Published on April 05, 2023

Paris Neo Bistro in Bangkok

เปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหารฝรั่งเศสรูปแบบเดิม ๆ เพิ่มเติมประสบการณ์การดินเนอร์ด้วยมู้ดสังสรรค์ในแบบชาวปารีสที่ iODE ร้านอาหารฝรั่งเศสน้องใหม่ในย่านสาทร ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ ‘Paris Neo Bistro’ หรืออาหารฝรั่งเศสที่มีความโมเดิร์น โดยเป็นการทวิสต์ส่วนผสมและรสชาติจากอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมให้มีความหลากหลาย เพิ่มกิมมิกที่น่าสนใจ เสริม vibes ของการรับประทานอาหารสัญชาติฝรั่งเศสในรูปแบบใหม่ให้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น

 

บรรยากาศหน้าร้าน iODE ที่ให้กลิ่นอายของร้านอาหารสไตล์ปารีส

‘iODE’ หรือ (ที่ทางร้านแนะนำให้อ่านว่า) 'ไอโอดี' นั้น เป็นภาษาฝรั่งเศส (อ่านออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศสว่า ‘อิยอท’) แปลว่า ธาตุไอโอดีน สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของทางร้าน ซึ่งมีการนำเสนออาหารฝรั่งเศสด้วยวัตถุดิบซีฟู้ด (Seafood Oriented) เป็นส่วนใหญ่ (เน้นจานซีฟู้ดประมาณ 70% ของวัตถุดิบทั้งหมดที่นำมาปรุงอาหาร) จึงมีความเกี่ยวข้องกับแร่ธาตุไอโอดีนที่ได้จากอาหารทะเล และนำมาสู่แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อร้าน
 

มุมนั่งชิลล์เอาต์บริเวณหน้าร้าน

Feel Like Paris Vibes

การวางคอนเซ็ปต์ร้านอาหารฝรั่งเศสในแบบฉบับ Paris Neo Bistro ของทางร้าน iODE เกิดจากแนวคิดของ 3 พาร์ทเนอร์ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้แก่ เชฟ Franck Le Bayon (ชาวปารีสโดยแท้ ซึ่งเขาเคยทำงานร้านอาหารอยู่ที่ปารีส ก่อนจะบินมาอยู่ที่เมืองไทย พร้อมกับทำงานร้านอาหารฝรั่งเศสหลากหลายแห่ง จึงค่อนข้างมีประสบการณ์ด้านการทำอาหารฝรั่งโดยเฉพาะ), คุณอิ่ม-จีรัชญ์ ศรีไตรนิมิตร และ คุณแพรว-ภัคพร อำนาจเถลิงศักดิ์ สองเพื่อนรักที่พร้อมใจกันสานต่อไอเดียในการเผยแพร่วัฒนธรรมการกินดื่มของชาวปารีส และเลือกเสิร์ฟความอร่อยของอาหารฝรั่งเศสในแบบที่แตกต่างให้คนไทยได้เข้ามาทำความรู้จัก สัมผัสประสบการณ์การทานฝรั่งเศสในอีกบรรยากาศหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยมู้ดของความสนุกสนาน เข้าถึงง่าย และสามารถชิลล์เอาต์กับเหล่าผองเพื่อนได้มากขึ้น โดยทุก ๆ อย่างที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร วัตถุดิบ บรรยากาศร้าน ล้วนต้องการให้ผู้คนที่มาเยือนได้รับประสบการณ์และความรู้สึกเหมือนอยู่ในปารีสจริง ๆ

 

บรรยากาศภายในร้าน

ภายในร้านตกแต่งด้วยมู้ดแอนด์โทนแนวบิสโทร ซึ่งมีทั้งความวินเทจและร่วมสมัย เป็นแนวร้านอาหารที่สามารถพบเห็นกันได้บ่อยในกรุงปารีส การมาเยือนที่ร้าน iODE แห่งนี้ จึงถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้คนกรุงเทพฯ ได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศการกินดื่มของชาวปารีส ที่อาจจะไม่พบเห็นกันบ่อยนัก เป็น vibes ใหม่ ๆ ที่สร้างความแตกต่างออกไปจากการรับประทานอาหารฝรั่งเศสในแบบ Traditional

 

โซนนั่งรับประทานอาหารแบบเป็นกลุ่มใหญ่

 

โซนนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน

ทางร้านจัดสรรให้มีโซนนั่งชิลล์เอาต์ด้านนอกและโซนนั่งรับประทานอาหารด้านใน ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบโต๊ะเดี่ยวแบบนั่งเป็นคู่ โต๊ะยาวแบบนั่งสังสรรค์กันเป็นกลุ่ม

 

เบื้องหลังการรังสรรค์ความอร่อยของเหล่าพ่อครัว

 

เชฟ Franck Le Bayon

และเคาน์เตอร์บาร์ที่เผยให้เห็นมุม Open Kitchen สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ที่เข้ามาทานอาหารได้เพลิดเพลินไปกับการชม Live Cooking และสามารถร่วมพูดคุยกับเชฟและทีมครัวได้แบบใกล้ชิด

 

โซนเคาน์เตอร์บาร์ ที่เผยให้เห็นมุม Open Kitchen ชวนเพลิดเพลินไปกับการชม Live Cooking

Sea Oriented, Live Fire, Honest Wines

ด้วยความที่ร้าน iODE นั้น มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Paris Neo Bistro การเลือกสรรวัตถุดิบ ครีเอตส่วนผสม รสชาติ และวิธีการนำเสนอเมนูต่าง ๆ จึงมีความหลากหลาย โดยมีการผสมผสานความอร่อยทั้งแบบฉบับของทางฝรั่งเศสและแบบสัญชาติอื่น ๆ เข้าไว้ด้วยกัน สำหรับเมนูต่าง ๆ ที่ทางร้านพร้อมเสิร์ฟความอร่อย ไล่เรียงกันมานับตั้งแต่เมนูซีฟู้ดที่รังสรรค์ด้วยหลากหลายวัตถุดิบพรีเมียม, เมนูสเต๊กเนื้อคุณภาพ ที่สามารถแชร์ความอร่อยร่วมกันได้ (ทั้งวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศและวัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลจากในประเทศไทย มั่นใจได้ว่าอาหารทุกจานที่เสิร์ฟนั้น คุณจะได้รับประทานอาหารที่สดใหม่และมีคุณภาพ) ควบคู่ไปกับหมวดเครื่องดื่มหลากหลายประเภททั้งไวน์ลิสต์นำเข้า ค็อกเทล ซอฟต์ดริงก์ ชา กาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เติมเต็มมื้ออาหารค่ำสุดพิเศษของคุณได้อย่างประทับใจแน่นอน

 

เชฟ Franck Le Bayon ตั้งใจรังสรรค์ความอร่อยทุกจานอาหารอย่างสุดฝีมือ

เมนูซิกเนเจอร์แนะนำ เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยกันที่ Oyster Shots (Combo iODE - 3 Oysters + 3 Shots) (990 บาท) หนึ่งในไฮไลต์ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ โดยเป็นการรับประทานหอยนางรมสดใหม่ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับช็อตค็อกเทล 3 แบบ 3 รสชาติ ซึ่งบาร์เทนเดอร์ประจำร้านได้คิดค้นมาแล้วว่าช่วยเสริมรสชาติกัน (ในอนาคตทางร้านจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนจับคู่รสชาติใหม่ ๆ มาให้ได้ลิ้มลองกันอยู่เสมอ เพื่อสร้างความเซอร์ไพรส์ไม่จำเจให้กับผู้มาเยือน) ครั้งนี้ทางร้านเสิร์ฟมาให้ทานคู่กับช็อตดริงก์ Margarita, Spicy Binary, Vodka ให้ความแปลกใหม่ ได้รสหวานปนขมแต่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เวลารับประทานแนะนำให้แกะเนื้อหอยใส่ลงไปในช็อตเครื่องดื่ม แล้วยกดื่มกิน จะได้ความสดหวานและรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อมมากขึ้น

 

Oyster Shots (Combo iODE - 3 Oysters + 3 Shots) (990 บาท)

ตามมาด้วย Dry aged seabream sashimi - yusu kosho vinaigrette (500g 1,350 บาท) เนื้อปลากะพงทะเลสดใหม่ที่ผ่านการดรายเอจควบคุมอุณหภูมิในตู้มาเป็นระยะเวลา 3-4 วัน นำมาสไลด์ทำเป็นซาชิมิแบบชิ้นพอดีคำ ดีไซน์ดิสเพลย์จัดเสิร์ฟมาในลักษณะของตัวปลาแบบเห็นทั้งตัว ซึ่งดูแปลกตาในแบบที่ไม่เหมือนใคร เนื้อปลาที่ได้จะมีความสดเด้ง รับประทานคู่กับเดรสซิ่ง yusu kosho ที่ให้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเล็กน้อย เป็นการผสานความอร่อยในสไตล์ตะวันตกและตะวันออกได้เข้ากันอย่างลงตัว

 

Dry aged seabream sashimi - yusu kosho vinaigrette (500g 1,350 บาท)

เอาใจคนชอบรับประทานปลาหมึกเป็นพิเศษด้วยเมนู Octopus - potato mousse - harissa cream - chicken jus - finger lime (850 บาท) หนวดปลาหมึกยักษ์ที่กริลล์มาได้เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบหนับ เสิร์ฟความอร่อยมากับครีมฮาริสซา หรือซอสพริกสไตล์ตูนีเซียแบบเข้มข้น (สูตรโฮมเมดของแถบโซนทวีปแอฟริกาเหนือ) ซึ่งให้ความเผ็ดร้อนนิด ๆ พร้อมตัดรสชาติด้วยเจลส้มจี๊ดที่ให้ความหอมสดชื่นเข้ากับอาหารแนวซีฟู้ดได้เป็นอย่างดี

 

Octopus - potato mousse - harissa cream - chicken jus - finger lime (850 บาท)

จากนั้นจัดเต็มความอร่อยด้วยแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบด้วย Platter - DEPARDIEU : Mix oysters, bulot, langoustine, praire clams, scallops raw, caviar Kristal 30g (8,500 บาท) เซ็ต Seafood Platter ขนาดใหญ่ สำหรับเสิร์ฟรับประทานแบบเป็นกลุ่ม 4-5 คน ภายในเซ็ตมีไฮไลต์อยู่ที่หอยเชลล์ ควบคู่ความอร่อยมากับ Brown Butter หรือเนยชนิดพิเศษที่ให้ความหอมมันกลมกล่อม พร้อมด้วยส้มจี๊ดที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี ภายในเซ็ตที่เสิร์ฟความอร่อยแบบ Traditional France ประกอบด้วย หอยนางรม, หอยทากทะเล, หอยเชลล์, หอยตลับฝรั่งเศส, กุ้งก้ามนำเข้าจากมาดากัสการ์ และไข่ปลาคาเวียร์เกรดพรีเมียมที่มีความมันวาวเป็นพิเศษ อิ่มคุ้มขนาดนี้รับรองว่าถูกใจเหล่าซีฟู้ดเลิฟเวอร์แน่นอน

 

Platter - DEPARDIEU : Mix oysters, bulot, langoustine, praire clams, scallops raw, caviar Kristal 30g (8,500 บาท)

ส่วนใครที่เป็นสายสเต๊ก ต้องลองสั่ง Porterhouse beef - sauce foyot - beef jus - watercress (1kg 3,500 บาท) สเต๊กเนื้อส่วนซี่โครงหรือเนื้อส่วน Shortloin (จากกระดูกช่วงเอวของวัว) และ Tenderloin (เนื้อสันในที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ) ที่เสิร์ฟความอร่อยมากับซอส foryot สูตรพิเศษจากฝรั่งเศส ผสมผสานรสชาติเข้ากับซอสเนื้อเข้มข้น พร้อมด้วยสลัดผักวอเตอร์เครส และ Lemon Dressing ให้รับประทานควบคู่กันในจานเดียว

 

Porterhouse beef - sauce foyot - beef jus - watercress (1kg 3,500 บาท)

Cheese and Sweets

หลังจากอิ่มอร่อยกับสารพัดเมนูอาหารคาวกันไปแล้ว อย่าลืมสั่งเมนูขนมหวานมาลิ้มลองกันด้วย เพราะดีงามไม่แพ้กัน โดยเมนูขนมหวานของทางร้านนั้น เบสรสชาติและวัตถุดิบตามแบบฉบับฝรั่งเศส เมนูแนะนำที่ต้องห้ามพลาดสำหรับฤดูกาลนี้ก็คือ Brillat-Savarin burnt cheesecake - sour cream - french black truffle (990 บาท) บาสก์ชีสเค้กหรือชีสเค้กหน้าไหม้ ที่เสิร์ฟความอร่อยด้วยเท็กซ์เจอร์แน่น ๆ ของชีสนำเข้าจากฝรั่งเศสที่ให้ความครีมมี่แบบเข้มข้น ละมุนลิ้น ตามด้วย Sour Cream ก่อนจะเพิ่มความกลมกล่อมมากขึ้นด้วยการสไลซ์แบล็กทรัฟเฟิล (เสิร์ฟตามฤดูกาล) พูน ๆ ท็อปลงไปบนชีสเค้ก เป็นเมนู Must-Try ที่รับประกันความอร่อยฟินตั้งแต่คำแรกที่ได้ลอง!

 

Brillat-Savarin burnt cheesecake - sour cream - french black truffle (990 บาท)

ท้าชิงความอร่อยอีกสักหนึ่งเมนูกับ Pavlova - sour cream - peach - spices syrup (250 บาท) ‘พัฟโลวา’ ขนมหวานที่เชฟแฟรงก์ชอบรับประทานเป็นพิเศษ จึงเลือกนำมาเสิร์ฟความอร่อยให้ได้ลิ้มลองกันที่ iODE ด้วย สำหรับเมนูนี้โดดเด่นด้วยส่วนประกอบหลักอย่างเมอแรงก์ที่ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมากับครีมเนื้อนวลเนียนนุ่มละมุน, โรสพีชจากเชียงใหม่ที่นำไปกริลล์จนหอมไหม้นิด ๆ พร้อมด้วยสไปซ์ไซรัปที่ให้กลิ่นหอมของเครื่องเทศอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นการปิดท้ายมื้อดินเนอร์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

Pavlova - sour cream - peach - spices syrup (250 บาท)

Must Read!
  • การมารับประทานอาหารที่ร้าน แนะนำให้จองล่วงหน้า เพื่อโซนนั่งรับประทานอาหารที่เหมาะสมและตอบโจทย์มื้ออาหารวันนั้นได้ดีที่สุด
Info
Hours
Open : 5PM - 11PM
Fri : 5PM - 11PM
Sat : 5PM - 11PM
Sun : 5PM - 11PM
Mon : 5PM - 11PM
Tue : 5PM - 11PM
Wed : Closed
Thu : 5PM - 11PM
Price

฿฿฿฿฿ 1,001-2,000 บาทต่อคน

Address
76/8-9 ซอยโปร่งใจ (ซอยศรีบำเพ็ญ) เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
Map
Getting There

สามารถจอดรถได้ที่โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ร้าน PODIUM

Mass Transit

MRT ลุมพินี

Facilities
Suggest an Edit