Published on June 20, 2024

French Bistro Restaurant, Located in Suan Phlu 2

ชวนอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารฝรั่งเศสสไตล์บิสโทรในบรรยากาศโฮมมี่ดีต่อใจที่ Jaja French Bistroร้านอาหารฝรั่งเศสน้องใหม่ในบ้านเทอร์เทิล ซอยสวนพลู 2 ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยสารพัดเมนูโฮมเมด ครีเอตในสไตล์เชฟมาร์ค (Chef Marc Vasseur)’ เชฟชาวฝรั่งเศส ซึ่งถ่ายทอดความอร่อยแบบเข้าถึงง่าย ตามแบบฉบับของ 'คุณยายฌาฌ่า (Jaja)’ บุคคลอันเป็นที่รัก ผู้จุดประกายความรักในการทำอาหารของเขา

 

เชฟมาร์ค (Chef Marc Vasseur)

Chef Marc's Culinary Passion intersects with his Grandmother's Cherished Legacy

จากความหลงใหลในการทำอาหารของเชฟมาร์คผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลก ทั้งในยุโรปและกรุงเทพฯ หลากหลายแห่ง ด้วยประสบการณ์ด้านการทำอาหารมากว่า 15 ปี บวกกับความทรงจำอันน่าประทับใจที่มีต่อ 'คุณยายฌาฌ่า' ผู้จุดประกายความรักในการทำอาหารของเขา จึงนำมาสู่การเปิดร้านอาหารแห่งนี้ โดยเป็นการนำเสนออาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม มาผสมผสานเข้ากับความโมเดิร์นอย่างลงตัว ได้รสชาติของความอบอุ่นแบบฉบับคุณยายฌาฌ่า ถ่ายทอดความอร่อยผ่านฝีไม้ลายมือการทำอาหารของเชฟมาร์ค ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์ทานอาหารฝรั่งเศสที่เข้าถึงง่าย พร้อมซึมซับช่วงเวลาดี ไปกับบรรยากาศ dining ที่น่าจดจำ

 

โซนครัวเปิดกับเบื้องหลังการรังสรรค์ความอร่อยของเชฟมาร์ค

Cozy Vibes, Feels Like Home

การมารับประทานอาหารที่ Jaja French Bistrot ทุกคนจะได้สัมผัสกับแนวการแต่งร้านในโมเดิร์น ที่แฝงไว้ด้วยความเรียบหรูของโทนสีน้ำเงินเข้ม รับกับ element โคมไฟสีทองอย่างลงตัว ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นสบาย และเป็นสัดส่วน ด้วยการจัดวางโซนนั่งรับประทานอาหารแบบมี Partition กั้น ไม่ว่าจะแวะมาอิ่มอร่อยมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ ก็เหมาะพาครอบครัวหรือคนที่รักมา dining เพื่อซึมซับโมเมนต์ดี บนพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้าน เอ็นจอยมื้ออาหารแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน

 

บรรยากาศภายในร้าน

 

หลากหลายโซนนั่งรับประทานอาหาร ที่ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน

Traditional French Cuisine with a Modern Twist

ด้วยแรงบันดาลใจจากชื่อเล่นของคุณยายฌาฌ่า เชฟมาร์คจึงนำมาตั้งเป็นชื่อร้านว่า Jaja พร้อมรังสรรค์เมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณยาย แล้วนำเสนอในแบบที่เชฟมาร์คหลงใหล การเลือกใช้วัตถุดิบที่หลากหลายและสดใหม่ จากบนบกสู่ท้องทะเล รวมถึงวัตถุดิบคุณภาพจากฝรั่งเศสและวัตถุดิบคัดสรรจากในประเทศไทย ผ่านกรรมวิธีทำอาหารทั้งรูปแบบต้นตำรับและเทคนิคสมัยใหม่ เพื่อให้อาหารของที่นี่ มีความชัดเจนของอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็ได้รสชาติที่ซับซ้อน ไปพร้อม กับพรีเซนเทชันที่สวยงาม กลิ่นอายของความอบอุ่น เข้าถึงง่าย ตามแบบฉบับของคุณยายฌาฌ่า ตามอย่างที่ตั้งใจไว้


Jaja’s Highlight Dishes

แน่นอนว่าทางร้านเน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งแต่ละเมนูเชฟมาร์คได้เลือกรังสรรค์ความอร่อยตามรสชาติความทรงจำในวัยเด็ก โดยบางจานเป็นสูตรอาหารของคุณยายฌาฌ่า ที่เชฟนำมาพรีเซนต์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น พร้อมเสิร์ฟในรูปแบบ A La Carte (แบ่งหมวดหมู่อาหารประเภทต่าง ๆ ให้ได้เลือกสั่งตามต้องการ) ที่สามารถเลือกสั่งเมนูอิ่มท้องเบา ๆ มาจับคู่ความอร่อยกับไวน์ หรือจะจัดเต็มด้วยมื้อใหญ่สำหรับแชร์ริ่งก็มีให้ลิ้มลองแบบครบครัน 


ประเดิมความอร่อยด้วยหมวด Stater กับเมนูเรียกน้ำย่อยจานแนะนำอย่าง Sea Bass Ceviche (480 บาท) ปลากะพงเซวิเซ่ เมนูที่ให้ความสดชื่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเซวิเซ่ ผสมผสานแรงบันดาลใจที่ได้มาจากต้มข่า โดยเชฟมาร์คเลือกใช้ปลากะพงท้องถิ่นในไทย นำไปหมักในน้ำมะนาว ผักชี และพริกแดง ให้ได้กลิ่นอายแบบไทย ก่อนจะเสิร์ฟลงบนครีมอะโวคาโดเนื้อเนียน พร้อมเพิ่มความหอมสดชื่นด้วยส้มจี๊ดสดหั่นเป็นชิ้นและเนื้อสัมผัสของหัวไชเท้ากรอบ รับประทานคู่กับคอร์นชิปส์ เพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ จานนี้เหล่านักชิมจะได้ลิ้มลองความอร่อยที่สดใหม่ไปพร้อม กับสัมผัสรสชาติของอาหารฝรั่งเศสในแบบโมเดิร์น

 

Sea Bass Ceviche (480 บาท)

หรือจะเป็น Slow-Cooked Egg (390 บาท) เมนูเห็ดรวม คลุกเคล้าซอสสูตรเฉพาะสไตล์ยุโรป เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ลวกเยิ้ม ที่ให้ความอร่อยแบบเข้ากัน

 

Slow-Cooked Egg (390 บาท)

ตามด้วยจานสลัดกับเมนู Charcoal Grilled Beetroot Salad (350 บาท) สลัดบีทรูทย่าง หอมกลิ่นชาร์โคล เพิ่มรสชาติความครีมมี่ด้วยชีสนมแพะ และรสเปรี้ยวอมหวานของราสพ์เบอร์รีที่ช่วยเสริมความสดชื่นให้สลัดจานนี้มีความกลมกล่อมลงตัว

 

Charcoal Grilled Beetroot Salad (350 บาท)

จากนั้นเอาใจคนรักเนื้อด้วยเมนู Beef Tataki Mosaic (580 บาท) เนื้อทาทากิโมเสก หนึ่งในอาหารจานเด่นของ Jaja ที่ผสมระหว่างทาร์ทาร์กับคาร์ปาชโชเข้าไว้ด้วยกัน โดยเชฟมาร์คจะนำสันในเนื้อไปย่าง ให้ผิวด้านนอกสุกและมีกลิ่นหอม ก่อนหมักด้วยเทริยากิแล้วห่อตามด้วยสาหร่ายญี่ปุ่น เพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ซับซ้อน พร้อมเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยซอสครีมมายองเนสชิโพเลย์ เสริมด้วยเมล็ดมัสตาร์ดดอง หอมแดงดองรสเปรี้ยว เพื่อตัดเลี่ยน เสิร์ฟพร้อมสลัดร็อกเก็ตสดที่ให้สัมผัสกรุบกรอบ เข้ากันได้ดีกับ Tataki Mosaic

 

Beef Tataki Mosaic (580 บาท)

สำหรับใครที่กำลังมองหาจานซีฟู้ด แนะนำให้ลองสั่งอาหารจานหลักในหมวด From the Sea ที่เชฟมาร์คได้คัดสรรวัตถุดิบจากท้องทะเลมาครีเอตเป็นเมนู Fregola Sarda (550 บาท) พาสต้าทรงกลมชิ้นจิ๋ว สไตล์อิตาเลียน จากแคว้นซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี ซึ่งปรุงแบบรีซอตโต ทำให้ได้เนื้อสัมผัสแบบครีมที่นุ่มนวล โดยตัวพาสต้าแต่ละเม็ด ถูกเคลือบไปด้วยซอสมะเขือเทศเข้มข้น และโรยหน้าด้วยพาร์เมซานชีสขูด มะเขือเทศตากแห้ง มะกอกดำ และหอยลาย ปรุงในสไตล์ Mariniere ที่มีส่วนผสมของไวน์ขาว เสริมด้วยอิมัลชันที่มีส่วนผสมของหอย เพื่อเพิ่มกลิ่นอายของท้องทะเล ทำให้อาหารจานนี้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

 

Fregola Sarda (550 บาท)

ต่อเนื่องความอร่อยกันด้วยอาหารจานหลักจากหมวด From the Land กันบ้าง กับเมนู Roasted Chicken (690 บาท) ไก่ย่างซิกเนเจอร์ของร้าน Jaja หนึ่งในเมนูเรียบง่าย แต่ได้ความอร่อยในสไตล์โฮมเมด โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสของไก่ย่างที่นุ่ม ชุ่มฉ่ำซอสอัลบูเฟรา สูตรลับความอร่อยของเชฟมาร์คที่ให้รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมกับพูเรข้าวโพดเนื้อเนียนและข้าวโพดอ่อนย่าง ที่ช่วยเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบและเสริมรสหวานอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นหลากหลายองค์ประกอบในจานที่ทำให้ได้ความอร่อยที่ลงตัว

 

Roasted Chicken (690 บาท)

ปิดท้ายมื้อนี้กันด้วย 2 เมนูของหวานซิกเนเจอร์ที่นำเสนอความอร่อยในแบบฉบับฝรั่งเศสดั้งเดิม ได้แก่ Banoffee (320 บาท) ขนมหวานสุดคลาสสิก ที่จัดเต็มความอร่อยด้วยกล้วยคาราเมลกับครีมดาร์กช็อกโกแลตเข้มข้น มูสถั่วพีคาน บราวนี่ชิ้นเล็ก พร้อมด้วยถั่วพี่คานเคลือบคาราเมล เสิร์ฟคู่ความอร่อยมากับไอศกรีมคาราเมลรสละมุน ราดซอสคาราเมลรสเค็มหวาน รวมเรียกว่าเป็นการเสิร์ฟบานอฟฟี่แบบแยกองค์ประกอบ แต่เมื่อรับประทานรวมแล้วได้ความอร่อยลงตัว ถูกใจทั้งคนรักช็อกโกแลตและคาราเมลเลิฟเวอร์แน่นอน

 

Banoffee (320 บาท)

ท้าชิงความอร่อยด้วย Thyme and Blueberry Panna Cotta (210 บาท) พานาคอตต้าเนื้อเนียน รสนุ่มละมุนลิ้น สลับเลเยอร์ด้วยซอสบลูเบอร์รีเข้มข้น ท็อปด้วยแยมบลูเบอร์รีและบลูเบอร์รีสด ที่ให้รสหวาน ผสานเข้ากับความหอมของใบไทม์ได้อย่างลงตัว เติมเต็มมื้ออาหารฝรั่งเศสไตล์บิสโทรครั้งนี้ได้อย่างครบสมบูรณ์

 

Thyme and Blueberry Panna Cotta (210 บาท)

Info
Hours
Open : 11:30AM - 2PM
5:30PM - 9:30PM
Sun : 11:30AM - 2PM
5:30PM - 9:30PM
Mon : Closed
Tue : Closed
Wed : 11:30AM - 2PM
5:30PM - 9:30PM
Thu : 11:30AM - 2PM
5:30PM - 9:30PM
Fri : 11:30AM - 2PM
5:30PM - 9:30PM
Sat : 10:30AM - 2PM
5:30PM - 9:30PM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน

Address
บ้านเทอร์เทิล 31, ซอยสวนพลู 2 ถนนสวนพลู เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT ลุมพินี ทางออก 2

BTS ช่องนนทรี ทางออก 2

Facilities
Suggest an Edit