Eat Like A Local
'ข้าวต้มกุ๊ย' อาหารที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-จีน เสิร์ฟความอร่อยด้วยเครื่องเคียงรสจัดจ้าน พร้อมกับข้าวต้มร้อน ๆ ที่หลายคนล้วนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะข้าวต้มกุ๊ยนับเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมที่มักแวะทานกันหลังปาร์ตี้ และเป็นอาหารมื้อดึกแนว Street Food ที่สามารถแวะชิมริมทางกันได้อยู่บ่อย ๆ
Lon Lon Local Diner ร้านอาหารไทยที่เปิดให้บริการภายในตึก Trinity Silom รับประกันความอร่อยโดย คุณเยส-ราชันย์ โชคนานา เจ้าของร้านที่เคยฝากความอร่อยให้นักชิมทั้งหลายได้ลิ้มลองกันมาแล้วกับร้าน The Local Canteen ในคอนเซ็ปต์ 'โรงอาหาร' ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจหนุ่มสาวชาวออฟฟิศย่านสีลม-สาทรอย่างมาก ก่อนจะเปลี่ยนรูปแบบมาเป็น Lon Lon Local Diner ร้านข้าวต้มกุ๊ยสไตล์โมเดิร์น โดยหยิบเอาวัฒนธรรมการทานข้าวต้มกุ๊ยแบบดั้งเดิม และเสน่ห์ของร้านอาหาร Diner ในสไตล์ Retro Western ให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนู มาเป็นกิมมิกของทางร้าน ให้การทานข้าวต้มกุ๊ยริมทางดูเก๋ไก๋มากขึ้น แต่ยังคงรสชาติดั้งเดิมแบบคุณภาพคับถ้วย (ข้าวต้ม) เช่นเดิม
Lon Lon อ่านว่า ลอน ลอน โดยมีที่มาจากสไตล์การออกแบบร้าน ซึ่งนำลักษณะลอนของแผ่นสังกะสีมาเป็นส่วนหนึ่งของการดีไซน์ร้าน ต้อนรับทุกคนด้วยโลโก้ประจำร้าน รูปแมวเหมียวคาบปลาน่ารักน่าเอ็นดู แล้วเปลี่ยนบรรยากาศร้านข้าวต้มให้สนุกสนานด้วยสีสัน Lively เข้าถึงง่ายมากขึ้น ในโทนสีขาว สีน้ำเงิน และสีชมพู รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้และโต๊ะกลมสไตล์จีน ที่มีเก้าอี้กลมให้นั่งล้อมวง เหมือนได้ทานข้าวสบาย ๆ กับครอบครัว
เรามักคุ้นเคยกับการทานข้าวต้มที่เปิดให้บริการรอบดึก แต่สำหรับ Lon Lon Local Diner แล้ว เปิดให้บริการ 2 ช่วงเวลาคือ 11.30-14.30 น. และ 17.00-22.00 น. ตอบโจทย์สำหรับใครที่อยากทานข้าวต้มในช่วงกลางวัน
Casual Thai-Chinese Cuisine
ข้าวต้มกุ๊ยเป็นการรวมวัฒนธรรมอาหารไทยและจีนเข้าไว้ด้วยกัน ทางร้านจึงเน้นเสิร์ฟเครื่องเคียงหลากหลายเมนูให้เลือกทานคู่กับข้าวต้มร้อน ๆ ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลีดอง เป็ดตุ๋น กุนเชียง หมูเเดดเดียว และเมนู A La Carte รสจัดจ้านถูกปากคนไทยอีกมากมาย ขอคัดสรรเมนูพิเศษที่อยากแนะนำให้ลองทาน อย่างแรกคือ All Day Rice Set เซ็ตข้าวต้มที่เสิร์ฟ ข้าวต้มใบเตย (25 บาท) ร้อน ๆ พร้อม ยำเกี้ยมฉ่ายไข่เค็ม (85 บาท) เมนูคลาสสิก รสเปรี้ยวนิด หวานหน่อย ที่ใส่ไข่เค็มเพื่อบาลานซ์รสชาติให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น ตามมาด้วย เต้าหู้ดำ (85 บาท) เต้าหู้นิ่ม ๆ ที่นำไปต้มในน้ำพะโล้ ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน และ ผัดหนําเลี๊ยบหมูสับ หมูสับเนื้อติดมันเล็กน้อยผัดเข้ากับลูกหนำเลี๊ยบ หอมกลิ่นกระเทียมเจียวและพริกไทย พร้อมด้วยเครื่องเคียงอย่าง กะหล่ำปลีดอง กระเทียมดอง มะละกอดองที่หาทานค่อนข้างยาก
ต่อด้วยเมนูคลาสสิกที่ทานกับข้าวต้มแล้วเข้ากันเป็นที่สุด คือ ปลาอินทรีทอดเกลือ (285 บาท) ปลาอินทรีเนื้อแน่น ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน เวลาทานให้บีบมะนาวเพิ่มอีกนิดรับรองว่าติดใจ ส่วนใครที่ชอบทานหมูสามชั้นต้องถูกใจกับ ผัดผักคะน้าหมูสามชั้นทอดน้ำปลา (145 บาท) โดยทางร้านเลือกผักคะน้าสดใหม่ผัดเข้ากับหมูสามชั้นติดมันนิด ๆ ให้ได้ความกรุบกรอบ เคี้ยวเพลิน แถมยังได้รสแซ่บจากพริกที่ลงไปผัดพร้อมกัน
ปูนิ่มผัดพริกเกลือ (355 บาท) ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบที่ค่อนข้างหาทานยากอย่างปูนิ่ม โดยนำเนื้อปูนิ่มมาทอดจนกรอบ แล้วผัดเข้ากับพริกและเครื่องเทศต่าง ๆ จนได้กลิ่นหอมพร้อมรสชาติที่กลมกล่อมลงตัว ตบท้ายด้วยเมนูเผ็ดร้อนด้วย ต้มแซ่บพะโล้น่องเป็ด (165 บาท) เปลี่ยนพะโล้ที่เคยทาน ให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานรสชาติแซ่บ ๆ เข้ากับน่องเป็ดชิ้นใหญ่ที่คัดสรรมาอย่างดีก่อนนำไปทำพะโล้ ให้ซดน้ำเผ็ดร้อนไปพร้อมกับกลิ่นเครื่องเทศหอมอ่อน ๆ
