La Planté Deli & Bistro The New Destination in Sukhumvit 31
“สุขุมวิท 31” เป็นอีกหนึ่งซอยใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่หลากหลายสัญชาติ ชวนให้แวะเวียนไปลิ้มลองกันอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ย่านนี้เป็นอีกหนึ่งแหล่งแฮงก์เอาท์ที่ไม่เคยหลับใหล และในครั้งนี้ BKK. ขอชวนคุณแวะไปลิ้มลองความอร่อยในราคาจับต้องได้กันที่ La Planté ร้านอาหารน้องใหม่สไตล์ Thai Twist ที่พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูสุดพิเศษที่ประกอบไปด้วยผักสดออร์แกนิกส่งตรงจากสวนของ La Planté นั่นเอง
ตัวร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร AVORA31 Residence โดย La Planté มาในคอนเซ็ปต์แบบ Deli & Bistro เป็นทั้งร้านอาหารและช็อปที่นำเสนอวัตถุดิบประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผักสดจากสวนของ La Planté, กระเทียมทอดสไลซ์, กระเทียมเจียว, กระเทียมเจียวในน้ำมัน, หอมแดงดอง, Croutons และอื่น ๆ อีกมากมายให้เลือกช้อปกันในราคาเริ่มต้นเพียง 50 บาท
Provence Style
เมื่อก้าวเข้ามาด้านในจะพบ Wine Station ขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยไวน์คุณภาพให้คุณได้เลือกดื่มชิลล์ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดเก๋สไตล์ Provence ที่ทางร้านหยิบยกคาแร็กเตอร์ความเรียบง่ายของบ้านชนบทในแถบฝรั่งเศสตอนใต้มาไว้ที่นี่ โดดเด่นด้วยซุ้มประตูและกระจกบานโค้ง และดอกไม้ที่ประดับตามมุมต่าง ๆ แต่ยังคงให้บรรยากาศความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว
Enjoy with Your Favourite Dish
เริ่มต้นกันที่เมนูรองท้องอย่าง Grilled Chicken Ceasar Salad (179 บาท) เมนูยอดนิยมที่มีไฮไลต์อยู่ที่ผักสด ๆ จากสวนของ La Planté ที่ปลูกแบบออร์แกนิกส่งตรงจากสวน คลุกเคล้ากับน้ำสลัดโฮมเมดรสเข้มข้น ท็อปด้วยสะโพกไก่กริลล์ สามารถสั่งทานคู่กันกับ Cream of Mushroom Soup (119 บาท) ซุปครีมเห็ดที่ให้ความเข้มข้นจากเนื้อเห็ดแชมปิญองปั่น ผสมเข้ากับความเนียนนุ่มของครีมซุปและเนยจืดเล็กน้อย
หรือจะลองเป็น Fried Calamari with Garlic & Fresh Pepper (179 บาท) เมนูรองท้องที่อร่อยจนวางไม่ลงกับ ปลาหมึกหั่นชิ้นพอดีคำ ชุบแป้งเล็กน้อย คลุกเคล้ากับกระเทียมและพริกไทย ทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนกรอบ
สำหรับคนรักพาสต้า แนะนำให้ลอง Grilled Prawn Creamy Prawn Paste Sauce Fettuccini (259 บาท) เฟตตูชินีเส้นเหนียวนุ่ม ผัดคลุกเคล้ามากับครีมซอสมันกุ้งแบบเน้น ๆ ท็อปด้วยกุ้งขนาดพอดีคำ
อีกหนึ่งสลัดน่าลอง Mixed Red Salad (129 บาท) สลัดผักสดออร์แกนิกจากสวนของ La Planté ที่ประกอบไปด้วยผักสลัดสีแดงจากสวน ไม่ว่าจะเป็น Red Oak, Red Coral, Tomato, Red Onion และ Beetroot ก่อนจะราดด้วย Red Raspberry Dressing น้ำสลัดโฮมเมดสูตรพิเศษของทางร้าน ที่จานนี้จะช่วยเติมความสดชื่นด้วยรสเปรี้ยวอมหวานและความกรอบสดของผักสดจากสวน
มาถึง Main Course น่าลองอย่าง Grilled Pork Chop (369 บาท) พอร์คช็อปสเต๊กชิ้นโต สามารถสั่งคู่กันกับ Grilled Vegetables (119 บาท) เซ็ตผักย่างเติมความแบบจัดเต็ม เอาใจคนชอบกินผัก ประกอบไปด้วย หน่อไม้ฝรั่ง แครอท ซูกินี มะเขือยาวและเห็ดแชมปิญอง
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยของหวานสุดเฟรชอย่าง Raspberry Orange Ginger Granita (79 บาท) กรานิต้าเย็น ๆ ที่ให้ความเปรี้ยวอมหวานของราสพ์เบอร์รี ส้ม และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของขิง ช่วยเติมความสดชื่นปิดท้ายมื้อได้เป็นอย่างดี