Bangna's First Premium Omakase Experience
'โอมากาเสะ (Omakase)' วัฒนธรรมการทานแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ที่เหล่าผู้หลงใหลในอาหารญี่ปุ่นเชื่อใจและวางใจในรสชาติที่เชฟมอบให้ นอกจากความเพลิดเพลินที่ได้เฝ้ามองความพิถีพิถันที่เชฟบรรจงรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ตรงหน้า วัตถุดิบก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการสร้างรสชาติที่ดีที่สุด
Hon by Meruto Bangna เป็นอีกหนึ่งร้านโอมากาเสะพรีเมียมระดับต้น ๆ ของเมืองไทย ที่มอบความสำคัญให้กับการเฟ้นหาวัตถุดิบล้ำค่าและรสชาติจากประสบการณ์ รวมทั้งความประณีตของเชฟที่ตั้งใจปรุงในทุก ๆ คำ โดยเฉพาะเนื้อปลาตามฤดูกาล และ Uni ระดับพรีเมียมที่ค่อนข้างหายากและเป็นที่ต้องการในตลาดโลก โดยทางร้านประมูลมาจากตลาดปลา Toyosu Fish Market ที่ญี่ปุ่นในทุก ๆ วัน ก่อนจะส่งตรงมาที่ร้านให้ตามไปสัมผัสความอร่อย แบบไม่ต้องบินไปทานไกลถึงญี่ปุ่น
Hon by Meruto Bangna ร้านโอมากาเสะคุณภาพจากเครือ Meruto ตั้งอยู่ในซอยบางแก้ว ย่านบางนา ตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์ Japanese Contemporary ด้วยวัสดุไม้สีอ่อนสบายตา และซ่อนไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ ตั้งแต่ขอบบัว ผนังฉลุลาย หรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีขาวและประติมากรรมรูปทรงสวย ชวนให้รู้สึกสงบทันทีเมื่อเข้ามายังด้านใน บริเวณร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือโซนเคาน์เตอร์บาร์จำนวน 10 ที่นั่ง สำหรับรองรับลูกค้าแต่ละรอบที่เข้ามาทาน สามารถมองเห็นการรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ของเชฟได้ชัดเจนแบบคำต่อคำ และโซน Private Room ห้องส่วนตัวที่ออกแบบมาอย่างอบอุ่น จำนวน 10 ที่นั่ง รายล้อมด้วยภาพวาดลายเส้นที่มีเสน่ห์ตามแบบฉบับญี่ปุ่น เหมาะสำหรับมานั่งทานกันเฉพาะกลุ่ม
ทางร้านเปิดให้บริการทั้งหมด 4 ช่วงเวลาคือ 12.00 / 14.00 / 18.00 และ 20.00 น. โดยวัตถุดิบจะมีการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วันตามแต่ละฤดูกาล เนื่องจากทางร้านต้องการมอบประสบการณ์การทานโอมากาเสะที่ดีที่สุดและน่าประทับใจให้กับทุกคน
เข้าถึงรสชาติของโอมากาเสะด้วยคอร์สพิเศษ Ohanami Course (9,900 บาท/คน) กับ 18 รสชาติลุ่มลึกจากวัตถุดิบระดับพรีเมียม ที่ส่งตรงมาจากเกือบทุกพื้นที่ของญี่ปุ่นในทุก ๆ วัน ความพิเศษของคอร์สนี้คือการที่ทุกคนจะได้ชิมรสชาติ Premium Uni ไข่หอยเม่นหลากหลายสายพันธ์ุจากหลายหลายแบรนด์ระดับท็อป ในการประมูลของตลาดปลา Toyosu Fish Market เช่น Hadate Uni, Kanemasu Uni และ Daisen Uni เพื่อสัมผัสถึงรสชาติที่ต่างกัน รวมทั้งข้าวสายพันธุ์ Sasanishiki จากจังหวัด Miyagi ข้าวชนิดพิิเศษที่ปลูกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นคอร์สที่รวมสุดยอดวัตถุดิบให้ได้เพลิดเพลินกับเมนูตรงหน้าได้อย่างไม่มีเบื่อ
Ohanami Course
จัดเต็มกับ Appetizer ในพาร์ทแรก ด้วย Kinki ปลาน้ำลึกจาก Hokkaido ที่จับได้เพียงบางฤดูกาลเท่านั้น นำมาบั้งเป็นลายสวย และเบิร์นด้วยไฟจนได้เท็กซ์เจอร์ที่สวยงามและความหอมของมันที่ค่อย ๆ ออกมาจากตัวปลา เสิร์ฟลงบนจานที่ตกแต่งด้วยเกลือหิมาลายัน ท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์ แปะทองคำพร้อมตกแต่งด้วยดอก Hanako Shiso จากใบโอบะสีแดงอย่างสวยงาม ที่ขาดไม่ได้ Bafun Uni ไข่หอยเม่นอีกสายพันธ์ุที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก 1 ใน 3 ของโลก โดดเด่นด้วยเนื้อปลาที่แน่น และรสชาติหวานมันกำลังดี
ถัดมาเป็น Kampachi & Truffle ลูกปลาคัมปาจิที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือน-1 ปี จับได้จากจากอ่าว Akashi เนื้อแน่นติดมันเป็นพิเศษเพราะเป็นปลาที่มักจะว่ายทวนกระแสน้ำอยู่เสมอ นำมาปรุงรสด้วยโชยุเเละเสิร์ฟคู่กับ Black Summer Truffle สไลด์บาง เพื่อช่วยชูรสชาติพิเศษของปลาให้มากยิ่งขึ้น
Kara Uni With Botan Ebi ไข่หอยเม่นซิกเนเจอร์สายพันธุ์ Murasaki ที่หาทานได้เฉพาะในคอร์สนี้เท่านั้น เพราะค่อนข้างหายากในตลาดโลก ทางร้านนำเข้ามาตอนที่ยังมีชีวิตและแกะแบบสด ๆ จากกระดองหอยทำให้ยังคงความหวานชุ่มฉ่ำ ผสมผสานกับรสชาติของน้ำทะเลอันเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทานคู่กับ Truffle ไข่ปลาคาเวียร์ และ Botan Ebi กุ้งที่มีความสดหวานจาก Hokkaido ด้วยการห่อลงบนสาหร่ายโนริที่ส่งตรงมาจากโอกินาวา หอมกลิ่นหอยนางรมที่ชาวบ้านนำมาบด ก่อนทาไปบนสาหร่ายและตากให้แห้ง จนได้รสชาติและกลิ่นที่หอมมากยิ่งขึ้น
มาถึงเมนูในหมวด Nigiri Sushi ที่มีการรวบรวมเนื้อปลาบลูฟินทูน่าระดับท็อป หรือที่รู้จักกันว่าปลา Maguro ปลาสายพันธ์ุที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ Toi ซึ่งเป็นวัตถุดิบหายากและถูกประมูลกันด้วยราคาที่สูงลิ่ว โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ Akami zuke เนื้อปลาส่วนต้นคอที่ไม่มีมันแทรกหรือไขมันน้อยที่สุด Chu-toro ใช้เนื้อที่มีมันแทรกปานกลาง มาจากครีบส่วนหลังของปลา Maguro ท็อปด้านบนด้วยสมุนไพรที่บดรวมกันกว่า 10 ชนิด และสุดท้าย O-toro เนื้อส่วนท้องที่มีไขมันแทรกอยู่มากที่สุด ทำให้มีรสชาติละมุน ละลายในปาก โดยก่อนเสิร์ฟเนื้อปลาทั้ง 3 ส่วน เชฟจะนำไปบ่ม (Aging) กับซอส Zuke ด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมและระยะเวลาที่แตกต่างกันให้เอนไซม์ย่อยสลาย เเละเป็นการเพิ่มรสชาติและความนุ่มมากยิ่งขึ้น ก่อนนำไปรมควันกับไม้แอปเปิ้ลเพื่อเพิ่มความหอมพร้อมเสิร์ฟ
Premium Uni
บรรดา Uni Lover จะต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะนอกจาก Kara Uni และ Live Murasaki Uni ที่เป็นไฮไลต์ของคอร์สนี้ ทุกคนยังมีโอกาสได้ลิ้มลอง Daisen Uni ซึ่งเป็น Rare Item จากอ่าว Aomori ทางตอนใต้ของ Hokkaido มีสีเหลืองทองสวยตามธรรมชาติ และรสชาติที่ต่างจาก Uni ชนิดอื่นอย่างชัดเจน ทั้งรสชาติที่เข้มและสัมผัสที่นุ่มนวลอบอวลภายในปาก ถือเป็นสุดยอดรสชาติแห่งความสดและหวานฉ่ำแห่งท้องทะเล
ไปต่อกันที่ Awabi หรือเป๋าฮื้อญี่ปุ่น นำเข้ามาแบบสด ๆ ก่อนนำมาซูวีกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านถึง 10 ชั่วโมง จนได้ความนุ่มกำลังดีและยังคงผิวสัมผัสของเป๋าฮื้อเอาไว้ได้อย่างดี อีกหนึ่งไฮไลต์ของคอร์สนี้กับ Meruto Don ที่เชฟได้รวมสุดยอดวัตถุดิบชั้นเลิศเข้าไว้ในเมนูเดียว ไม่ว่าจะเป็น Negi Toro ทูน่าสับและปรุงรสด้วยต้นหอม ไข่ปลา Ikura สีสวย ไข่หอยเม่น Bafun Uni และ Black Summer Truffle สไลด์จากฝรั่งเศส ท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์จากฝรั่งเศส และแปะด้วยทองคำด้านบนอย่างสวยงาม ซึ่งทางเชฟแนะนำให้คนทุกอย่างให้เข้ากันก่อนจะลิ้มรสวัตถุดิบทั้งหมดไปพร้อม ๆ กัน
ปิดท้ายคอร์สนี้ด้วยซิกเนเจอร์ขนมหวาน ที่เสิร์ฟผลไม้ตามฤดูกาลอย่างองุ่น Shine Muscat หวานฉ่ำส่งตรงจากญี่ปุ่น และไข่หวานสูตร Kasutera ชิ้นพอดีคำ ที่ทำจากไข่โดยไม่มีส่วนผสมของแป้งไปอบด้วยอุณหภูมิความร้อนต่ำ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่ม ฟูเหมือนทานเค้ก ต่อด้วย Sorbet Yuzu Ice เกล็ดน้ำแข็งใสเย็นชื่นใจที่ทำจากน้ำและเปลือกยูซุ รสชาติหวานอมเปรี้ยวปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ภายในคอร์สนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่รอให้ทุกคนไปลิ้มรสชาติ โดยวัตถุดิบจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ทำให้ในแต่ละวันเชฟจะทำเมนูไม่เหมือนกัน เนื่องจากทางร้านต้องการมอบประสบการณ์ทานโอมากาเสะที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน หากใครที่สนใจอยากไปสัมผัสโลกแห่งโอมากาเสะระดับพรีเมียมแล้วละก็ ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้นผ่านทาง @honbymeruto.bangna และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Merutobangna