Little Home, Little Happiness
ความมั่นคงและชีวิตที่แสนสุข คงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในใจของใครหลายคน หลังจากเกษียณตัวเองออกจากหน้าที่การงาน ที่ต่างได้ทำกันมาอย่างหนักหน่วงตลอดหลายปี เช่นเดียวกันกับ คุณเต้ย ศิริโรจน์ และ คุณน้อง-ผกาพรรณ อรรถวิภัชน์ สองสามีภรรยา-เจ้าของร้าน Little Friend Coffee และ Little Friend Beyond B&B คาเฟ่และโฮสเทลสุดเก๋ในย่านซอยศูนย์วิจัย ที่จะพาทุกคนไปพบกับความสงบร่มเย็นท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมจิบเครื่องดื่มและทานอาหารสไตล์ Comfort Food ที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ
Surrounded by Nature
ตัวร้านแอบซ่อนอยู่ในซอยศูนย์วิจัย ใกล้กับโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้บรรยากาศของความเป็นธรรมชาติตั้งแต่เลี้ยวเข้าซอยมา ที่นี่เป็นพื้นที่ของครอบครัวและญาติ ๆ เกือบทั้งหมด ตัวร้านโดดเด่นด้วยผนังอิฐและประตูไม้บานใหญ่ กลมกลืนไปกับสวนสีเขียวและต้นไม้ใหญ่ที่โอบล้อมตัวร้านเอาไว้ และคำว่า 'Little Friend' นี้ มีที่มาจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในย่านนี้ นับเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่ทำให้ผู้มาเยือนได้ชาร์จพลังจากธรรมชาติอย่างเต็มที่
ตัวร้านดัดแปลงมาจากพื้นที่ของโรงรถเก่า รีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นอาคารสุดเก๋ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ออกแบบโดย Agaligo Studio ที่สร้างสรรค์บรรยากาศแบบเน้นความสงบร่มรื่น ตามวิถี Slow Life ก่อนจะเติมเต็มความสุขในยามเหนื่อยล้าด้วยเครื่องดื่มและอาหารที่เจ้าของร้านตั้งใจเสิร์ฟให้ทุกคนได้ทาน หากไม่รีบร้อนไปไหน ขอแนะนำให้นั่งชิลล์ ๆ ชมวิวธรรมชาติกันไปพลาง ๆ โดยด้านล่างจะเป็นพื้นที่ของ Little Friend Coffee และด้านบนจะเป็นพื้นที่ของโฮสเทล Little Friend Beyond B&B
Serving for Neighborhood
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเมนูแบบเบสิก ทานง่าย ไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องดื่มที่ทางคุณเต้ยลงมือชงเอง เนื่องจากชอบดื่มกาแฟเป็นทุนเดิม จึงพัฒนาความชอบและงานอดิเรกมาเป็นบาริสต้าอย่างเต็มตัว ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นหลัก เมนูแนะนำสำหรับอากาศร้อน ๆ ของเมืองไทยที่มาแล้วต้องลองคือ Little Coffee (70 บาท) เอสเพรสโซ่เย็นที่ใช้เมล็ดกาแฟแบบ Single Origin จากจังหวัดน่าน
ส่วนอีกหนึ่งแก้วแนะนำ เนื่องจากพี่สาวของคุณน้องประกอบกิจการสวนมะนาวอยู่ที่จังหวัดน่าน ทำให้ทางร้านมีมะนาวสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบจำนวนมาก ก่อนจะนำมาดัดแปลงเป็นเมนูต่าง ๆ ให้ได้ลิ้มลองอยู่เสมอ สำหรับเครื่องดื่มแนะนำให้ลองเป็น Red Mojito (110 บาท) เครื่องดื่มจากมะนาวออร์แกนิก ที่ทั้งหอมและให้รสเปรี้ยวของมะนาวแบบถึงใจ เมื่อนำมาผสมกับเนื้อของส้มโอสีแดง ทำให้ได้เครื่องดื่มที่ช่วยรีเฟรชร่างกายได้เป็นอย่างดี
หรือจะลองเป็น เค้กมะนาว (70 บาท) เค้กมะนาวเนื้อเนียน ให้กลิ่นหอมและรสเปรี้ยวนิด ๆ ของมะนาว
แต่ถ้าหากใครที่ชอบทานเมนูขนมปัง แนะนำให้ลองทาน ขนมปังส้ม (80 บาท) ขนมปังเนื้อนุ่มอบร้อน ท็อปหน้าด้วยส้มเชื่อม ให้รสชาติหอมหวาน เข้ากันกับขนมปังอย่างลงตัว
ปิดท้ายด้วยเมนูอาหารจานหลักอย่าง ข้าวหมูเกาหลี (135 บาท) ข้าวหน้าหมูสไตล์ Comfort Food ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานอาหารฝีมือคุณแม่ เนื่องจากทางร้านหมักกิมจิเองทุกสัปดาห์ เป็นกิมจิโฮมเมด จึงได้รสชาติในแบบเฉพาะตัวที่เมื่อนำมาหมักกับหมูเนื้อนุ่ม แล้วทานคู่กับข้าวสวยและน้ำซุปร้อน ๆ ก็ยิ่งได้รสชาติที่เข้ากันดีเหลือเกิน