Taste the Authentic Japanese Kappo Omakase
ท่ามกลางกระแสความนิยมในการทานอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบโอมากาเสะที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ BKK. ขอแนะนำ Kappo Yamauchi อีกหนึ่งร้านเปิดใหม่ในอาคาร Rainhill ซอยสุขุมวิท 47 ที่มีความตั้งใจต้องการนำเสนออาหารญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิมในรูปแบบ Kappo Omakase เพื่อเอาใจเหล่าฟู้ดดี้ชาวไทยที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นให้ได้มาลองสัมผัสกัน โดย Kappo Yamauchi ยังเป็นร้านในเครือของ Sushi Misaki ร้านซูชิโอมากาเสะในใจใครหลายคนนั่นเองWarm Welcome
ตัวร้านมีขนาดกำลังดี สามารถรองรับได้ถึง 12 ที่นั่งในช่วงเวลาปกติ และถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีสเปซมากพอ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด ภายในร้านถูกตกแต่งในสไตล์ Modern Japanese ที่เน้นความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ใช้ไม้สีอ่อนเป็นองค์ประกอบหลัก ตั้งแต่เคาน์เตอร์บาร์ เพดาน และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้ความสว่างด้วยดวงไฟสีนวลตา เสริมให้บรรยากาศภายในร้านรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองExperienced Japanese Chefs
ทุกเมนูครีเอตโดยเชฟหนุ่มชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์ เชฟ Masaharu Yamauchi เชฟเจ้าของชื่อร้านแห่งนี้ โดยเชฟได้ฝืกฝนฝีมือในการทำอาหารญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน และต้องการนำเสนอรสชาติอาหารญี่ปุ่นสไตล์ต้นตำรับ ผ่านเทคนิคการปรุงสไตล์โมเดิร์น แต่ก็ยังปรับเปลี่ยนบางอย่างให้เหมาะกับรสปากชาวไทยมากขึ้น ด้วยความตั้งใจนี้ ทำให้กลายเป็นคอร์สอาหารที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถันและการไล่ลำดับรสชาติ รวมถึงรูปแบบการปรุงอาหารตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ
สำหรับคอร์ส Kappo Omakase ของทางร้านจะมีทั้งหมด 2 ราคา คือ 4,000 บาท++ และ 6,000 บาท++ ต่างกันที่จำนวนเมนู ซึ่งเมนูของทางร้านจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามคุณภาพวัตถุดิบในแต่ละช่วง ซึ่งหัวใจหลักของอาหารญี่ปุ่นก็คือวัตถุดิบที่ต้องสดใหม่ ส่งตรงจากญี่ปุ่น และมีรสชาติที่ดีที่สุดในช่วงฤดูกาลนั้น ๆ
Simply Delicious!
เริ่มต้นมื้อนี้ด้วยจานเรียกน้ำย่อย Monkfish liver stew น้ำซุปที่อบอุ่นกระเพาะได้ดี เป็นเมนูท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่มีมานานกว่า 200 ปี เนื้อตับปลาอังโกะชิ้นพอดีคำ ที่มีความมันและเนียนนุ่ม เข้ากันได้ดีกับซุปรสกลมกล่อมที่มีความข้นเล็กน้อย เพิ่มรสชาติด้วยวาซาบิสด ๆ เสิร์ฟมาแบบร้อน ๆ
ตามด้วย Roasted Wagyu A5 เนื้อวากิวญี่ปุ่นระดับ A5 ที่ทางเชฟนำมาอบให้ด้านนอกสุกเล็กน้อย ก่อนนำมาแล่บาง เป็นเมนูที่ให้รสสัมผัสนุ่ม ๆ ของเนื้อวัวชั้นดีที่มีมันแทรก จิ้มทานกับโชยุและวาซาบิสด ๆ
ต่อมาเป็น Mother sweetfish chazuke ข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่นรสกลมกล่อม ข้าวเนื้อนุ่ม ต้มกับไข่ปลาอายุที่มีเท็กซ์เจอร์กรุบ ๆ โดยเชฟนำไปตุ๋นกับน้ำซุปดาชิ ซีอิ๊ว สาเก และน้ำตาล จนได้รสชาติที่ออกมาหวานเค็มกำลังดี
สำหรับวัตถุดิบประจำช่วงฤดูกาลนี้ คงหนีไม่พ้น Female Snow crab หรือปูหิมะ ที่ทางเชฟนำปูเพศเมียที่ให้เนื้อแน่น ๆ มานึ่งจนสุกกำลังดี ราดด้วยซอสรสหวานกลมกล่อม คนชอบทานปู ต้องลองจานนี้
คอร์สต่อมาสำหรับคนรักเนื้อ ทางเชฟนำเนื้อวัว Omi มาแล่บางและเสิร์ฟในสองรูปแบบ ทั้งแบบ Shabushabu ที่เสิร์ฟมาพร้อมซอสบ๊วยรสเปรี้ยวอมหวาน ทำจากบ๊วยของจังหวัด Wakayama ที่ขึ้นชื่อ และแบบ Sukiyaki ที่ให้รสเข้มข้นยิ่งขึ้น เสิร์ฟมาพร้อมซอสไข่แดง ที่ทางเชฟปรับให้ถูกปากคนไทยยิ่งขึ้น แทนที่ปกติจะใช้เป็นไข่แดงสด ส่วนใครที่ไม่ทานเนื้อ เชฟจะเสิร์ฟเป็นเนื้อปลาคัมปาจิแทน
ต่อด้วยเซ็ตรวมของว่าง Assorted Appetizers เริ่มที่ Grilled Tuna Crown of head เนื้อปลาทูน่าส่วนด้านหลังหัวปลาย่างจนสุกกำลังดี, Raw Yuba แผ่นฟองเต้าหู้สดจากเมืองเกียวโต ราดด้วยซอสสูตรของทางร้าน, Pumpkin Tofu with Walnut sauce เต้าหู้ฟักทองรสหวานละมุน ราดด้วยซอสวอลนัท, Sea bream Kelp Marinated with Alaska Pollack Roe เยลลี่สาหร่ายดองคลุกเคล้ากับไข่ปลามาได และ Vinegared mozuku seaweed with Japanese yam and salmon roe สาหร่ายโมซุกุหมักกับน้ำส้มสายชู ราดด้วยแยมสไตล์ญี่ปุ่นและไข่ปลาแซลมอน
หลังจากรองท้องด้วยหลากหลายจานเรียกน้ำย่อยแล้ว ก็ถึงเวลาของบรรดาซูชิ ที่ทางเชฟคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาให้ทานกัน เริ่มจาก Akami ซูชิเนื้อปลาทูน่าส่วนกลางลำตัว สีแดงสวย หมักกับ Soy sauce และ Red Vinegar รสสัมผัสนุ่มละมุนเข้ากับข้าวซูชิที่ให้มาไม่มากไม่น้อยเกินไป ต่อด้วย Shutoro เนื้อส่วนด้านหลังครีบของปลาทูน่า ที่มีไขมันแทรก ทำให้ได้เนื้อสัมผัสแบบชุ่มฉ่ำ ละลายในปาก ตามด้วย Botan Ebi ซูชิเนื้อกุ้งหวาน ทาด้านบนด้วยโชยุและผิวมะนาวสึดาจิ เนื้อกุ้งมีรสหวาน เนื้อนุ่ม ไม่คาว
ขาดไม่ได้กับเมนูที่หลายคนชื่นชอบอย่าง Uni ที่ครั้งนี้เชฟเสิร์ฟในรูปแบบเมนู Temaki แผ่นสาหร่ายห่อข้าวซูชิและเนื้อปลาทูน่าสับ ก่อนจะท็อปด้วยบนด้วย Bafun uni คุณภาพพรีเมียมส่งตรงจากฮอกไกโด คนที่รัก Uni ต้องลองเมนูนี้
ปิดท้ายอาหารคาวด้วย Shredded kombu soup ซุปใสใส่สาหร่ายคอมบุ น้ำซุปรสกลมกล่อม ซดแล้วคล่องคอ ช่วยปรับรสสัมผัสในปากก่อนจะไปทานขนมหวาน
ปิดท้ายคอร์สนี้ด้วยขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น Chestnut and sweet potato เชฟนำมันหวานบดมากดให้เป็นเส้น ๆ ก่อนจะจัดอย่างสวยงามบนจาน ท็อปด้วยเกาลัดนึ่งลูกใหญ่ และโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งด้านบน เป็นจานที่ให้รสสัมผัสที่แตกต่าง ทั้งความนุ่มเนียนของมันหวาน และความหนึบของเนื้อเกาลัด เป็นเมนูที่ไห้รสชาติความหวานสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
Must Read!
- แนะนำให้จองล่วงหน้า