Seifu Omakase Bar
ไม่ต้องตีตั๋วไปถึงต่างประเทศ ก็สัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแบบจัดเต็มได้ที่ Kissuisen ห้องอาหารเปิดใหม่ในโรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse ที่รวม 4 ร้านต้นตำรับระกับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นอิซากายะ เทปันยากิ สาเกบาร์ และโอมากาเสะไว้ด้วยกันไว้ในตึกเดียว! โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก 'Godai' (โกได) ในปรัชญาญี่ปุ่น ได้แก่ดิน น้ำ ลม ไฟ
Real Japanese Vibes
ครั้งนี้ขอชวนกดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 4 ‘Seifu Omakase Bar’ ห้องอาหารในคอนเซ็ปต์ Seifu หรือ ลม พร้อมเสิร์ฟโอมากาเสะพรีเมียม เพื่อชูแก่นแท้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านวัตถุดิบตามฤดูกาลที่มีกลิ่นอายของท้องถิ่น รวมถึงปลาหลากหลายสายพันธุ์จากตลาดพื้นบ้านที่สดใหม่จากประเทศญี่ปุ่น ให้กลายเป็นอาหารจานพิเศษพร้อมเสิร์ฟแบบเฟรช ๆ ในทุกคำ โดยเชฟ ยูอิชิ มิตซุย (Yuichi Mitsui) เชฟมากประสบการณ์ที่รังสรรค์ความอร่อยให้กับร้านอาหารชั้นนำในญี่ปุ่นรวมถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มานานหลายทศวรรษ!
Experience of 16 - Course
มาแล้วแนะนำให้ลองชิม 16 - Course (4,588 บาท) กับเมนูแบบจุใจ เริ่มต้นกันที่ส่วนของ Appetizer กันก่อนอย่าง Local Herb, Chrysanthemum, Snow Crab, Salmon Roe ที่ครั้งนี้เชฟเสิร์ฟเนื้อปูหิมะคู่มากับไข่ปลาแซลมอน เพิ่มกลิ่นหอม ๆ ด้วยสมุนไพรญี่ปุ่นเป็นการเปิดต่อมรับรสก่อนเข้าสู่หมวดของซาชิมิ
ในส่วนของซาชิมิที่นี่ก็พิเศษไม่เหมือนที่ไหนด้วยการใช้เนื้อปลาที่ผ่านขั้นตอนการ Dry-Aged อย่าพิถีพิถันนั่นเอง คำแรกคือ Nodoguro หรือซาชิมิปลากระพงคอดำที่เป็นปลาเนื้อขาวมาเริ่มต้นด้วยรสเบา ๆ หอมกลิ่น Smoke ด้านล่างเป็น Sesame Tofu Kissuisen Style and Abalone หรือเต้าหู้งาโฮมเมด มาพร้อมหอยเป่าฮื้อ ราดด้วย Dashi Jelly ตกแต่งด้วยแตงกวาและดอกไม้ทานได้
เอาใจคนรักไข่ตุ๋นกันต่อที่ Local Thailand Mushrooms and Egg หรือไข่ตุ๋นซอสเห็ดหลากชนิดจากโครงการหลวงท็อปด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลและทรัฟเฟิลสด เสิร์ฟมาร้อน ๆ ตามด้วยส่วนของ Hotate หรือหอยเชลล์ที่เสิร์ฟมาบนหินร้อน เป็นกิมมิกที่ลูกค้าสามารถเลือกทานระดับความสุกตามที่ต้องการได้ตามชอบนั่นเอง
มาสู่ส่วนของ Nigiri Shshi หรือ Sushi of the Day ที่จะเสิร์ฟซูชิ 8 คำของวันนั้น ๆ คำแรกคือ Buri Tennen ปลาบุริที่เติบโตแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีส่วนของปลา Otoro ที่ผ่านการ Dry-Aged กว่า 2 อาทิตย์ให้ลองชิมกันอีกด้วย ต่อด้วย Mana Katsuo ปลาเต๋าเต้ยญี่ปุ่นที่ถือเป็นอีกหนึ่งปลาชั้นสูงที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกัน และสุดท้ายคือ Ji Kinmedai ที่ตกโดยเบ็ด ทำให้ได้เนื้อที่มีส่วนของไขมันแทรกมากกว่าปกติจากจังหวัด Shiba ที่ผ่านการ Dry-Aged ทั้งหมด 7 วัน
คำต่อมาเป็นกุ้งหวาน หรือ Botan Ebi เสิร์ฟมาแบบสดใหม่ ท็อปด้วย Karasumi หรือไข่ปลากระบอกญี่ปุ่นที่นำมาขูดและโรยเพิ่มเท็กเจอร์ด้านบน
ต่อมาที่ Kamasu หรือปลาสากญี่ปุ่นเนื้อหวานตามธรรมชาติ และ Uni สายพันธุ์ Bafun แบบเต็ม ๆ คำ ปิดท้ายด้วย Kinki Don ชามน้อย ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอนเพิ่มสัมผัสให้พิเศษไปอีกขั้น
ซดซุปมิโสะไข่สูตรพิเศษของที่นี่ให้คล่องคอกันต่อหลังจบมื้อหนัก ๆ ก่อนจะปิดท้ายอย่างสวยงามด้วยจานของหวานอย่าง Fruits Anmitsu, Castella and Matcha Chocolate ของหวานล้างปากสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง 3 แบบ เป็นอันจบมื้อประทับใจ