The Original Tonkatsu from Niigata
ชวนสายอาหารญี่ปุ่นแวะมาลิ้มรสความอร่อยของ Kogoro Katsu ร้านทงคัตสึน้องใหม่ใจกลางสยามสแควร์ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่นทั้งคัตสึเซ็ตและอะลาคาร์ทแบบจัดเต็ม พร้อมยกทัพความอร่อยสไตล์นิงาตะ ซึ่งครีเอตโดยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่ชวนติดใจทั้งอาหารคาวและขนมหวาน
Japanese Minimal Vibes
ทางเข้าของร้าน Kogoro Katsu นั้น อยู่ติดกับร้าน Chicken Club ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางสยามสแควร์ซอย 7 โดยเมื่อก้าวขึ้นไปยังด้านบนของอาคารก็จะพบกับบรรยากาศสบาย ๆ สไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ที่ดึงเอาเอกลักษณ์ความอบอุ่นของบรรยากาศแบบญี่ปุ่นออกมา ผ่านเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนและงานศิลปะที่ประดับประดาอยู่บนผนัง ตัดด้วยสีสันของดีไซน์เก้าอี้ตามมุมต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น พร้อมจัดวางทุกอย่างออกมาในแบบมินิมัล ซึ่งไม่เยอะจนเกินไป แต่รู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นได้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน
Niigata's Secret Recipe
Kogoro Katsu แห่งนี้ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เติบโตด้วยฝีมือคนไทย ก่อนจะสานต่อโปรเจ็กต์ร่วมกับเชฟมากฝีมือชาวญี่ปุ่น รังสรรค์รสชาติความอร่อยสูตรพิเศษส่งตรงจากเมืองนิงาตะ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของ 'ลูกแพร์สีทอง' ที่ทั้งปลูกยากและหาไม่ได้จากที่อื่น ๆ โดยลูกแพร์สีทองนี้เป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักที่ทางร้านเลือกนำมาสอดแทรกไว้อยู่ในทุกส่วนประกอบ ตั้งแต่โลโก้ลูกแพร์สามลูกตลอดจนซอสสูตรพิเศษของทางร้าน
ทางร้านจะเสิร์ฟถ้วยงาขาวพร้อมที่บด ให้คุณได้ลิ้มลองคู่กันกับซิกเนเจอร์ซอสอย่าง Signature Katsu Pear Sauce ซอสลูกแพร์สูตรนิงาตะ ที่จะยกระดับซอสคัตสึด้วยการใส่เนื้อลูกแพรลงไปเพิ่มความหอมและรสหวานอมเปรี้ยว ซึ่งช่วยชูรสชาติให้กับคัตสึทุก ๆ จานได้เป็นอย่างดี เป็นสูตรเฉพาะซึ่งมีที่ Kogoro ที่เดียวเท่านั้น! หรือใครที่ชอบความเข้มข้นก็สามารถทานคู่กับ Original Katsu Sauce ซอสคัตสึเข้มข้นที่ทำจากผัก ผลไม้ และเครื่องเทศรวมกว่า 17 ชนิด ให้รสธรรมชาติเข้ากันได้ดีกับทุก ๆ จาน
สำหรับเมนูแรกเริ่มต้นกันที่ Premium Sous Vide Pork Cutlet Set Meal (470 บาท) ชุดคัตสึหมูซูวีที่เชฟเลือกใช้ส่วนสันคอหมูนำไปผ่านกรรมวิธี Sous Vide ต้มในอุณหภูมิต่ำสุดนานกว่า 16 ชั่วโมงจนได้หมูเนื้อนุ่มกำลังดี เคี้ยวเพลิน มีส่วนมันแทรกเล็กน้อยและให้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ภายในเซ็ตจะเสิร์ฟคู่กันกับซุปมิโสะ ผักดอง ไข่ตุ๋น และกะหล่ำปลีหั่นฝอย
และสามารถเลือกทานได้ระหว่างข้าวญี่ปุ่นในหม้อดินเผาหรือ ข้าวหม้อร้อน (+70 บาท) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่อยากให้คุณได้ลิ้มลอง โดยทางร้านจะเสิร์ฟข้าวอิวาเตะจากประเทศญี่ปุ่น ที่ปลูกโดยคำนึงถึงการใช้น้ำและสภาพอากาศที่เหมาะสมกับข้าวที่สุด ทำให้ข้าวมีความหอมหวาน มันเงา เนื้อสัมผัสที่พิเศษ เสิร์ฟในหม้อร้อนพร้อมกับซุปชาสูตรลับจากทางร้าน เวลาทานแนะนำให้ตักข้าวด้านในออกมาก่อน แล้วเหลือข้าวไว้ให้พอติดหม้อแบบกำลังดี โดยความร้อนจะช่วยทำให้ข้าวนั้นมีความกรอบ หอมอร่อยมากยิ่งขึ้น และเมื่อราดซุปชาตามลงไปก็จะได้ข้าวต้มข้าวญี่ปุ่นฉบับ DIY ให้อิ่มอร่อยกันแบบฟิน ๆ
ต่อกันที่ Premium Pork Loin and Yuba Rolled Vegetable Cutlet Set Meal (410 บาท) ชุดคัตสึหมูสันนอกและฟองเต้าหู้ห่อผัก ที่เชฟเลือกใช้หมูสันนอกเกรดพรีเมียมนำไปคลุกเคล้ากับ Housemade Bread Crumb เกล็ดขนมปังสูตรพิเศษของร้านที่ทำจากขนมปังสดให้เนื้อสัมผัสกรอบฟู ไม่อมน้ำมัน ใช้สำหรับทำคัตสึโดยเฉพาะ มาพร้อมกับฟองเต้าหู้ห่อผัก
หรือจะลองเป็น Premium Pork Loin with Mozzarella Cheese Cutlet Set Meal (420 บาท) ชุดทงคัตสึหมูสันนอกสอดไส้มอสซาเรลล่าชีสจากฝรั่งเศสแบบเต็มคำ ให้ความมันเค็มแต่ไม่เลี่ยน เอาใจคนรักชีสโดยเฉพาะ
จานถัดมาเอาใจสายซีฟู้ดกันด้วย Premium Seafood Cutlet Set Meal (500 บาท) เซ็ตซีฟู้ดคัตสึพรีเมียมที่จัดเต็มทั้งปลาแซลมอน หอยนางรม และกุ้งตัวเล็ก เสิร์ฟมาเป็นเซ็ตพร้อมกับข้าวที่สามารถเลือกเองได้ ซุปมิโซะ และไข่ตุ๋น
หรือหากใครที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกทานหมูหรือซีฟู้ดดีนั้น แนะนำให้ลอง Premium Pork Tenderloin and Tiger Prawn Cutlet Set Meal (590 บาท) ชุดคัตสึหมูสันในสุดพรีเมียมที่มาพร้อมกับกุ้งยักษ์เนื้อเด้งชิ้นโต
ส่วนใครที่เป็นสายเนื้อตัวยง ต้องลองสั่ง Angus Ribeye Cutlet Set Meal (780 บาท) เนื้อแองกัสคัตสึ ส่วนริบอายที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเตาหินร้อน ให้คนทานได้สนุกไปกับการย่างที่เลือกระดับความสุกได้ตามชอบ สามารถทานคู่กันกับวาซาบิและเกลือ หรือซอสทงคัตสึออริจินัล ซึ่งได้รสชาติดีไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ทางร้านยังมี
Japanese Shrimp Cutlet Hot Pot Set Meal (420 บาท) ชุดคัตสึนาเบะกุ้งเล็ก
นาเบะหม้อร้อน เสิร์ฟพร้อมกับคัตสึกุ้งเล็กและเครื่องนาเบะมากมายแบบจัดเต็ม สามารถทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ ซุปมิโสะและไข่ตุ๋นได้อย่างเข้ากัน
ส่วนใครไม่ถนัดทานทงคัตสึ ทางร้านยังมีเมนูอะลาคาร์ทสำหรับเป็นทางเลือก แนะนำให้ลอง Spaghetti Mentaiko (380 บาท) สปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่มคลุกเคล้ากับซอสครีมและไข่ปลาเมนไทโกะ โรยด้วยสาหร่ายญี่ปุ่น เวลาทานแนะนำคลุกเคล้าให้เข้ากันจะได้เท็กซ์เจอร์ของไข่ปลาที่เคี้ยวกันได้แบบเพลิน ๆ
ปิดท้ายกันด้วยความอร่อยของเมนูของหวานมากมายโดยไฮไลต์อยู่ที่ Kogoro Seasonal Tea Set and Japanese Persimmon Stuffed with Cream Cheese (220 บาท) ชุดน้ำชาที่จะเสิร์ฟชาร้อนตามฤดูกาลมาพร้อมกันกับลูกพลับสอดไส้ครีมชีสสี่ลูก เหมาะกับนั่งจิบชาเพลิน ๆ หลังทานอาหารเสร็จ
นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Japanese Mochi with Sweet Red Bean (120 บาท) เลือกได้ระหว่างแบบร้อนหรือแบบเย็น ส่วนใครที่มองหาความหวานเย็นชื่นใจ ลองสั่งไอศกรีมที่มีให้เลือกระหว่าง Green Tea Ice Cream (80 บาท) และ Butter Scotch Ice Cream (80 บาท) ส่งท้ายมื้อแสนอร่อยนี้ได้อย่างสมบูรณ์