The Return of Let The Boy Die
หลังจากปิดตัวไป 1 ปีเต็ม ถึงเวลาที่ Let The Boy Die บาร์คราฟต์เบียร์สัญชาติไทยสุดฮิตของนักดื่มคราฟท์เบียร์จะฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้นอกจากจะกลับมาพร้อมคราฟต์เบียร์ไทยที่มีให้เลือกถึง 12 แท็ป โดยจะถูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ ในแต่ละวันแล้ว ยังจัดเต็มด้วยเมนูอาหารที่ครีเอทมาเป็นพิเศษด้วยฝีมือของหนึ่งในหุ้นส่วนหลักที่เป็นถึงเจ้าของร้านเนื้อชื่อดังใน The COMMONS อย่าง Meat & Bones ที่สำคัญตัวร้านยังถูกอัพไซส์ให้ใหญ่ขึ้นกว่าร้านเก่าอีกหลายเท่า ด้วยความตั้งใจที่อยากให้ที่นี่เป็นเสมือนคอมมูนิตี้สเปซเพื่อให้เหล่าคนรักคราฟท์เบียร์ได้มาลองอะไรใหม่ ๆ และพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอีกด้วย
Cool Place with Cool Vibe
ตัวร้านตั้งอยู่บนถนนหลวง ในย่านเยาวราช โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ให้อารมณ์แบบดิบ ๆ เท่ ๆ ตามสไตล์ของ Let The Boy Die ด้วยผนังอิฐแดงที่สลับกับรอยแตกแยกของปูนเปลือย ตกแต่งด้วยภาพวาดโครงกระดูกที่มาจากโลโก้ของร้าน ด้านในมีความโปร่ง โล่ง และดูอบอุ่นในเวลาเดียวกัน มีที่นั่งพร้อมโต๊ะไม้ยาวขนาดใหญ่ที่รอต้อนรับทุกคนในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง
Looking for Something Good with Beer?
สำหรับใครที่มาถึงร้านแล้วเราแนะนำให้เลือกสั่งเมนูอาหารที่ถูกครีเอทมาเป็นพิเศษ รับรองว่าแต่ละเมนูล้วนเหมาะกับการทานแกล้มเบียร์เป็นที่สุด เริ่มที่ Beef Nacho (250 บาท) แป้งนาโช่กรุบกรอบ ท็อปหน้าด้วยเครื่องตามสไตล์เม็กซิกันแบบจัดเต็มที่มาพร้อมเนื้อชิ้นเล็ก ๆ
และอีกเมนูอย่าง hrs. Smoked Pork Ribs (320 บาท) ซี่โครงหมูติดมันชิ้นใหญ่ ๆ ที่หมักด้วยเครื่องเทศสูตรเฉพาะของร้าน ก่อนนำไปย่างจนสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมซอสที่เข้ากันกับตัวซี่โครง
Have A Sit & Drink!
มาถึงคราฟต์เบียร์ทางร้านแนะนำให้ลอง Festival of Light (180 บาท) วีทเบียร์ที่มีส่วนผสมของผลไม้อย่าง ส้มไหว้เจ้า ให้ความหอมละมุน
ถัดมาที่ Eek Dok Amber (220 บาท) คราฟท์เบียร์ไทยจาก Brew Rabbit ที่มีสีแดงอำพัน หรือจะลอง Let The Boy Die Passion Fruit (180 บาท) House Beer ของทางร้านเอง ที่ค่อนข้างดื่มง่ายมาก ๆ เพราะมีส่วนผสมของผลไม้อย่าง เสาวรส เหมาะสำหรับสาว ๆ เป็นที่สุด และ Choc Fac Dark Chocolate (180 บาท) เบียร์สีดำ ที่ดื่มง่ายกว่าปกติ เพราะมีกลิ่นและรสชาติของดาร์กช็อกโกแลตที่ค่อนข้างชัดเจน ทำให้นุ่มมากยิ่งขึ้น
ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วย Golden Coins IPA with Caramel (180 บาท) House Beer อีกตัวที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน เพิ่มความพิเศษด้วยรสและกลิ่นของคาราเมล