Let's Have Fun!
KIN+HEY ร้านอาหารสไตล์ Quick & Comfort Food เสิร์ฟเมนู Thai Street Food ที่ยกความอร่อยมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “กินอิ่มอก เฮอิ่มใจ สู้ต่อไปวันพรุ่งนี้” เป็นอีกหนึ่งร้านที่หนุ่มสาวชาวออฟฟิศไม่ควรพลาดที่จะแวะมานั่งสังสรรค์และพักผ่อนกินอาหารอร่อย ๆ คลายเครียดยามเหนื่อยล้าจากการทำงาน สำหรับที่นี่ ทางGreyhound Cafe ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการสังสรรค์ของคนไทยที่ไม่ว่าจะวันศุกร์หรรษา เลิกงาน สอบเสร็จ เรียนจบ เลี้ยงรุ่นพบปะเพื่อนฝูงหรือรวมญาติวันครอบครัวมักจะจบกันที่ร้านอาหารเสียเป็นส่วนใหญ่
Story Behind the Decoration
ตัวร้านโดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งแบบร้านอาหารห้องแถวสมัยเก่าออกแบบภายใต้แนวความคิด “จับกัง” ที่แปลว่าผู้ที่ทำงานได้มากกว่าหนึ่งอย่างในภาษาจีนแต้จิ๋ว เหมือนกับคนทำงานในสมัยนี้ที่จะต้องเชี่ยวชาญมากกว่า 1 ด้าน
โดยทางร้านบอกเล่าเรื่องราวของจับกังและวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อนผ่านเฟอร์นิเจอร์ละรายละเอียดต่าง ๆ ตั้งแต่ประตูลูกกรงบานเลื่อนขนาดใหญ่หรือแม้แต่การเพิ่มประโยชน์ให้กับสิ่งของด้วยการทำแกลลอนน้ำไม่ใช้แล้วมาประยุกต์เป็นโคมไฟหรือแม้แต่ลังพลาสติกบุเบาะรองนั่งก็กลายมาเป็นเก้าอี้สวย ๆ ให้ได้นั่งได้เช่นกัน
Think Nothing & KIN+HEY
ถ้าพูดถึงวัฒนธรรมการกินของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศและคนทั่วไป หลังจากเหนื่อยล้ากับการทำงานมาทั้งวันก็มักจะจบที่ร้านอาหารทานง่ายที่หลายคนมักจะมากิน มาเฮ เพื่อให้ลืมความเหน็ดเหนื่อยตลอดวันที่ผ่านมา อาจจะเปรียบได้กับร้านอิซากายะของญี่ปุ่น หรือร้านโพจังมาจา เตนท์ขายอาหารทั่วไปของเกาหลี แต่สำหรับประเทศไทยคงยกให้รถเข็นขายอาหารข้างทางที่เสิร์ฟอาหารทานง่าย รสชาติอร่อยให้เราได้เติมพลัง
ดังนั้น KIN+HEY ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมเหล่านี้จึงเน้นเสิร์ฟเมนูอาหารทานง่ายและสามารถแชร์กันโดยนำเมนูธรรมดามาทวิสต์ให้สนุกยิ่งขึ้นในแบบของ Greyhound เริ่มต้นกันที่ออเดิร์ฟไอเดียเก๋อย่างยำถั่วบังเฮ (88 บาท) ประสบการณ์พบปะกับอาบังขายถั่วที่หลายคนต้องเคยพบเจอ พนังงานจะยกกะบะถั่วที่มีให้เลือกมากมายหลายชนิดมาที่โต๊ะให้เราเลือกถั่วชนิดที่ต้องการได้สูงสุด 3 ชนิด จากนั้นพนักงานจะตักใส่แก้วเชค ผสมเครื่องยำ เกลือ พริก มะนาว ปิดฝาแล้วเชกเหมือนค็อกเทล ออกมาได้ยำถั่วบังเฮหน้าตาน่าทาน
หรือจะลองหอยเชลล์นำเข้าย่างเนยกระเทียม (98 บาท/ตัว) หอยเชลล์ตัวใหญ่ เนื้อหวาน เสิร์ฟมาบนเตาถ่านขนาดเล็ก ให้ได้ย่างทานกันที่โต๊ะแบบร้อน ๆ
ต่อกันด้วยเมนูทานง่ายที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาอย่างยาวนาน ข้าวไข่เป็ดเจียวฟูกากหมู (128 บาท) ที่ทางร้านคัดสรรไข่เป็ดคุณภาพดีมาเจียวกระะทะน้ำมันร้อน ๆ ผสมกากหมูเล็กน้อย ทอดออกมาจนไข่เจียวสีเหลืองกรอบฟูน่าทาน
ทางร้านเสิร์ฟน้ำจิ้มให้แบบแซ่บคูณสี่ มีให้เลือกทานคู่กับอาหารได้หลากหลายชนิด แซ่บแรกกับซอสศรีราชา ของดีคู่อาหารไทย แซ่บที่สอง น้ำจิ้มซีฟู้ด กินคู่กับอะไรก็อร่อย แซ่บที่สาม น้ำจิ้มแจ่วแบบอีสานบ้านเรา และแซ่บที่สี่น้ำจิ้มแจ่วปลาร้ารสจัดจ้าน เพิ่มความแซ่บให้อาหารมื้อนี้ได้เป็นอย่างดี
ถึงเวลาของ เย็นตาโฟหม้อไฟ (S 258 บาท) เมนูร่วมสาบานของผองเพื่อนที่จะทำให้การกินในมื้อนี้สนุกขึ้น สามารถเลือกสั่งขนาดของหม้อไฟได้ตามจำนวนคน เครื่องเย็นตาโฟและลูกชิ้นนานาชนิดในหม้อไฟเสิร์ฟบนเตาไฟฟ้า มาพร้อมกับหม้อน้ำซุป เย็นตาโฟและสามารถเลือกสั่งคู่กับข้าวหรือเส้นหมี่ได้ 1 อย่าง
หรือหากใครเป็นผู้พ่ายแพ้ในศึกเย็นตาโฟหม้อไฟจะสั่ง อุด้งต้มยำ (188 บาท) มาทานเพิ่มก็ได้ ตัวน้ำซุปต้มยำรสเข้มข้นรสจัดจ้านแบบไทยแท้ ๆ แต่สามารถเปลี่ยนเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เป็น มักกะโรนี อุด้งหรือโซบะ ได้ เพิ่มความหลากหลายให้ลูกค้าได้ลองทาน
ต่อด้วยเมนูของหวานที่อยู่คู่คนไทยมานานอย่างเต้าทึงนมสด (S 98 บาท) ขนมหวานเย็นดับร้อนที่ทางร้านนำมาประยุกต์ให้เข้าสมัยใหม่มากขึ้นด้วยการใช้นมแข็งนมปั่นละเอียดสไตล์บิงซู แล้วใส่เครื่องเต้าทึงกับซอสน้ำ
และขนมโตเกียว (เริ่มต้น 12 บาท) ขนมโตเกียวที่โตเกียวไม่มีขาย แต่ตอนนี้อยากกินแค่ไหนก็แค่เดินมาที่นี่ อยากจะซื้อโตเกียวกลับเฉย ๆ ก็ทำได้ ทางร้านมีให้เลือกมากถึง 7 ไส้
ทานอาหารกันแล้วอย่าลืมสั่ง แดงโซเจลลี่ (78 บาท) เมนูน้ำแดงมะนาวโซดาในดวงใจเพิ่มความอร่อยหนุบหนับด้วยเยลลี่ด้านบน
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษให้ได้สังสรรค์เพลิดเพลินกับเพื่อน ๆ ในยามที่ต้องการการผ่อนคลายอย่าง เบียร์วุ้นเย็นฟรีซ (168 บาท) เบียร์แช่เย็นในอุณภูมิที่พอเหมาะออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งให้ได้ทั้งดื่มทั้งเคี้ยวรีเฟรชวันอันแสนเหน็ดเหนื่อยให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง