You’re Invited!
นาทีนี้ไม่มีบาร์ไหนฮอตไปกว่า Invitation Only บาร์สุดเก๋สีแดงบนชั้น 55 ของ Empire Tower ที่มองออกไปเห็นมุมไฮไลต์ของตึกมหานครใกล้เพียงไม่กี่เอื้อมมือ การันตีไวป์และค็อกเทลดีต่อใจโดยทีม The Cassette Music Bar ที่ใครยังไม่มาถือว่าพลาด!
ขึ้นแท่นเป็นบาร์น้องใหม่ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้กับ Invitation Only ค็อกเทลบาร์บรรยากาศดีบนชั้น 55 ของ Empire Tower โดยทีม The Cassette Music Bar ที่สายแฮงเอาต์ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีกับไวป์สนุก ๆ ของร้านแฮงต์เอาต์ย่านเอกมัยซอย 10 ที่ครั้งนี้ชวนขึ้นลิฟต์เปิดประตูห้องลับสีแดงมาเจอกับบรรยากาศสุดอลังการในโทนสีแดง ที่แน่นอนว่า You’re invited! ให้มาสนุกและจอยกันได้ตลอดทั้งคืน
อีกหนึ่งความตั้งใจของ invitation Only คือโลเคชั่นตั้งอยู่บนชั้น 55 ของตึก Empire Tower บนชั้นที่มีคาเฟ่และร้านอาหารรายรอบ ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบกินดื่ม แต่ครั้งนี้ชวนทุกคนมาดื่มด่ำไปกับความพิเศษของวิวกรุงเทพมหานครแบบพาโนรามาจากชั้น 55 ที่ทอดยาวให้เห็นตั้งแต่ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจนลับขอบฟ้า ทำให้ช่วงเวลายามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตกดินของที่นี่ เป็นอีกหนึ่งสปอตสุดโรแมนติกที่ต้องรีบตามมาเช็กอิน และถ่ายภาพโมเมนต์สุดพิเศษไว้
A Vibes to Dancing in The Sky
แต่ละโซนออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับแฮงเอาต์กับแก๊งเพื่อนและคนพิเศษ ด้วยการออกแบบหน้าบาร์สุดหรู ประดับประดาด้วยเสาโรมันสุดคลาสสิก และโซฟาพร้อมเฟอร์นิเจอร์สีแดงสดใสตัดกับขอบทองทำให้รู้สึกหรูหราแต่ยังสนุกสนาน ขี้เล่น และเป็นไวป์ที่รู้สึกเข้าถึงง่ายเหมือนถูกเชื้อเชิญมายังสถานที่พิเศษแห่งนี้ไปพร้อม ๆ กัน
และมุมไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือเปียโนสุดเก๋ และมุมหน้าต่างที่ทอดมองออกไปเห็นตึกมหานครใกล้แค่เพียงไม่กี่เอื้อมมือ เคล้าคลอด้วยเพลย์ลิสต์เพลงสากลที่คิดถึงในยุคเทปคาสเซ็ท ในยุค 80s 90s และ 2000 ในบรรยากาศสบาย ๆ ที่นั่งชิลจิบค็อกเทลได้ตลอดคืน
Good Mood, Good Food
ส่วนใครที่เลิกงานแล้วอยากแวะมาฝากท้อง หรือดินเนอร์สุดพิเศษ ที่นี่ก็เหน้นเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นทานง่าย รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย ฟีลลิ่งเหมือนได้รับเชิญไปทานอาหารโอกาสพิเศษต่าง ๆ ตามคอนเซ็ปต์ของชื่อร้าน
สำหรับค็อกเทลบาร์ของที่นี่ เน้นเสิร์ฟคราฟท์ค็อกเทลที่ทำจากผลไม้สด และใช้ Craft Ingrediant วัตถุดิบพิเศษของทางร้านที่ทำขึ้นมาเอง ในคอนเซ็ปต์ที่พาย้อนวัยไปคิดถึงโมเมนต์ตอนเด็ก เช่น ไซรัปพิเศษที่สกัดจากเซียงจา หรือลูกอมแฮ็คส์สมัยเด็ก ๆ โดยเน้นมิติของรสชาติ และความหลากหลายที่ตอบโจทย์สายแฮงต์เอาต์ตั้งแต่รสชาติเบา ๆ ไปจนถึง On the rocks แบบจัดหนักจัดเต็ม!
ขอแนะนำเมนูแรก Hokkaido Scallop Ceviche (590 บาท) เมนูไฮไลต์ขอยกให้ หอยเชลล์ฮอกไกโดเนื้อนุ่ม ที่นำมาเสิร์ฟคู่กับน้ำยำสไตล์เปรูที่เรียกว่า Ceviche โดยการเอาหอยเชลล์มาหมักกับสมุนไพรนานาชนิดทานคู่กับแรดิชแผ่นบางที่เสิร์ฟมาในจาน จิบค็อกเทลตามสักนิดรับรองว่าต้องเป็นเมนูในดวงใจ
และ Piri-Piri Chicken (240 บาท) มองหาของทานเล่นต้องไม่พลาดเมนูไก่ย่างพิริพิริ ไก่ย่างสไตล์แอฟริกันที่โดดเด่นด้วยรสชาติหอมเข้มข้นของสมุนไพรและเครื่องเทศ เข้ากับเนื้อนุ่ม ๆ ของไก่ที่เสียบไม้มาให้ทานง่ายแบบพอดีคำ
ส่วนใครที่เป็นสายพาสต้าขอแนะนำ Spaghetti Chili Shrimp Paste with Ebiko (360 บาท) สปาเกตตี้เส้นหนานุ่มที่นำไปผัดคลุกเคล้าเข้ากับน้ำพริกนรกและมันกุ้งแบบนัว ๆ เผ็ดร้อนแบบกลาง ๆ ถูกปากคนไทย ก่อนท็อปด้วยกุ้งตัวโตและโรยด้วยไข่กุ้ง Ebiko แบบเน้น ๆ เหมือนเชฟบังเอิญเผลอทำไข่กุ้งหกลงไปได้น่าทานสุด ๆ
ถัดไปเป็น Lamb Chop with Chimichuri Sauce (790 บาท) ซี่โครงแกะย่างเนื้อนุ่มที่ทางร้านพิถีพิถันเสิร์ฟมาอย่างดีแบบไม่มีกลิ่นให้กวนใจ ราดด้วยซอสชิมิชูรีที่เป็นซอสโปรดของชาวอเมริกาใต้ และยังเป็นซอสสูตรพิเศษที่ทานกับเนื้อเมื่อไหร่ถูกอกถูกใจกันอย่างแน่นอน
สายค็อกเทลเริ่มจาก Invitation Only (380 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ประจำร้านที่ถูกอกถูกใจสาว ๆ ด้วยส่วนผสมของ Foral & Pink Gin ไวน์แดง น้ำมะพร้าว โรสเบอร์รี และคราฟต์แอปเปิ้ล ออกมาเป็นสีแดงที่มีความสดชื่น และท็อปด้วยกลีบกุหลาบตกแต่งด้านบน
Fresh Like a Daisy (380 บาท) จิบต่อเบา ๆ กับ White Rum และไซรัปแอลเปิ้ลและยูซุ ที่จิบแรกจะได้รสสัมผัสของแตงกวาญี่ปุ่นแบบอ่อน ๆ แต่หอมและเข้ากัน เป็นอีกหนึ่งเมนูสดชื่นในค่ำคืนนี้ที่ไม่ควรพลาด ปิดท้ายด้วย Sangria-o-la (380 บาท) Black Current Gun ผสมผสานเข้ากับไวน์แดง ไซรัปสัปปะรดที่หวานอมเปรี้ยวนิด ๆ และหอม Rose & Floral ทำให้เมนูนี้เป็นค็อกเทลที่ดื่มง่ายและเข้ากันได้ดีกับเมนูอาหารในร้าน
