Chill at the Lounge on 9th
ในช่วงบ่ายมาพักจิบชาหอม ๆ พร้อมสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่ Living Room เลานจ์สุดหรูบริเวณชั้น 9 ของ Park Hyatt Bangkok ในย่านชิดลม
All-Day Dining
Living Room เลานจ์ประจำโรงแรม เป็นสถานที่รับประทานอาหารและของว่างที่เปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเช้า ให้บริการอาหารเช้า อาหารนานาชาติและอาหารไทย แบบอะลาคาร์ท ในช่วงบ่ายมีเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีพร้อมชาหรือกาแฟชั้นเยี่ยม และช่วงเย็นให้บริการไวน์และคานาเป้ บริเวณเลานจ์มีพื้นที่กว้างขวางทั้งด้านในและเทอเรสติดสระว่ายน้ำด้านนอก โดดเด่นด้วยกระจกใสขนาดใหญ่ที่เอื้อต่อการชมวิวเมืองหรือดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ตกยามเย็น
หนึ่งในไฮไลท์การตกแต่งที่โดดเด่นของโรงแรมฯ จากฝีมือศิลปินชาวญี่ปุ่น ฮิโรโตชิ ซาสาดะ คือ
‘นาคา’ (Naga) ประกอบด้วยเซ็ตไม้และอะคริลิคที่แขวนลงมาจากเพดานและมีเส้นทางการขดที่คล้ายลวดลายพญานาคในตำนานที่กำลังเดินทางข้ามระหว่างสระน้ำและน้ำตกภายใน
Bite Size Eats with French Tea
สำหรับ Afternoon Tea ที่
Living Room จะไม่เสิร์ฟแบบดั้งเดิม ไม่มีสโคนหรือแซนด์วิช และอาหารทุกอย่างจะมาแบบไบท์ไซส์ ทานง่ายในคำเดียว ใช้วัตถุดิบในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ เสิร์ฟคู่กับ Mariage Frères ชาชั้นเยี่ยมจากฝรั่งเศส หรือกาแฟจาก Illy ราคาท่านละ 700++ บาท หรือ 1,200++ บาท สำหรับสองท่าน หรือหากต้องการดื่มแชมเปญก็สามารถเพิ่มอีก 1,100++ บาท จะได้รับแชมเปญ Bollinger Special Brut 2 แก้ว หรือค็อกเทลที่อินฟิวส์กับชา 1 กา (เสิร์ฟได้ 3 - 4 แก้ว)
Afternoon Tea (1,200 บาท / 2 คน)
เซ็ตน้ำชายามบ่ายเสิร์ฟในถาดแก้วพร้อมโถช็อคโกแลตตรงกลาง เมื่อเสิร์ฟถึงโต๊ะเรียบร้อยพนักงานจะรินน้ำใส่โถกลางถาดที่บรรจุน้ำแข็ง ทำให้มีควันพวยพุ่งออกจากกลางถาดที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจให้กับเซ็ตน้ำชาเซ็ตนี้เป็นอย่างดี
อาหารที่เสิร์ฟในเซ็ตประกอบด้วย ชุดขนมปังเปิดหน้า 4 ชิ้น; ขนมปังหน้าไข่ต้มสับคลุกเคล้ามายองเนส ท็อปด้วยคาเวียร์, ขนมปังทาครีมชีสและฮอร์สแรดิช ท็อปด้วยแซลมอนรมควันจากแทสมาเนีย ได้รสเปรี้ยวเล็ก ๆ จากเปลือกเลมอนและเคเปอร์, ขนมปังหน้าพาร์มาแฮมอย่างดี มาพร้อมเนยทรัฟเฟิลหอม ๆ และแตงดองที่ช่วยตัดรสชาติ ทานพร้อมกันทั้งสามส่วนเพื่อให้ได้รสสัมผัสที่ดีที่สุด และสุดท้าย ขนมปังหน้าบูราต้าชีสและมะเขือเทศกับใบโหระพาสับ รสชาติเบา ๆ ทานคู่กับชาร้อนยิ่งดี
Egg mimosa, avruga caviar; Tasmanian smoked salmon, horseradish, lemon; Parma ham, truffle butter; Burrata cheese, heirloom tomato, basil
ส่วนของหวานมี 7 อย่าง เริ่มจาก Passion fruit pavlova พาฟโลว่ารสนุ่มเบาที่ตัดรสชาติด้วยซอสเสาวรส, Salted caramel éclair เอแคลร์ไส้คาราเมลหอม ๆ กับเกลือทะเล ที่จับคู่เข้ากันได้อย่างลงตัว, ใครที่ชอบทานช็อกโกแลต อย่าลืมลอง Chocolate bavarois, chili ช็อคโกแลตมูสรสเข้มข้นที่มีรสเผ็ดร้อนเล็กน้อยจากพริก, Apple tart ทาร์ตแอปเปิ้ลเนื้อแป้งบางกรอบ, Raspberry & lychee mousse มูสราสป์เบอร์รี่กับลิ้นจี่ รสชาติเปรี้ยวหวาน เรียกความสดชื่นได้ดี, Lemon tart, thai pomelo ทาร์ตเลมอนพร้อมส้มโอ รสเปรี้ยวกลมกล่อมจากผลไม้ตระกูลซิตรัสพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ช่วยผ่อนคลายได้ดี และสุดท้าย Ice bonbons ช็อกโกแลตเคลือบไอศกรีมวานิลลา เสิร์ฟในโถกลางถาดแก้ว ของหวานล้างปากส่งท้ายมื้อน้ำชายามบ่าย
Passion fruit pavlova, Salted caramel éclair, Chocolate bavarois, chili, Apple tart, Raspberry & lychee mousse, Lemon tart, thai pomelo, Ice bonbons
เครื่องดื่มสามารถเลือกได้จากเมนูชาของ Mariage Frères 4 หมวด ชาเบลนด์พิเศษและชาคลาสสิก แนะนำให้สั่งชาดำ Marco Polo ชากลิ่นที่ได้รับความนิยมมากทึ่สุด อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้จีนและทิเบต ให้รสชาตินุ่มและดื่มง่าย หรือจะเป็น Thé Vert Marco Polo มาร์โค โปโล ในเวอร์ชั่นชาเขียวที่ Mariage Frères ได้ครีเอทสเปเชียลเบลนด์เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปี 2000 นอกจากนี้ยังมี Marco Polo ที่เป็นชาแดงให้ได้ลองจิบ ในชื่อ Marco Polo Rouge หนึ่งในคอลเลคชั่นมาร์โค โปโล ที่ควรค่าต่อการลิ้มลอง