Let the boy die, let the girl kill
หลังจากได้รับเสียงตอบรับที่ดีจนกลายเป็นร้านแฮงก์เอ้าท์สุดฮิตของนักดื่มคราฟท์เบียร์ ทีมงานเบื้องหลังร้าน Let The Boy Die ก็ได้เปิดตัวร้านน้องใหม่ในคอนเซ็ปต์ของสนามเด็กเล่นที่กว้างขึ้นกับ Let The Girl Kill คราฟท์เบียร์ไทยและเอเชียนบนแท็ปมังกรแดงในย่านเจริญกรุง ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อร้านมาจากภาพยนตร์เรื่อง The Girl with The Dragon Tattoo
ตัวร้านมีขนาดไม่ได้กว้างมากนัก ตั้งอยู่ในตึกแถวอยู่ติดกันในย่านเจริญกรุง เมื่อผลักประตูไม้สุดโมเดิร์นเข้ามา จะได้พบกับความดิบเท่ตามสไตล์ร้านแฮงก์เอ้าท์ ด้านหลังเคาน์เตอร์จะมีแท็ปเบียร์ที่เรียกว่าเป็นรังของมังกรแดงตั้งเรียงรายกัน 12 แท็ป พร้อมรายชื่อเบียร์ที่จะผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละวันEat Before Drink
นอกจากคราฟท์เบียร์ไทยแล้ว ทางร้านก็เสิร์ฟเมนูทานเล่นด้วย เมนูประจำของนักดื่มเห็นจะเป็น เกี๊ยวกุ้งทอด (140 บาท) แป้งเกี๊ยวห่อกุ้งแบบอัดแน่น ก่อนจะนำไปทอดกรอบ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มบ๊วยให้ทานคู่กัน
แต่ถ้าชอบทานไส้กรอก ลองสั่ง Mix Sausage (280 บาท) ประกอบไปด้วยไส้กรอก 4 ชนิด ได้แก่ ไส้กรอกกระเทียม ไส้กรอกชีส และอีก 2 ชนิดจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วนำไปอบ ก่อนจะโรยด้วยออริกาโนปิดท้าย เสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศและซอสพริกให้ทานตามใจชอบ
Red Dragon Taps
ทางร้านเน้นเสิร์ฟคราฟท์เบียร์ไทยและเอเชียน และพร้อมให้ Brewer หน้าใหม่ได้มาแชร์เบียร์ของตัวเองเพื่อให้นักดื่มเข้าถึงมากขึ้น พร้อมทั้งได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์อีก 4 แบรนด์ ได้แก่ The Circus, Serious Panda, GooseBeer และ MickleheiM ในช่วงเปิดร้าน ทางร้านมี LTGK (200 บาท) House Beer สไตล์ IPA ที่มีกลิ่นฮอพสูง หมักจากมอลต์คั่วทำให้มีสีดำ บอดี้ปานกลางถึงหนัก ตามมาด้วย Yod Beer (180 บาท) หรือเบียร์หมีสไตล์ IPA มีปริมาณแอลกอฮอลล์ 6.2%
สำหรับเบียร์สดสไตล์ Weizen Beerkaab (180 บาท) เบียร์ค้าบ แบรนด์ไทยที่เป็น Jasmine Weizen ปริมาณแอลกอฮอลล์ 7.5% แต่มีกลิ่นมะลิบวกกับกลิ่นกล้วยนิด ๆ
ต่อด้วย X Beer (180 บาท) คราฟท์เบียร์สไตล์ IPA จากแบรนด์ X Beer กลิ่นออก Citrus หรือจะลอง Beer Kaab อีกตัว สไตล์ American Wheat (180 บาท) มีกลิ่นกล้วยจากการหมักยีสต์ ขมฮอพที่ปลายลิ้น