Warmly Thai Dessert Cafe and Rooftop Bar in Banglampoo
เมื่อความเก๋ไก๋ของคาเฟ่ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เพียงความน่ารักหรือสัญชาติของขนมเท่านั้น หากแต่เป็นการเลือกนำเสนอคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างออกไปก็สามารถสร้างความน่าสนใจให้ตัวคาเฟ่ได้ไม่แพ้กันเช่นเดียวกับ KANOM CHAN Thai Dessert Rooftop Bar คาเฟ่ขนมไทยและรูฟท็อปบาร์ใจกลางย่านบางลำพูที่ตั้งอยู่บนชั้น 5 บริเวณดาดฟ้าของโรงแรม Na Banglampoo เน้นเสิร์ฟความอร่อยด้วยหลากหลายเมนูขนมไทยรสต้นตำรับ พร้อมปรับรูปลักษณ์หน้าตาขนมไทยใหม่ให้ดูทันสมัยและน่าทานมากยิ่งขึ้น
From Generation To Generation
ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น โดยจุดเริ่มต้นของคาเฟ่แห่งนี้เกิดขึ้นจากแนวคิดการต่อยอดกิจการขนมไทยของครอบครัวผู้ก่อตั้ง คุณโม-คมน์ เทพปรีชาสกุล และ คุณบิ้ว-ณัฐพล แสนจินดา สองเพื่อนสนิทในทีมซึ่งเติบโตมากับร้านขนมไทย ‘บานบุรี’ และ ‘ขนมไทยคุณจิ๋ม’ กิจการของทางบ้าน โดยเปิดในลักษณะของ Grab & Go วางขายที่ดิโอลด์สยาม ก่อนจะช่วยกันระดมไอเดียกับ คุณน็อต-รชต ประยูรหงษ์ สมาชิกอีกหนึ่งคนที่มาเพิ่มมูลค่าให้กับขนมไทยสูตรของทางบ้านด้วยการปรับพรีเซนเทชั่นใหม่ให้ดูสวยงามน่าทาน แปลกตาไปจากเดิม อีกทั้งเพิ่มเติมความเป็นรูฟท็อปบาร์สุดชิลล์ธีมไทย ๆ ให้คนย่านพระนครได้มาดื่มด่ำคราฟท์เบียร์ไทยท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์
ชื่อร้าน ’ขนมฉัน’ เชื่อมโยงที่มาได้ถึง 2 อย่างในคราวเดียว ไม่ว่าจะสื่อถึง ‘ขนมชั้น’ หนึ่งในเมนูขนมไทยสุดโปรดที่คุณแม่เคยทำให้ทานตั้งแต่เล็กที่พ้องกับคำว่า ’ขนมฉัน’ ให้เหมือนเป็นพื้นที่แบ่งปันขนม (ของบ้านฉัน) ให้คนอื่น ๆ ได้ลองทานกันนั่นเอง
Thai Style
KANOM CHAN Thai Dessert Rooftop Bar ตกแต่งร้านด้วยธีมบรรยากาศของบ้านเรือนไทย แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือคาเฟ่ด้านในและรูฟท็อปด้านนอก โดยทั้ง 2 ส่วนนี้ต่างก็พรีเซ็นต์ความเป็นไทยผ่านการเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์สไตล์ไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าขาวม้า ร่มแดง หมอนอิง เครื่องสาน แคร่ โต๊ะ-เก้าอี้ไม้ไผ่ และอื่น ๆ อีกมากมายที่เสริมเอกลักษณ์ไทยให้ชัดเจน นอกจากบรรยากาศสบาย ๆ ที่คลอเคล้าไปด้วยเสียงบรรเลงของดนตรีไทยภายในคาเฟ่แล้ว มุมไฮไลท์อย่างรูฟท็อปบาร์ก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะระหว่างที่ทานขนม ดื่มเครื่องดื่มนั้นก็สามารถชมวิวเมืองเก่าย่านบางลำพูจากบนดาดฟ้าแห่งนี้ได้ด้วย
Mother’s Recipe
เมื่อได้เวลาลิ้มรสขนมไทยฝีมือสูตรคุณแม่ บรรดาซิกเนเจอร์เมนูต่าง ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นทันทีด้วยเวลคัมดริงก์สมุนไพรไทยเย็นชื่นใจ ก่อนจะเริ่มต้นกันที่ ขนมครก (95 บาท) ขนมครกตามตำรับชาววังที่เสิร์ฟมาบนกระทะทองเหลืองร้อน ๆ เพิ่มกิมมิกสนุก ๆ ให้คนทานได้แคะขนมครกทานเองทีละชิ้น รวมทั้งหมด 7 ชิ้น โดยสามารถเลือกท็อปปิ้งหรือหน้าต่าง ๆ ได้ตามต้องการ อาทิ ต้นหอม เผือก ข้าวโพด ฝอยทอง มะพร้าว งา และกุ้ง เป็นต้น ขนมครกของที่นี่ให้แป้งขอบแบบกรอบนอกนุ่มใน มีรสหวานน้อยเข้ากับท็อปปิ้งหน้าต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วย ขนมทองม้วนสด (65 บาท) ขนมไทยโบราณ ให้เนื้อสัมผัสแป้งที่เหนียวนุ่ม มีรสหวานหอมของมะพร้าวอ่อนและงาที่โรยลงไป ในเซ็ตประกอบด้วยรสใบเตย รสเผือก รสฟักทอง ที่สกัดสีจากธรรมชาติล้วน ๆ
ส่วนที่ห้ามพลาดเห็นจะเป็นเมนูที่ใช้ชื่อเดียวกันกับชื่อร้านคือ ขนมชั้น (65 บาท) ที่ใช้แป้งข้าวเจ้าผสมแป้งท้าวยายม่อมมาเซ็ตตัวแบ่งเป็นชั้น ๆ เนื้อสัมผัสนุ่มหนุบหนับ เป็นรูปพิมพ์ดอกกุหลาบ เสิร์ฟแบบคำเล็ก ๆ ให้รสหวานกำลังดี (ส่วนใครที่อยากทานขนมฟักทอง ขนมกล้วย ทางร้านก็มีเสิร์ฟให้ในลักษณะเดียวกัน)
หรือจะเป็นเมนูขนมไทยที่เบสด้วยข้าวเหนียวมูนก็น่าลองไม่แพ้กัน แนะนำให้ลองสั่ง ข้าวเหนียวทุเรียน (95 บาท) ใครที่ชอบทานทุเรียนเมนูนี้ทางร้านมีให้ทานตลอดทั้งปีแม้จะไม่ใช่หน้าฤดูกาล สำหรับข้าวเหนียวทุเรียนของที่นี่แตกต่างจากที่อื่นตรงที่การคัดสรรวัตถุดิบที่ส่งตรงมาจากแหล่งวัตถุดิบที่ขึ้นชื่อทั้งสิ้น ทั้งทุเรียน ข้าวเหนียวมูน และน้ำกะทิจึงให้รสละมุน ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
ส่วนใครที่ไม่ทานทุเรียนอาจสั่งเป็นเมนู ข้าวเหนียวหลายหน้า (95 บาท) เซ็ตข้าวเหนียวมูนรวมหน้าต่าง ๆ ทั้งหมด 4 หน้า ได้แก่ หน้ากุ้ง หน้าหวานที่ทำมาจากหัวไชเท้า หน้าปลาแห้งโรยงา และหน้าสังขยา
นอกจากเมนูขนมไทยที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ของทางร้านแล้ว ที่นี่ยังเสิร์ฟอาหารไทยให้ได้อิ่มท้องระหว่างวันอีกด้วย ได้แก่ ยำแหนมข้าวทอด (90 บาท) ซึ่งเป็นสูตรของคุณแม่อีกเช่นเดียวกัน ความเด็ดอยู่ที่การใช้เครื่องปรุงสด ยำสด ๆ แบบจานต่อจาน จึงได้ความหอมของมะนาว และความแซ่บของตัวแหนม เครื่องสมุนไพร แบบจัดจ้านถึงใจ
ก่อนจะท้าชิงความอร่อยด้วย ผัดไทยกุ้งสด (120 บาท) ผัดไทยกุ้งสดในกระทะร้อนที่ใช้น้ำมะขามเป็นซอสหรือส่วนผสมหลัก คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ได้รสเปรี้ยวอมหวานทานแล้วจะต้องติดใจ
Must Read!
- ทางร้านมีพร็อบ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับไทย ๆ อย่างสไบ กำไล และอื่น ๆ อีกมากมายให้คนที่เข้ามาทานได้ลองใส่เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแบบเก๋ ๆ อีกด้วย
- เมนูเครื่องดื่มที่ทางร้านให้บริการ ช่วงกลางวันจะเสิร์ฟน้ำสมุนไพร ส่วนช่วงกลางคืนจะเสิร์ฟคราฟท์เบียร์ไทยให้ได้ดื่มแบบชิลล์ ๆ บริเวณโซนรูฟท็อปบาร์