The First French Crêperie in Bangkok
ชวนมาไดน์นิ่งแบบชาวปารีสที่ ‘KRAZ’ ร้านบรันช์ใจกลางย่านสาทรที่เสิร์ฟหลากหลายเมนูออริจินัลเครปและกาเเลตต์สไตล์ฝรั่งเศส รวมถึงเมนูอร่อยอื่น ๆ อย่างครัวซองต์ ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ และเครื่องดื่มไซเดอร์ให้เราได้เอ็นจอยมื้อสายกลิ่นอายชาวปารีเซียงได้อย่างแท้จริง
ร้าน KRAZ (อ่านออกเสียงว่า 'คราซ' เป็นคำแสลงที่เลียนเสียงมาจากความกรอบของแป้งกาแลตต์) นับเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารสัญชาติฝรั่งเศสในเครือเดียวกับ iODE ที่เคยนำร่องเปิดให้บริการเมื่อปี 2023 พร้อมกับได้รับฟีดแบ็กจากคนกรุงเทพฯ เป็นอย่างดี ซึ่งในปี 2025 นี้ ก็ถึงคิวของการส่งไม้ต่อให้กับร้านบรันช์แห่งนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'French Crêperie' แห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่เลือกถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินมื้อสายของชาวฝรั่งเศส ให้เหล่านักชิมชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ทานอาหารฝรั่งเศสรูปแบบใหม่ ๆ อีกทั้งเปิดโลกของเครปและกาแลตต์แบบออริจินัลให้ได้ทำความรู้จักมากยิ่งขึ้น
Cozy Bistro Vibes from Brittany
ด้วยความตั้งใจอันดีของทีมผู้ก่อตั้งร้านที่ต้องการยกไวบ์การกิน-ดื่มมื้อสายของชาวฝรั่งเศสจากแคว้นบริตทานี (Brittany) หรือเมืองทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศสมาไว้ในย่านสาทรแห่งนี้ บรรยากาศภายในร้านจึงถูกออกแบบและตกแต่งในสไตล์บิสโทร มาในธีมสีส้มสดใส ซึ่งให้ความรู้สึกที่ทั้งอบอุ่นปนความดิบเท่ของโมเดิร์นลอฟท์ สนุกสนาน และเป็นกันเอง เหมือนได้เอนจอยความอร่อยอยู่ในร้านอาหารหรือคาเฟ่สักแห่งในยุโรปเลยทีเดียว
ภายในร้านได้แบ่งโซนให้บริการต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นสัดส่วน จำนวน 2 ชั้น โดยมีหลากหลายโซนนั่งชิลเอาต์ ทั้งเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม, โซนนั่งแยกแบบเป็นสัดส่วนทั้งชั้นบนและล่าง ไปจนถึงโซนครัวเปิดที่เผยให้เห็นเบื้องหลังการครีเอตความอร่อยแบบใกล้ชิด
Brunch Time is here !
ความอร่อยแบบออริจินัลถูกส่งตรงมาจากแคว้นบริตทานี (Brittany) บ้านเกิดเมืองนอนของ Head Chef สองพี่น้อง (เชฟแฟรงก์และเชฟไมค์) ชาวฝรั่งเศส โดยเลือกพรีเซนต์ความอร่อยด้วยสารพัดเมนูเครป (แป้งนุ่ม สำหรับของหวาน) และกาเเลตต์ (แป้งกรอบ สำหรับของคาว) เป็นหลัก ผ่านการเลือกสรรท็อปปิ้งวัตถุดิบเกรดพรีเมียมนอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่ถูกหยิบยกและได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศต่าง ๆ ทางฝั่งยุโรปที่อยู่ใกล้เคียงกับฝรั่งเศส ซึ่งแนวอาหารของที่นี่จะเป็น French Cuisine ผสมผสานความเป็น French Classic Twist เข้าไปด้วย
ในส่วนของความแตกต่างระหว่างเครป (Crêpe) กับกาแลตต์ (Galette) เลยก็คือ กาแลตต์นั้นจะเน้นครีเอตเป็นเมนูอาหารคาว เช่น กาแลตต์กับแฮม กาแลตต์กับชีส เป็นต้น โดยตัวแป้งทำมาจากบัควีท (Buckwheat) เมล็ดธัญพืชชนิดหนึ่งที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แถมยังปราศจากลูเตนด้วย (Gluten Free) ขณะเดียวกันเมนูเครปจะนิยมใช้กับของหวาน รวมถึงวิธีการทำเครปและกาแลตต์จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่จะต่างกันที่เนื้อสัมผัสของแป้ง ซึ่งกาแลตต์จะมีความกรอบบาง ส่วนเครปนั้นจะมีความนุ่มชุ่มซอสมากกว่า
สำหรับเมนูแนะนำ เริ่มต้นกันที่หมวดกาแลตต์หลากหลายหน้าท็อปปิ้ง หนึ่งในเมนูที่ต้องห้ามพลาดสั่งมาลองคือ Complète (390 บาท) กาแลตต์หน้าท็อปปิ้งที่ครบสมบูรณ์ที่สุด ทานง่าย ครีเอตความอร่อยตามสูตรสำเร็จของชาวฝรั่งเศส ซึ่งจะมีส่วนผสมของไข่ แฮม และพริกจาลาเปโน่ (Jalapeno Pepper)
ตามมาด้วย iODE (450 บาท) ด้วยความที่เจ้าของร้าน KRAZ แห่งนี้คือทีมเดียวกับที่ร้าน iODE จึงได้นำเอาวัตถุดิบบางอย่างจากที่นั่น มาสร้างสรรค์เป็นเมนูนี้ด้วย โดยคำว่า iODE นั้นมาจากธาตุไอโอดีน ซึ่งหาได้จากซีฟู้ด ความโดดเด่นของเมนูนี้จึงอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบเนื้อปลาเทราต์รมควัน ซาวร์ครีม อิคุระหรือไข่ปลาแซลมอน ได้รสเค็มนิด ๆ ของเนื้อปลา ไข่ปลา ที่ผสานเข้ากับรสเปรี้ยวของซาวร์ครีมได้อย่างลงตัว
ถัดมาคือเมนู Frenchie (450 บาท) ครัวซองต์ใส่ชีสหั่นชิ้น จัดอยู่ในหมวดเมนูทวิสต์ที่มีให้เลือกสั่ง นอกเหนือจากเครปและกาแลตต์ เสิร์ฟมาให้ดิปกับเนย แยม และไข่ต้มยางมะตูม
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีอีกหลากหลายเมนูที่นำอาหารบางสัญชาติที่อยู่ใกล้เคียงกับประเทศฝรั่งเศสมาร่วมเสิร์ฟความอร่อยด้วย อย่างอาหารของชาวโคเปนเฮเกนที่ประกอบไปด้วยขนมปังซาวร์โดว์ ไข่ต้ม ชีส ซึ่งทางร้านได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการกินของที่นั่น หรือจะเป็น Scotch Egg ไข่สกอต อาหารของชาวอังกฤษก็มีเสิร์ฟให้ได้สั่งมาทานอีกเช่นกัน
ต่อเนื่องความอร่อยกันด้วยเมนูของหวานในหมวดของเครปกันบ้าง แนะนำให้ลอง Beurre-Sucre (140 บาท) เมนูเครปหวาน Traditional ที่มีส่วนผสมของเนยและน้ำตาลเท่านั้น ให้เนื้อสัมผัสของแป้งแบบซอฟต์ นุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยเนยและไซรัปแบบเต็มคำ
ไม่เพียงแต่เมนูกาแลตต์และเครปที่ทางร้านเลือกถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินของชาวฝรั่งเศสแบบเป็นหลักเท่านั้น ที่นี่ยังเน้นชูในเรื่องของเครื่องดื่มไซเดอร์ (Cider) ควบคู่กันด้วย โดยไซเดอร์จะเป็นเครื่องดื่มที่มีลักษณะคล้ายกับไวน์ เพราะผ่านกรรมวิธีการหมัก เป็นน้ำหมักผลไม้ที่ทำมาจากแอปเปิ้ลกับลูกแพร์ เพียงแต่ความต่างจะอยู่ที่ปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มที่มีน้อยกว่า เรียกว่าเป็น Traditional Drink ของชาวบริตทานีที่นิยมดื่มคู่กับเครปและกาแลตต์ เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของรสชาติที่ลงตัว ตัดความเลี่ยนของมื้ออาหารได้มากขึ้นเครื่องดื่มไซเดอร์แนะนำ มีทั้งแบบดราย Cidre Fournier Brut (190 บาท) และแบบหวาน Loic Raison Doux (190 บาท) โดยแบบดรายจะได้รสไซเดอร์ที่มีความเป็นธรรมชาติ ไร้รสหวาน (เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล) ส่วนแบบหวานจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
นอกจากเครื่องดื่มไซเดอร์แล้ว ทางร้านยังพร้อมเสิร์ฟไวน์ (ทั้งแบบเป็นแก้วแยกและแบบเป็นขวด) เครื่องดื่มหมวด Coffee, Smoothie และ Juice ให้เลือกดื่มตามความชอบอีกด้วย
ปิดท้ายมื้อบรันช์ในครั้งนี้กันด้วยหมวดไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ 2 รสชาติแนะนำ ได้แก่ Fig Leaf Soft Serve (290 บาท) ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟรสโยเกิร์ตราดด้วยซอสลูกฟิกซ์และผงโรยด้านบนไอศกรีมที่ทำมาจากใบของลูกฟิกซ์ หรือจะเป็น Salted Caramel Soft Serve (200 บาท) ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟรสคาราเมลเกลือทะเล ราดซอสคาราเมลกับถั่วลิสงก็ดีงาม ถูกใจสายหวานไม่แพ้กัน