Cool Cafe in Lasalle
หากใครได้แวะเวียนมาในย่านลาซาล ต้องลองแวะมาสัมผัสความอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารใต้รสจัดจ้าน พร้อมเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่ Kepler bkk คาเฟ่สุดเก๋ที่พร้อมให้คุณมานั่งจิบกาแฟ และอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นไปพร้อม ๆ กัน อันเกิดจากความร่วมมือของสองหนุ่มสาวที่นำเอาความชอบความหลงใหลในการทำกาแฟและอาหารมารวมเข้าไว้ด้วยกัน กลายเป็นคาเฟ่สุดโฮมมี่ ที่ให้ความรู้สึกสบาย ๆ แบบเป็นกันเอง
Mid Century Modern Design
เมื่อคุณเดินเข้ามาภายในคาเฟ่แห่งนี้ จะพบกับบรรยากาศการตกแต่งร้านในสไตล์ ‘Mid Century’ ที่เต็มไปด้วยของสะสมจากยุคเก่า แต่งแต้มสีสันด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาล สีเขียว และสีส้ม ที่ผสมผสานกันออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะเสริมบรรยากาศให้ร้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้นด้วยภาพถ่ายอันมีเอกลักษณ์เฉพาะจากฝีมือของเจ้าของร้าน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักด้วยกัน คือ โซนคาเฟ่ Kepler bkk ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพดีมาเสิร์ฟความอร่อยให้ทุกคนได้ลิ้มลอง พร้อมอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบ Slow Bar เท่ ๆ ที่คุณสามารถพูดคุยกับเจ้าของร้านได้อย่างเป็นกันเอง
ถัดมาที่อีกด้านจะเป็นโซนข้าวแกงใต้รสจัดจ้านจากร้าน Riceroom canteen พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูแกงใต้รสมือแม่แบบต้นตำรับ พิเศษด้วยพริกแกงที่ทางร้านทำเอง ให้รสกลมกล่อม จัดจ้าน โดยตั้งใจคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพดีมารังสรรค์ความอร่อยอย่างพิถีพิถัน ให้เหล่านักชิมได้สัมผัสถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน ๆ
Enjoy Your Favourite Coffee
จากความตั้งใจที่อยากจะครีเอตเมนูเครื่องดื่มให้รองรับกับความต้องการของทุกคนได้ ทางร้านจึงมีทั้งเมล็ดกาแฟไทยและต่างประเทศมาให้ได้เลือกตามความชอบ โดยนอกจากนี้ยังมีเมล็ดกาแฟ Seasonal แปลกใหม่ที่จะหมุนเวียนมาให้ลิ้มลองอยู่เรื่อย ๆ อีกด้วย พลาดไม่ได้กับเมนู Signature ของทางร้านอย่าง Kepler Flower (80 บาท) เครื่องดื่มสุดสดชื่นที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง ขิง และมะนาว ที่ทางร้านนำมาหมักไว้ข้ามคืนจนได้กลิ่นหอม ก่อนจะนำมาเชคเข้ากับเอสเพรสโซช็อต ให้รสสัมผัสเข้มข้น กลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป พร้อมหอมกลิ่นสมุนไพรแบบเบา ๆ ปิดท้าย
เอาใจคนรักกาแฟนมด้วยเมนู Latte Crėme Brûlée (100 บาท) ลาเต้ที่ทางร้านเลือกใช้เป็นเมล็ดกาแฟ Single Origin ให้รสสัมผัสหอมมันโทนถั่ว นำไปผสมผสานรสชาติกลมกล่อมหอมหวานด้วยอบเชยและเครมบรูเล ก่อนจะท็อปด้วยฟองนมที่เบิร์นด้วยน้ำตาลและอบเชย เพื่อให้ได้กลิ่นหอม แก้วนี้ช่วยดับเผ็ดร้อนจากข้าวแกงใต้ได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูคลาสสิกที่ทางร้านแนะนำ ต้องลอง Hot Latte (65 บาท) เมล็ดกาแฟไทย Single Origin ที่ทางร้านนำมาผสมผสานความหอมกลมกล่อมด้วยนม ให้รสนุ่มละมุน แต่ยังคงความเข้มข้นและหอมกลิ่นกาแฟคั่วบดได้เป็นอย่างดี หรือหากใครที่อยากเลือกเป็นเมล็ดกาแฟรสสัมผัสแบบ Fruity ทางร้านก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน
ตามด้วยเมนู Dirty (80 บาท) เครื่องดื่มที่ผสมผสานระหว่างความเข้มข้นของกาแฟและความนุ่มนวลของนมได้อย่างพอดี มีความพิเศษอยู่ที่ทางร้านโรยด้วยช็อกโกแลตปิดท้าย ให้สัมผัสถึงความหอมมัน กลมกล่อมอย่างลงตัว
สำหรับใครที่ไม่ดื่มกาแฟ ทางร้านยังมี Matcha Latte (80 บาท) ชาเขียวมัทฉะคุณภาพดีที่ทางร้านนำเข้าจากญี่ปุ่น ผสานความกลมกล่อมและรสนุ่มละมุนด้วยนม ให้รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นมัทฉะแบบเต็มคำ
Authentic Southern Food From Rice Room Canteen
ในส่วนของ Rice Room Canteen แนะนำเมนู ข้าวราดแกง (65 บาท) พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยสารพัดเมนูอาหารใต้รสจัดจ้าน โดยจะหมุนเวียนเมนูไม่เหมือนกันในแต่ละวัน ให้คุณเลือกทานได้ตามความชอบ สำหรับถาดนี้จัดเต็มความอร่อยแบบต้นตำรับมาด้วยแกงเขียวหวานรสเผ็ดกำลังดี พร้อมด้วยคั่วกลิ้งที่หอมสมุนไพรแบบเต็มคำ ก่อนจะตัดรสชาติเผ็ดด้วยหมูหวาน ทานแล้วเข้ากันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางร้านยังมีผักและน้ำพริกกะปิให้ทานฟรีกันอีกด้วย
อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อที่พลาดไม่ได้ ต้องลอง แกงเหลืองปลากะพง (70 บาท) แกงใต้รสจัดจ้าน พิเศษด้วยพริกแกงเหลืองทำเอง ผสานความอร่อยด้วยหน่อไม้ดองและปลากะพง ให้รสกลมกล่อม จัดจ้าน พร้อมรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ที่ลงตัว