Chill at LAFF
ใครยังไม่มีแพลนว่าวันว่างนี้จะไปทำอะไรที่ไหนดี ขอแนะนำให้ลองไปนั่งจิบกาแฟชิลล์ ๆ ที่คาเฟ่เปิดใหม่อย่าง LAFF Cafe ในซอยสุขุมวิท 50 เดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถไฟฟ้า หรือจะขับรถมาทางร้านมีที่จอดรถพร้อมคนดูแลรถให้ด้วย
LAFF Cafe ต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศสบาย ๆ แบบ Home Cafe ในรูปแบบห้องโถงโล่งกว้าง ได้ความสว่างจากแสงธรรมชาติที่ส่องลอดกระจกบานใหญ่ บวกกับโครงสร้างเก๋ ๆ ที่มองจากด้านนอกอาจดูคล้ายโบสถ์คริสต์ ด้านในถูกจัดวางเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบ มีพื้นที่ส่วนตัว ไม่ติดกันจนเกินไป ร่มรื่นจากสีเขียวของใบไม้ดอกไม้สด ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนนั่งจิบกาแฟที่บ้าน
Quality Ingredients
เมนูที่นี่เน้นในเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบให้เหมือนทำทานเองที่บ้าน ขนมทำสดใหม่ทุกวัน เช่นเดียวกันกับแก้วของสมูทตี้ต่าง ๆ ที่ใช้ผลไม้สดทุกแก้ว ส่วนสไตล์กาแฟจะได้รับอิทธิพลมาจากประเทศออสเตรเลีย
ลองชิมแก้ว Signature ของที่นี่อย่าง My passion (180 บาท) กาแฟคุณภาพดีที่ทางร้าน Blend เอง มาผสมเข้ากับเสาวรสสดจากโครงการหลวง และโซดาเพิ่มรสสัมผัสที่ซาบซ่า ใครเป็นสายรักกาแฟผลไม้ต้องลองชิม
แต่ใครไม่ดื่มกาแฟ Iced Chocolate (150 บาท) ก็เป็นอีกตัวเลือก ด้วยความเข้มข้น ไม่หวานจนเกินไป ให้รสขม ๆ ของช็อกโกแลต รสชาติโดยรวมจึงออกมานุ่มละมุนลิ้น ค่อนไปทางดาร์กช็อกโกแลต ทานกับขนมเข้ากันดี
Mom's Recipe
ทางด้านของขนมที่ทำใหม่ ๆ ทุกวันต้องไม่พลาดชิมเค้กประจำร้านอย่าง Laff me tender (195 บาท) ชีสเค้กสูตรเฉพาะของทางร้าน ทำกันสดใหม่ทุกวันจากฝีมือของคุณแม่เจ้าของร้าน เนื้อเค้กนุ่มละเอียด ท็อปด้านบนด้วยสตรอเบอร์รีสดลูกโต เสิร์ฟมาคู่กับซอสสตรอเบอร์รี เนื้อสัมผัสของชีสเค้กละลายในปาก แนะนำให้ทานตอนยังเย็น ๆ ส่วนตัวฐานเป็นบิสกิตหวานมันเค็ม เข้ากันเป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านแนะนำว่าต้องลองชิมเพราะคนมักซื้อติดไม้ติดมือกลับไปทานที่บ้านคือ Madam Carrot (165 บาท) เค้กแครอทที่ตัวเนื้อเค้กเบาไม่หนัก แน่นไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี ไม่หวานจัด อบใหม่ร้อน ๆ ทุกชิ้น
สุดท้ายที่ต้องไม่พลาด Almond Cream Croissant (135 บาท) ครัวซองต์ที่แม้หน้าอาจดูธรรมดา แต่ถ้าได้ลองชิมรับรองว่าต้องติดใจ เพราะจานนี้เสิร์ฟมากรุ่น ๆ ได้รสชาติหวานหอมมันของแป้งครัวซองต์ฉ่ำเนย ไม่หวานจนเกินไปแต่เหนียวนุ่มพอดี ทานได้เพลิน ๆ