Green Space in the City
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หากยังไม่มีแพลนไปไหน ลองแวะมาเปลี่ยนบรรยากาศและหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่มากันที่ Lobby Lounge, Sindhorn Kempinski Bangkok Hotel ที่พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยบริการเซ็ตน้ำชายามบ่ายสุดหรู ท่ามกลางความร่มรื่นสีเขียวที่ถูกประดับตกแต่งตามมุมต่าง ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ก่อนที่จะได้ละเมียดชิมลิ้มรสชาติของชาสมุนไพรชั้นดีและขนมต่าง ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี
Stunning Interior Design
โถงล็อบบี้แห่งนี้ถูกออกแบบตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ ‘A City Wellness Santuary’ โดดเด่นด้วยหลังคาสูงโปร่งและผนังปูนเปลือย ล้อมด้วยกระจกใสบานใหญ่ทั้งสองด้าน นอกจากจะมองเห็นวิวสีเขียวขจีของสวนสวยที่ดูร่มรื่นแลัว ยังเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ ภายในล็อบบี้ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเขียวเข้มและสีดำ สร้างลุคดูสุขุมและหรูหรา ตรงกลางโถงเป็นที่ตั้งของศาลาขนาดไม่ใหญ่นัก ถูกตกแต่งอย่างสวยงามน่าประทับใจ
Enjoy the Moment, with the 'Cheeva' Afternoon Tea
ชุดน้ำชายามบ่าย ‘ชีวา’ (ราคา 1,500++ บาท สำหรับ 2 ท่าน) มีให้เลือก 2 ชุด ทั้งชุดแบบคลาสสิกอย่าง ชุด Indulgence และชุด Guilt Free สำหรับคนทานมังสวิรัติ ทั้ง 2 ชุด เสิร์ฟพร้อมชาสมุนไพรออร์แกนิกชั้นดี จัดวางของคาวและขนมหวานมาอย่างสวยงามในเซ็ตแจกันกิ่งไม้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ทุกเมนูถูกครีเอตอย่างสร้างสรรค์และเต็มไปด้วยความพิถีพิถันโดยเชฟมากประสบการณ์ ที่บรรจงออกแบบทุกเมนูตั้งแต่รสชาติไปจนพรีเซนเทชัน
สำหรับชุด Indulgence เสิร์ฟทั้งของคาวและขนมหวานหน้าตาสวยงามมาอย่างจัดเต็ม เริ่มจาก สโคนแบบดั้งเดิม (Classic Scones) เสิร์ฟคู่กับแยมสตรอเบอร์รี, เลมอนครีม และคล็อตเต็ดครีม (Clotted Cream) เนื้อสโคนหอมกลิ่นเนย ทานคู่กับชาร้อน ๆ เข้ากันได้ดี เสิร์ฟมาพร้อมกับ เฟโยตินถั่ว (Peanut Butter Brioche Feulletine) อีกขนมเพสทรีสไตล์ฝรั่งเศส เนื้อขนมปังบริยอชสอดไส้ด้วยเนยถั่วรสหวานมัน
ต่อด้วยของคาวที่ทางเชฟนำรสชาติสไตล์เอเซียมาผสมผสานลงไปอย่าง แซนด์วิชสะเต๊ะไก่ม้วนกับแตงดองพร้อมกับซอสถั่ว (Pulled Chicken Satay Brioche with Pickled Cucumber and Peanut Sauce) ขนมปังบริยอชสอดไส้เนื้อไก่สะเต๊ะที่ผสมผสานซอสถั่ว ทานคู่กับแตงกวาดองรสเปรี้ยว หรือด้วยเมนูของคาวสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง พายแฮมมูสและเห็ดดอง (Vol au vent with Paris ham mousseline and pickled mushroom) ฐานแป้งทาร์ตฟูกรอบ ท็อปหน้าด้วยมูสปารีสแฮมและเห็ดดองรสกลมกล่อม
มาถึงเมนูขนมหวาน มีเมนูน่าลองอย่าง ปารีสเบรสท์พิสตาชิโอ เสิร์ฟพร้อมบัตเตอร์ครีมกาแฟ (Pistachio Paris Brest with Espresso crème) ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสดั้งเดิม แป้งชูว์ฟูกรอบผสมถั่วพิสตาชิโอ สอดไส้ครีมกาแฟรสหอมมัน และ เลมอนเมอแรงก์ทาร์ต (Lemon Meringue Tart Pop) ขนมเค้กป๊อปรสมะนาว เคลือบด้วยเมอแรงก์รสหวาน แนะนำให้ทานหลังทานของคาว ก่อนที่จะเริ่มทานของหวานเพื่อปรับรสชาติในปาก
Good for Vegan
ที่นี่ยังมีชุด Guilt Free สำหรับคนรักการทานขนมแต่ทานมังสวิรัติ ที่ไม่ต้องกลัวว่ารสชาติจะไม่อร่อย เพราะทางเชฟตั้งใจครีเอตสูตรให้รสชาติขนมออกมาอร่อยพอ ๆ กับขนมที่ใช้ส่วนผสมของไข่และเนย เริ่มจาก สโคนแครนเบอร์รีและสโคนฟักทอง เนื้อสโคนไม่กระด้าง ทานตอนอุ่น ๆ คู่กับแยมสตรอเบอร์รี, เลมอนครีม และมะพร้าวคลอตเต็ดครีม ส่วนขนมหวานแนะนำ มูสมะพร้าวไส้สับปะรดและเสาวรส (Mini Coconut with Compressed Pineapple and Passion fruit gel) มูสมะพร้าวเนื้อเนียนรสหอมมันจากมะพร้าว ตัดรสด้วยความเปรี้ยวอมหวานจากสับปะรดและเสาวรส เสิร์ฟมาในมะพร้าวจำลองขนาดน่ารัก และ ราสพ์เบอร์รีทาร์ต เสิร์ฟพร้อมวานิลลาเต้าหู้ครีมและเลมอนครีม (Tartlet with Vanilla Tofu, Lemon Curd and Raspberry) ทาร์ตราสพ์เบอร์รี สอดไส้ครีมเต้าหู้เนื้อนุ่มเนียน ได้รสเปรี้ยวจากเลมอนครีมและผลราสพ์เบอร์รีสด ๆ
Must Read!
- แนะนำให้จองล่วงหน้า