Experience Omakase Kappou Style
สำหรับใครที่รักการทานซูชิและเคยได้ลองทาน Sushi Omakase กันแล้ว ลองมาสัมผัสประสบการณ์ทานโอมากาเสะในรูปแบบ Kappou กันสักครั้งที่ Kuon No Tsuki สำหรับ Omakase ในรูปแบบ Kappou นั้น จะเสิร์ฟเมนูอาหารญี่ปุ่นจากทั้งครัวร้อนและครัวเย็น ในแต่ละคอร์สประกอบไปด้วยวัตถุดิบพรีเมียมหลากหลายแบบจากญี่ปุ่น ให้ได้เพลิดเพลินกับเมนูตรงหน้ากันแบบไม่มีเบื่อ และยังคงพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ดูแลตั้งแต่วัตถุดิบและเมนูทั้งหมด โดยเชฟ Shintaro Narisawa และเชฟ Tsuneo Saitou เชฟชาวญี่ปุ่นที่ผ่านการทำงานกับร้านระดับ Michelin ชื่อดังในกรุงเทพฯ และมากไปด้วยประสบการณ์ทางด้านโอมากาเสะมาหลายปี ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อมาที่นี่แล้ว จะได้ทานทั้งเมนูซูชิและเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ จากวัตถุดิบชั้นดีหลากหลายชนิดกันจนอิ่มท้อง
Mysterious yet Cozy
ตัวร้านซ่อนอยู่ในซอยเล็ก ๆ ย่านเอกมัย ภายนอกตัวร้านเป็นอาคารสีดำ ดูลึกลับ เมื่อเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันอบอุ่นของห้องต้อนรับที่ยังคงใช้สีดำทึบ ก่อนที่พนักงานจะพาเข้าไปภายในร้านและพบกับบาร์โอมากาเสะที่ทำจากไม้ฮิโนกิ ไม้สนญี่ปุ่นที่มีกลิ่นหอมของเนื้อไม้ ตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน มีทั้งหมด 12 ที่นั่ง สำหรับรองรับลูกค้าแต่ละรอบที่เข้ามาทาน
Let The Journey Begins!
ทางร้านมีคอร์สโอมากาเสะให้บริการทั้งหมด 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกคือ มื้อกลางวัน เวลา 12.00-15.00 น. Lunch Course (3,500 บาท) ช่วงที่ 2 คือ มื้อเย็น เวลา 18.00-22.00 น. โดย Dinner Course มี 2 ราคา ได้แก่ Omakase Sushi Course (4,000 บาท) และ Omakase Course (6,500 บาท) หากไม่ทานเนื้อหรือมีวัตถุดิบที่ไม่ชอบ หรือแพ้อาหารชนิดใด สามารถแจ้งกับทางร้านได้ โดยแต่ละครั้งที่ไปทาน ทางร้านจะบันทึกข้อมูลการทานอาหารของลูกค้า เพื่อปรับเปลี่ยนเมนูให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และไม่ให้เสิร์ฟเมนูซ้ำกันเมื่อมาทานครั้งต่อไป
สำหรับครั้งนี้ ทางร้านแนะนำให้ลอง Dinner Omakase Course (6,500 บาท) มาเริ่มมื้อนี้ด้วย ตับปลา Ankimo หรือตับปลามังค์ฟิช เนื้อนุ่มเนียนของตับปลาเข้ากันได้ดีกับซอสรสหวานเค็มที่สามารถยกดื่มได้เลย ตัดรสด้วยวาซาบิสด ถัดมาเป็น ไข่ปลาโบระดองห่อด้วยโมจิและสาหร่าย ได้รสเค็ม ๆ ของไข่ปลาโบระหรือไข่ปลากระบอกญี่ปุ่น ผสมกับเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่มของโมจิที่ทางร้านเองจากข้าวญี่ปุ่น
ตามด้วยเมนูจากครัวร้อนกับ Saba Sandwich แซนด์วิชไส้เนื้อปลาซาบะดองชิ้นใหญ่ ตัดรสด้วยมายองเนสและหัวไช้เท้าดอง ได้ทั้งความนุ่มของเนื้อปลาและความกรอบของหัวไช้เท้าดอง ห่อด้วยขนมปังปิ้ง และ ซุปกา ที่มีเนื้อปลา Hamo หรือปลาไหลทะเลน้ำตื้นจากญี่ปุ่น ต้มมาในน้ำซุปรสกลมกล่อม สามารถเพิ่มรสชาติด้วยการบีบมะนาวลงไป
มาถึงเมนู ซาชิมิ ที่ทางเชฟเลือกเสิร์ฟเนื้อปลา Kinmedai และเนื้อปลา Katsuo ทางร้านแนะนำให้จิ้มกับเกลือทะเล มะนาว และซอสสาหร่ายโชยุ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่ชอบทานเนื้อ ทางร้านยังมีเมนู เนื้อวากิวญี่ปุ่นระดับ A5 ที่ทางร้านนำไปกริลล์แบบมีเดียมแรร์ ก่อนจะท็อปด้วย Uni และวาซาบิสด เสิร์ฟมาในจานเดียวกับ ลิ้นวัวญี่ปุ่น ที่ให้เนื้อสัมผัสกรุบ ๆ และไม่มีกลิ่นคาว
สลับมาที่เมนูซูชิอย่าง Hodate ซูชิหน้าหอย Hodate สด ๆ ตัวโต เนื้อนุ่มหวานราดด้วยซอส ตามด้วย ซูชิแก้มปลาทูน่า เนื้อแก้มปลาทูน่ากริลล์ ท็อปด้วยหัวไช้เท้าและซอสญี่ปุ่น เนื้อปลานุ่มมันละลายในปาก เข้ากับข้าวซูชิที่ปั้นมาแบบพอดีคำ
ต่อด้วยเมนูจากครัวร้อน ซุปหูฉลามและเส้นโซเมน และ ข้าวโพดญี่ปุ่นชุบแป้งทอด ข้าวโพดญี่ปุ่นเนื้อหวานกรอบชุบแป้งบาง ๆ ทอดกรอบ จิ้มกับเกลือ
มาถึงเมนูคาวเมนูสุดท้ายก่อนขนมหวาน ข้าวอบกุ้ง Ise Ebi และราก Gobo เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงอย่าง ไข่ปลาแซลมอน อูนิ โรยด้วยผิวส้มยูซุ หัวไชเท้าดอง และซุปมิโสะ ข้าวญี่ปุ่นอบกับกุ้งเนื้อเด้งหวาน ทานคู่กับเครื่องเคียงรสเค็มอย่างไข่ปลาแซลมอนและอูนิสด ๆ ตัดรสด้วยความหวานกรอบจากไชเท้าดอง
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง เต้าหู้โฮมเมดและซอสยุซุ ความนุ่มเนียนของเนื้อเต้าหู้ที่มีส่วนผสมของครีมสด ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานที่แฝงความขมนิด ๆ จากส้มยูซุ เป็นการปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์
Must Read!
- ทางร้านจะบันทึกข้อมูลการทานอาหารของลูกค้า เพื่อไม่ให้เสิร์ฟเมนูซ้ำกันเมื่อมาทานครั้งต่อไป
- บริเวณหน้าร้านมีที่จอดไม่มาก สามารถหาที่จอดได้ที่บริเวณใกล้เคียง เช่น Parklane เอกมัย เป็นต้น
- ต้องจองล่วงหน้าก่อนเข้ามาที่ร้านเท่านั้น