The Legendary Restaurant in Thonglor
ส่งต่อความอร่อยระดับตำนานของร้านข้าวต้มโต้รุ่งเก่าแก่ชื่อดังอย่าง เลิศทิพย์ ซึ่งแต่เดิมเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียวที่ย่านลาดพร้าว-วังหิน ล่าสุดได้ขยับขยายให้คนที่อยู่โซนใจกลางเมืองย่านทองหล่อได้มีโอกาสไปลิ้มลองความเลิศรสสมชื่อเป็นแห่งที่ 2 โดยมี เชฟกิ๊ก-กมล ชอบดีงาม ทายาทคนสำคัญ ดีกรีผู้ชนะเลิศการแข่งขันจากรายการเชฟกระทะเหล็ก (Iron Chef Thailand) ประเภทอาหารจีน และผู้ร่วมแข่งขันจากรายการ Top Chef Thailand มาร่วมรังสรรค์ความอร่อยระดับพรีเมียม ทั้งเมนูยอดนิยมและเมนูสุดพิเศษให้ทุกคนได้ลองทานกัน
จุดกำเนิดของร้านอาหารเลิศทิพย์ เริ่มต้นจากอากงของเชฟกิ๊กได้ถ่ายทอดสูตรการปรุงอาหารตามแบบฉบับของคนจีนจากรุ่นสู่รุ่นมายังคุณพ่อของเชฟ โดยเปิดสาขาแรกที่จังหวัดลำปาง จากนั้นย้ายมาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมากที่สุดกับสาขาลาดพร้าว-วังหิน จนกระทั่งตกทอดมาถึงเชฟกิ๊ก ทายาทรุ่นที่ 3 แบบลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลยทีเดียว
More Modern Design
ดีไซน์การตกแต่งร้านของสาขาทองหล่อสร้างบรรยากาศเหมือนร้านอาหารสไตล์ฮ่องกง ซึ่งมีตู้โชว์วัตถุดิบ สามารถเลือกวัตถุดิบได้ที่หน้าร้าน บางโซนถูกออกแบบให้เป็นในลักษณะของบ้านคนจีนสมัยก่อน มีประตู บานเฟี้ยม กรงเหล็ก แล้วประดับตกแต่งด้วยไฟนีออนแบบจีน-ฮ่องกง อีกทั้งยังเพิ่มลุคโมเดิร์นให้มากขึ้นด้วยการเลือกใช้โทนสีดำ-แดง เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม มาพร้อมโซนนั่งภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ เพิ่มสเต็ปบันไดให้ได้ขึ้นไปนั่งทานอาหารบนชั้นลอยเพื่อเสริมความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้นด้วย
Thai-Chinese and Seafood Cuisine
ด้านอาหาร เมนูต่าง ๆ ที่ร้านเลิศทิพย์เสิร์ฟนั้นส่วนใหญ่เป็นสูตรอาหารตามตำรับจีนแต้จิ๋ว เพียงแต่นำมาปรับรสชาติใหม่ให้ได้ความจัดจ้าน ถูกปากคนไทย และสำหรับสาขาทองหล่อนี้จะเป็นการรวบรวมเมนูเด็ด ๆ ของเลิศทิพย์มาเสิร์ฟความอร่อยที่ร้านโดยเฉพาะ แม้จำนวนเมนูอาจมีไม่มากเท่ากับสาขาแรกแต่ล้วนแล้วแต่เป็นซิกเนเจอร์เมนูทั้งสิ้น พร้อมเพิ่มความพิเศษด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียมตามฤดูกาลจากแหล่งต้นกำเนิดความอร่อย รวมถึงวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ อาทิ ปลาและเนื้อวัวชั้นดีจากประเทศญี่ปุ่น หอยแมลงภู่จากฮอลแลนด์ ซีฟู้ดหรืออาหารทะเลสด ๆ จากประเทศต่าง ๆ เป็นต้น โดยทุกเมนูยังคงรักษาคอนเซ็ปต์อาหารจีนแบบฟิวชั่นไว้ในราคาสมเหตุสมผล
มาถึงที่ร้านแล้วขอแนะนำให้เริ่มต้นเรียกน้ำย่อยด้วยเมนู ไข่มุกอันดามัน (500 บาท) หอยนางรมสดเนื้อฉ่ำหวานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่เสิร์ฟแบบเป็นช็อต ในถ้วยกลมจิ๋วใส ๆ ราดมาด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บที่มีส่วนผสมของวาซาบิและน้ำพริกเผา แล้วท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน ใบสะระแหน่ และกระเทียมฝาน ในหนึ่งเซ็ตมีทั้งหมด 5 ถ้วยด้วยกัน ได้ความหลากหลายของรสชาติ ทั้งความเผ็ดแบบญี่ปุ่นจากวาซาบิ ความเผ็ดแบบไทย ๆ จากน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำพริกเผาที่เข้ากันสุด ๆ
ตามมาด้วยเมนูเบา ๆ อย่าง ผัดผักกูดผัดไฟแดง (100 บาท) ผักพื้นบ้านที่หาทานยาก เป็นยอดผักอ่อน ๆ ให้รสสัมผัสที่สดกรอบ ทางร้านนำมาผัดลงบนกระทะแบบสไตล์จีน ใช้ไฟแรง ผัดแล้วรีบตักเสิร์ฟทันทีเพื่อไม่ให้ผักเละจนเกินไป ทำให้ตัวผักมีความสดกรอบซึมซับน้ำซอสปรุงรสได้ดี ไม่ว่าจะทานคู่กับข้าวต้มหรือข้าวสวยก็อร่อยอย่าบอกใคร
หรือจะเป็น หนำเลี๊ยบหมูสับ (100 บาท) อีกหนึ่งเมนูที่ดึงมาจากกับข้าวที่นิยมทานกับข้าวต้มกุ๊ย เป็นการผัดหนำเลี๊ยบหมูสับแบบแห้ง ๆ ไม่เลี่ยนจนเกินไป หอมพริกไทย และให้รสชาติเข้มข้นเช่นเดิม
ส่วนเมนูที่พลาดไม่ได้คือ หมูมะนาว (150 บาท) ซิกเนเจอร์เมนูและเมนูขายดีอันดับหนึ่งของเลิศทิพย์ เป็นคอหมูย่างหมักตามสไตล์จีน สไลด์ชิ้นหนาแบบพอเหมาะ ซึ่งจะนำไปทอด แล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน ได้ทั้งความนุ่มของคอหมูและกลมกล่อมจัดจ้านของน้ำจิ้มที่ผสานรสชาติกันได้อย่างลงตัว
จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยเมนูไฮไลท์กับ ข้าวกะเพราเนื้อวากิว (A5 Akita) (1,500 บาท) ทำออกมาในลักษณะของกะเพราตามสไตล์ของเลิศทิพย์ เป็นข้าวกะเพราคลุก ใช้เทคนิคการผัดข้าวแบบจีนที่ทางร้านเน้นใส่ซีอิ๊ว ปรุงรสด้วยเครื่องเทศของไทยโดยการใส่พริกขี้หนูและกระเทียมลงไป ก่อนจะท็อปบนด้วยเนื้ออาคิตะวากิว A5 ที่ทางร้านนำไปย่างในกระทะให้ได้ความสุกระดับมีเดียม แรร์ เสิร์ฟมาพร้อมไข่ดาวยางมะตูม ความเป็นที่สุดของเมนูนี้คือได้ทั้งความนุ่มละมุนของเนื้อวากิว รสแซ่บจัดจ้านตามแบบฉบับของอาหารไทย และกลิ่นหอมนวลของซีอิ๊ว การรมควันร้อน ๆ แบบของจีน รับรองว่าถูกใจคนชอบทานเนื้อแน่นอน
Must Read!
- สำหรับใครที่อยากชิมฝีมือเชฟกิ๊ก ต้องจองล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมวัตถุดิบพรีเมียมคือกุ้งมังกรเจ็ดสี เมนูพิเศษที่เชฟเป็นคนลงมือทำเองเท่านั้น