Luka Moto

Luka’s House Arrives On Thonglor

ภายหลังจากเสิร์ฟความอร่อยให้ชาวสีลมได้ลิ้มลองมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี ล่าสุด Luka Bangkok คาเฟ่ไลฟ์สไตล์สุดชิคก็ได้ส่งต่อความอร่อย มาให้ชาวทองหล่อได้สัมผัสไลฟ์สไตล์เก๋ ๆ กันบ้างกับ Luka Moto คาเฟ่ในเครือของแบรนด์ Luka ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์เท่ ๆ ของเหล่า Biker ให้เข้ากับการทานเมนูบรันช์คุณภาพพรีเมียม เครื่องดื่มแก้วโปรด จนกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งแฮงเอาท์เจ๋ง ๆ ใจกลางย่านทองหล่อที่ Cafe Hopper ทั้งหลายไม่ควรพลาด

 

คอมมูนิตี้แห่งใหม่สำหรับชาวไบค์เกอร์

Unique Lifestyle Companions

คาเฟ่ Luka Moto ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ไลฟ์สไตล์เท่ ๆ ของเหล่าไบค์เกอร์ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะเพียงผู้ชายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์ชิค ๆ ทันสมัย ให้ได้เข้ามาดื่มด่ำบรรยากาศสบาย ๆ ในพื้นที่แห่งนี้ นับเป็นคอมมูนิตี้แห่งใหม่สำหรับชาวไบค์เกอร์ทุกกลุ่ม ทุกยี่ห้อ ให้ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ไปจนถึงชาวทองหล่อให้ได้อิ่มอร่อยกับอาหารในสไตล์ Modern Comfort Food เมนูบรันช์สุดพิเศษ เครื่องดื่มรูปแบบต่าง ๆ ที่เสิร์ฟให้บริการตลอดทั้งวัน

 

บรรยากาศสบาย ๆ ภายในร้าน

Motorbike Club

ไม่เพียงแต่ความโดดเด่นด้านไลฟ์สไตล์ที่ทาง Luka Moto ตั้งใจถ่ายทอดให้ผู้ที่เข้ามาทานได้สัมผัสถึงความทันสมัย ความครีเอทีฟ และบรรยากาศสบาย ๆ เท่านั้น ที่นี่ยังนับเป็นศูนย์รวมของศิลปะในแขนงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของทีมออกแบบชื่อดังในไทย อาทิ K-Speed, Ricoland และ Smiths Vintage Club ที่ได้สร้างสรรค์รถมอเตอร์ไซค์ Custom ที่ไม่เหมือนใครในโลก และยังมีงานศิลปะภาพติดผนังที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย ฌอง ปิแอร์ บราวน์ นักออกแบบผู้เชี่ยวชาญงานพิมพ์ศิลป์ชั้นสูงจาก Coup d’Esprit Bespoke Print Lab พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์แฮนด์เมดจาก Casa Pagoda ที่ประกอบกันเป็นบรรยากาศในสไตล์ลอฟต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลูก้า ประเทศไทยอีกด้วย

 

สร้างสรรค์รถมอเตอร์ไซค์ Custom ที่มีเพียงคันเดียวในโลกมาร่วมจัดแสดง

นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีช็อปเสื้อผ้าไว้ให้สาวก Biker ได้เลือกช้อป อาทิ แจ็คเก็ต ถุงมือ หมวกกันน็อค และอื่น ๆ อีกมากมายที่ล้วนเป็นของแบรนด์ BMW Motorrad ส่วนในอนาคตอันใกล้ ราว ๆ เดือนเมษายนปี 2561 หลัง 18.00 น. เป็นต้นไป Luka Moto จะเปิดโซนบาร์ให้ชาวไนท์ไลฟ์ย่านทองหล่อได้ไปแฮงเอาท์กัน 

 

ด้านบนจัดในรูปแบบ Long Table ให้ได้นั่งสังสรรค์กันเป็นกลุ่ม มาพร้อมมุมครัวเปิดที่เผยให้เห็นการทำงานในครัวแบบเพลิน ๆ

Earth Tone

การตกแต่งภายในยังคงถ่ายทอดบรรยากาศร้านในสไตล์เวสเทิร์นยูโรเปี้ยน ด้วยการคุมโทนร้านลุคขรึม ๆ สีเทาและสีน้ำตาลให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์และโครงร้านที่มีสีของไม้ ผนังปูนเปลือย สำหรับโซนนั่งกินดื่มและเคาน์เตอร์กาแฟ-เบเกอรี่สดใหม่ จะได้ความอบอุ่นจากโคมไฟสีส้มที่ให้แสงสลัวอยู่ทั่วทุกมุม ไม่ว่าจะเลือกนั่งด้านล่าง หรือด้านบนก็สามารถใช้ช่วงเวลาดี ๆ ที่คาเฟ่แห่งนี้ได้ทั้งวัน

 

โซนบาร์เครื่องดื่ม

 

โซนโฮมเมดเบเกอรี่

All Day Brunch

Luka สาขานี้ยังคงรังสรรค์อาหารคุณภาพดี กาแฟที่คั่วจากเมล็ดพรีเมียม ชาจาก Malou Tea Atelier น้ำผลไม้คั้นสด และ Shrub Soda เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงอาหารเช้า เมนูบรันช์ที่ล้วนหรือคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบออร์แกนิก ปรุงอาหารแบบโฮมเมดมาให้ได้ทานกันเช่นเดิม โดยเมนูแนะนำเริ่มต้นกันที่ Acai Bowl (260 บาท) สมูทตี้อไคเบอร์รีผสมกับน้ำแอปเปิ้ลสกัดเย็น โรยหน้าด้วยผลไม้สดอย่างกล้วยหอม เมล็ดทับทิม กีวี กราโนล่าและเมล็ดเชีย รสชาติเปรี้ยวหวานเย็นสดชื่น อิ่มสบายท้องแบบเบา ๆ 

 

Acai Bowl (260 บาท)

ตามมาด้วย Smashed Avacado Open Face (240 บาท) เมนูบรั้นช์สไตล์สแกนดิเนเวีย ที่นำอะโวคาโดมาปรุงรสชาติด้วยเกลือกับพริกไทย แล้ววางท็อปบนขนมปังปิ้ง เหยาะน้ำมันมะกอกเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กับสลัดผัก มะเขือเทศ Fata Cheese และ Poached Egg รวมถึงแผ่นเผือกทอด มันทอดที่นิยมจิ้มทานกับซอสปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน

 

Smashed Avacado Open Face (240 บาท)

ใครที่ยังไม่อิ่ม ลองสั่งเมนูหนักท้องมากขึ้นอีกนิดด้วยอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ที่มีการทวิสต์รสชาติ วัตถุดิบระหว่างสไตล์ตะวันตกกับตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่าง Luka Breakfast Burito (310 บาท) แป้งตอร์ติญ่าที่ทากัวคาโมเล่ข้างใน รวมไข่ ชีส ควินัว ไส้กรอกแบบเน้น ๆ เสิร์ฟพร้อมแผ่นเผือกทอด มันทอด และซัลซ่ามะเขือเทศที่ตัดรสชาติกันอย่างลงตัว 

 

Luka Breakfast Burito (310 บาท)

ก่อนจะปิดท้ายกันด้วยของหวาน Cheesecake (180 บาท) เมนูชีสเค้กที่เสิร์ฟมาแบบก้อนกลม เนื้อครีมนุ่ม ๆ ที่เข้ากับความครัมเบิ้ลของแป้งเค้ก ท็อปปิ้งด้วยผลไม้สดหลากรส อาทิ สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี สับปะรด ให้รสเปรี้ยวอมหวานทานแล้วไม่เลี่ยนจนเกินไป

 

Cheesecake (180 บาท)

Let’s Get Drinks

ในส่วนของเครื่องดื่ม ทางคาเฟ่ยังคงคัดสรรวัตถุดิบออร์แกนิกมาครีเอทเป็นเมนูสุดพิเศษเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ น้ำผลไม้ ฯลฯ ทุกแก้วต่างก็คงคอนเซ็ปต์นี้ได้ดีเช่นเดิม ขอแนะนำ Luka Shrub Soda (80 บาท) เครื่องดื่มที่มีลักษณะคล้ายกันกับอิตาเลียนโซดา ผ่านการเบลนด์รสชาติระหว่าง Vinegar กับผลไม้ หรือโซดาผสมกับน้ำหมักจากส้ม สตรอเบอร์รี และโรสแมรี่ มี 2 รสชาติที่น่าลอง ได้แก่ Strawberry & Orange และ Spicy Pineapple 

 

Luka Shrub Soda (80 บาท)

ส่วนคนรักกาแฟ ต้องลองสั่ง Salted Caramel Ca Phe (140, 150 บาท) เป็นกาแฟฟิลเตอร์ที่ทางร้านทำไซรัปขึ้นเอง ดริปกับน้ำร้อนสไตล์เวียดนาม มีส่วนผสมของนมสดที่เข้ากันกับรสชาติของ Salted Caramel 

 

Salted Caramel Ca Phe (140, 150 บาท)