The New Speakeasy Secret Bar in China Town
เปิดวาร์ปบาร์เก๋แบบตัวอยู่ไทยใจอยู่ฮ่องกงกันที่ Lucky Duck บาร์น้องใหม่ในย่าน China Town ที่แอบซ่อนอยู่บนชั้น 3 ของร้านอาหาร Contento โดยคุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน ที่พร้อมเปิดประตูความเก๋ไก๋ต้อนรับคุณภายใต้คอนเซ็ปต์ “Speakeasy Shanghai Meets Prohibition Hollywood” บาร์ลับสไตล์เซี้ยงไฮ้ผสานกับบรรยากาศยุคสุราต้องห้ามของฮอลลีวูด
Speakeasy Shanghai Meets Prohibition Hollywood
“ยุคสุราต้องห้าม” หรือ Prohibition Era ถือกำเนิดขึ้นในช่วงระหว่างปีค.ศ 1920 - 1933 ที่สหรัฐอเมริกาออกกฎหมายห้ามผลิตและจัดจำหน่ายสุรา ทำให้ธุรกิจบาร์ต้องย้ายลงไปเป็นธุรกิจใต้ดิน เกิดการลักลอบเปิดบาร์และจัดจำหน่ายสุรา หรือจะเรียกว่าเป็น บาร์ลับ ในสมัยนั้นก็ว่าได้ เพราะจะรู้การมีอยู่ได้ก็ต้องอาศัยการบอกเล่ากันแบบปากต่อปากเพื่อเลี่ยงกฎหมายนั่นเอง
ถัดมาในปีค.ศ 1937 - 1945 ยุครุ่งเรืองของธุรกิจสีเทาในช่วงที่เซี่ยงไฮ้เพิ่งพ้นจากการเป็นเมืองท่าในสงครามมหาเอเชียบูรพามาไม่นาน (เขตสงครามหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ) หรือเรียกอีกชื่อที่รู้จักกันดีว่า “ยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ที่ผู้คนหันมาทำธุรกิจใต้ดิน เปิดธุรกิจอื่นบังหน้าเพื่อเอาตัวรอดจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ รวมไปถึงที่ตั้งของอาคารเองตั้งอยู่ในย่านเก่าแก่ที่ในอดีตเคยเป็นย่านหอนางโลม
เรื่องราวประวัติศาสตร์จากหลากประเทศ เสน่ห์ความลึกลับของ Secret Bar และความเย้ายวนของการซ่อนเร้นชวนให้ค้นหา ทั้งหมดนี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างคอนเซ็ปต์สนุก ๆ ของ Lucky Duck ขึ้นมา ที่จะผสมผสานความชิคเก๋แบบบาร์ลับในยุคเจ้าพ่อเซียงไฮ้ ให้กลิ่นอายความเป็นจีนคล้ายเข้าไปอยู่ในซีนหนังของหว่อง กาไว ผสานกับความลึกลับน่าค้นหาของ Speakeasy Bar ในยุคสุราต้องห้ามของอเมริกา
ความเย้ายวนที่ส่งผ่านดีไซน์สวย ๆ ของเฟอร์นิเจอร์โซฟา ผนัง ภาพพิมพ์และของสะสมส่วนตัวที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความมีสไตล์ของคุณอู้-นพปฎล พหลโยธิน ได้เป็นอย่างดี ตัวร้านแอบซ่อนอยู่หลังประตูร้านที่แสร้งว่าขายเป็ดบนชั้น 3 ของร้านอาหาร Contento ที่รอให้คุณมาค้นหาความอร่อยในค็อกเทลแก้วโปรด
Lucky Duck’s The Signature
เมื่อก้าวขึ้นมาถึงบาร์แห่งนี้ พลาดไม่ได้กับหลากหลายเมนูค็อกเทลแนะนำสุดครีเอต ที่ทีมบาร์เทนเดอร์เน้นการใช้วัตถุดิบที่ดีและแปลกใหม่ ผสานออกมาเป็นรสชาติใหม่ ๆที่ออกแบบมาภายใต้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ของผู้กำกับอั้งลี่และหว่อง กาไว ที่ถ่ายทอดบรรยากาศและรสชาติที่สื่อถึงเสน่ห์ของ Lucky Duck ได้อย่างดีที่สุด เริ่มต้นกันที่แก้วซิกเนเจอร์อย่าง Lucky Duck (420 บาท) ที่ให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Peddler Salted Plum มาผสานกันกับความสดชื่นของ Passion Fruit Liqueur และความเข้มข้นจาก Infused Vermouth
แก้วถัดมาเป็น Rice Girl (320 บาท) เครื่องดื่มให้รสชาติเบา ๆ ดื่มง่ายจาก Clarified Coconut Rum ครีมมะพร้าวอินฟิวส์กับรัมก่อนจะนำไปผ่านกระบวนการที่ทำให้ใสจนได้กลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์
ต่อกันที่ In The Mood (380 บาท) แก้วสดชื่นที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ In to the mood for love ของผู้กำกับหว่อง กา ไว จะช่วยรีเฟรชค่ำคืนนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยความหอมละมุนจาก Rose Petal Roku Gin จินอินฟิวกับกุหลาบและความเข้มข้นของ Strega เหล้าสมุนไพรอิตาลีความหวานจาก Moscato และ Strawberry Shrub
หรือจะลองเป็น Kung Fu Hustle (340 บาท) แก้วที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังของผู้กำกับ โจว ซิงฉือ เครื่องดื่มแก้วพิเศษที่มีส่วนผสมของ Bacon Fat Washed Tito’s Handmade Vodka หรือเบคอนอินฟิวส์วอดก้า ให้กลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ก่อนจะเติมรสชาติด้วย Lime, Giffard Melon และความเข้มข้นจาก Cocchi di Torino เวอร์มุธหวานจากอิตาลีและ Ancho reyes จากชิลี
นอกจากเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์ของทางร้านแล้ว ยังมีเมนูแนะนำอย่าง Smokey Duck (160 บาท) เป็ดย่างรมควันสไลซ์บางเสิร์ฟมาคู่กันกับแตงกวาดอง หรือจะลองเป็น Tuna Cone (140 บาท) ทูน่าทาร์ทาร์เสิร์ฟในโคนราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน