The Story of Keller
Keller ร้านอาหาร Fine Dining สไตล์ Modern European ที่ตั้งชื่อร้านตามชื่อของเชฟ Micro Keller เชฟสัญชาติเยอรมันมากประสบการณ์และยังเป็นอดีต Head Chef ของร้าน Water Library อีกด้วย สำหรับร้าน Keller แห่งนี้ ตั้งอยู่ในไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่ดัดแปลงมาจากคฤหาสน์หลังเก่าสไตล์ Mid Century โดยตั้งอยู่ในซอยสวนพลู ย่านสาทรGet Cozy in Style
เมื่อเดินเข้ามาในไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์แห่งนี้จะพบกับโซน The Lounge บาร์เครื่องดื่ม และ The Wine Room (ดำเนินงานโดย Cloud Wine) ให้นั่งจิบเครื่องดื่มแบบชิลล์ ๆ ก่อนจะเข้าไปทานอาหารในร้าน Keller
ภายในร้าน Keller ถูกตกแต่งในสไตล์ Contemporary European โดยเลือกใช้สีชมพูเป็นหลัก ให้บรรยากาศหรูหรา อบอุ่น และแฝงด้วยความสง่างาม เพิ่มลูกเล่นด้วยพื้นผิววัสดุในรูปแบบต่าง ๆ เช่น กำมะหยี่ และโต๊ะไม้สัก ที่ขาดไม่ได้คือบริเวณคร้วที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และยังกั้นด้วยกระจก Frost Glass เพื่อเปิดให้เห็นบรรยากาศภายในครัว ทางร้านยังตั้งใจออกแบบให้มีสเปซระหว่างแต่ละโต๊ะ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
The Keller Signature Journey
เมนูอาหารของที่นี่ จะมีให้เลือกทั้งแบบ a la carte และเซ็ตเมนู โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Keller Journey ( 4,900 บาท++) และ Keller Classic (3,700++ บาท) แต่ละคอร์สจะมีเมนูให้เลือกทาน และยังสามารถเลือกแพริ่งกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ด้วย โดยเชฟ Micro Keller ได้นำประสบการณ์และแรงบันดาลใจของตัวเองออกมาถ่ายทอดเป็นคอร์สเมนูนี้ และได้นำเอาเมนูอาหารยุโรปดั้งเดิมมาเพิ่มลูกเล่น ผสมผสานกับเทคนิคในการปรุงแบบใหม่ ตลอดจนคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ออกมาเป็นคอร์สอาหารซิกเนเจอร์ในสไตล์ Keller
เริ่มต้นกันที่การเสิร์ฟ Amuse Bouche ให้ทานก่อนเริ่มมื้อ ตามด้วยคอร์สแรก Appetizer มีให้เลือกทั้ง Fish Mousse มูสเนื้อนุ่ม ท็อปด้วยเนื้อปลาฮามาจิ, ไข่ปลาเทราต์, เลมอน เสิร์ฟคู่กับข้าวเกรียบกุ้งที่ทางร้านทำเอง และ Black Wagyu 4/5 Beef Tartare ทาร์ทาร์เนื้อ Black Wagyu 4/5
คอร์สที่สอง เชฟเลือกเสิร์ฟเมนู Charred Galician Octopus หนวดปลาหมึกยักษ์ที่ปรุงมาอย่างดี ได้เนื้อนุ่มไม่เหนียว ทานคู่กับ ซอส Red Wine Butter, Celeriac และ Polenta หรือจะเลือกเป็น Berliner Senfei เมนูสัญชาติเยอรมัน ทำจากมันฝรั่งรมควัน ท็อปด้วย ซอสบีทรูทดอง เสิร์ฟคู่กับ Oscietra Caviar ที่มีรสเค็ม ตัดกับรสเปรี้ยวของบีทรูทดองสำหรับเมนคอร์ส ใครที่ชอบซีฟู้ด แนะนำให้เลือกเมนู Atlantic Cod Fish สเต๊กปลาค้อด ทานคู่กับซอสที่มีส่วนผสมของผักโขม, ถั่วแระญี่ปุ่น, มะเขือเทศ, เบคอนรมควันสไตล์อิตาเลียน และซอส Thyme Veloute หรือจะเลือกสั่งเมนู Charred Nakornpathom Pork Jowl สเต๊กเนื้อหมูส่วนแก้มด้านบนที่ได้จากฟาร์มในจังหวัดนครปฐม เสิร์ฟคู่กับ Yellow Chive Puree, มะม่วง และซอสรสเข้มข้นที่ได้จากการเคี่ยวกระดูกหมู
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานอย่าง Keller’s Cheese Cake ชีสเค้กชิ้นเล็ก ท็อปด้วยสับปะรดและคาราเมล และ Chocolate ที่ถูกนำเสนอออกมาทั้งแบบเค้ก แบบไอศกรีม และทานคู่กับนมเฮเซลนัท
Must Read!
- ถึงแม้ว่าจะเป็นคอร์สอาหารเพียง 4 คอร์ส แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่อิ่ม เพราะระหว่างคอร์สเชฟยังมีเมนูจานเล็ก ๆ มาเสิร์ฟขั้นระหว่างคอร์สอีกหลายเมนู