาเนื้อชุ่มฉ่ำที่ยังคงความกรอบที่ผิวด้านนอก แล้วคลุกเคล้าความเข้มข้น กลมกล่อม ด้วยส่วนผสมของซอสพริกเผาที่ทางร้านทำเองแบบสูตรเฉพาะไม่เหมือนใคร เสิร์ฟมาพร้อมวิปครีมด้านบนที่เบิร์นไฟอ่อน ๆ ให้สัมผัสถึงกลิ่นหอม พร้อมรสกลมกล่อมที่ลงตัว
ตามมาด้วย Avocado on Toast (220 บาท) ขนมปัง Baguette ที่ทางร้านทำเองแบบสูตรโฮมเมด โดยครีเอตความอร่อยมาพร้อม Greek Yoghurt และครีมอะโวคาโดที่บดคลุกเคล้าไปพร้อมกับเครื่องเทศนานาชนิด ก่อนจะเพิ่มความหอมกลมกล่อมมากขึ้นด้วยการโรยผงบีทรูทปิดท้าย สำหรับเมนูนี้ให้เนื้อสัมผัสของขนมปังแบบกรอบนอกนุ่มใน อีกทั้งยังได้ความหอมมันของครีมอะโวคาโดที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
ต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาด แนะนำ Prawn Bisque Pasta (380 บาท) พาสต้าที่คลุกเคล้าความเข้มข้นด้วยส่วนผสมของซอสหัวกุ้ง อันโดดเด่นด้วยเส้น Linguine ที่ผัดจนเข้าที่กับน้ำสต๊อกหัวกุ้ง ก่อนจะราดด้วยน้ำซอสเสาวรส ที่เชฟบรรจงครีเอตขึ้นเพื่อตัดความเลี่ยนจากกุ้ง โดยเมนูนี้ให้รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมมันที่ไม่เหมือนใคร
จากนั้นมาสัมผัสความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูขนมหวาน แนะนำ Cheese & Wine (260 บาท) อันโดดเด่นด้วยส่วนผสมของ Natural Wine อย่าง Red Wine Reduction ที่นำมารังสรรค์ความอร่อยด้วยชีส และไอศกรีม Parmigiano Cheese Icecream พร้อมเพิ่มความหอมหวานด้วยน้ำผึ้งป่า ก่อนจะโรยด้วยกะหล่ำม่วงดองปิดท้าย ทำให้สัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนของไอศกรีมชีสที่เข้ากันได้ดีกับซอสไวน์แบบลงตัว
ตามมาด้วยอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่อยากให้ลิ้มลองอย่าง Pina Colada (220 บาท) ไอศกรีมสับปะรด ที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยส่วนผสมของ Coconut Crumble เสิร์ฟมาคู่กับ Verbana Flower Candy ที่ทางร้านทำเอง สัมผัสแรกที่ทานจะรู้สึกได้ถึงรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ช่วยสร้างความสดชื่นในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยเมนู ‘H’ Blend Parfait (240 บาท) ขนมหวานที่นำเอาคาแร็กเตอร์ของเมล็ดกาแฟจาก Hand and Heart มาครีเอตเป็นไอศกรีม White Coffee Parfait ที่มาพร้อมความพิเศษของท็อฟฟี่เค้กและ Salted Almond Praline โดยให้ความหอมกลมกล่อม พร้อมรสเค็มกำลังดีจากคาราเมลที่เข้ากันอย่างลงตัว