Enjoy Japanese Taste with MAGURO
เหล่าคนรักอาหารญี่ปุ่นคงต้องรู้จัก "MAGURO" กันอยู่บ้างแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะกับทุกมื้อของครอบครัวแล้ว ทางด้านของเมนูอาหารและวัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้ก็มั่นใจได้ในความพรีเมียมที่เสิร์ฟมาในทุกจาน จนทำให้ที่นี่กลายเป็นร้านโปรดในใจของหลาย ๆ บ้านได้ไม่ยาก
ครั้งนี้ MAGURO เปิดสาขาใหม่เป็นสาขาที่ 14 ที่ชั้น 2 ของโครงการ Marché Thonglor มาพร้อมบรรยากาศเรียบหรู แต่ก็ยังให้ความอบอุ่นสบายตลอดการทานมื้ออาหารของคุณ มาพร้อมความพรีเมียมของวัตถุดิบ ความคราฟต์จากฝีมือของเชฟมากประสบการณ์ แถมยังมีเมนูพิเศษสุด Exclusive ที่มาพร้อมปลาหายากตามฤดูกาล พร้อมเสิร์ฟให้ได้ชิมกันแบบจุใจเฉพาะสาขานี้อีกด้วย
Luxury Zen Vibes
ในส่วนของบรรยากาศร้าน ตกแต่งอย่างเรียบหรู สงบ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเรียบง่ายตามแบบฉบับญี่ปุ่น และยังมีมุมที่นั่งให้เลือกหลายโซนไม่ว่าจะเป็น โซนหน้าบาร์ให้สายรักการทำอาหารได้ดื่มด่ำกับท่วงท่าการรังสรรค์เมนูต่างๆ ของเชฟได้อย่างเพลิดเพลิน หรือหากใครมาเป็นกลุ่มเพื่อนและครอบครัวต้องการชั่วโมงแห่งความเป็นส่วนตัวก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ
ในการตกแต่งยังแอบมีกิมมิกความเป็น Modern Japanese ซ่อนอยู่ ทั้งส่วนของผนังที่มีลวดลายคลื่นพร้อมเท็กเจอร์แปลกตาในสีเอิร์ธโทนที่ช่วยสร้างบรรยากาศกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นที่น้อยแต่มาก เรียบแต่เก๋ได้แบบกำลังพอดี รวมไปถึงยังมีม่านกั้นสไตล์ญี่ปุ่นที่สามารถใช้งานเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้นั่นเอง
Premium Seasonal Ingredients
และสำหรับความพิเศษในสาขานี้ ทาง MAGURO ตั้งใจนำความสดแบบพรีเมียมจากท้องทะเลญี่ปุ่นและแหล่งที่ดีที่สุด มาเสิร์ฟให้กับชาวทองหล่อ และทุกท่านได้ดื่มด่ำกันในแบบที่ครบ จบในที่เดียว ขอแนะนำให้ชิมเมนูพิเศษที่เสิร์ฟเฉพาะสาขานี้ อย่าง Kinmedai Nitsuke (1,250 บาท) จานพิเศษจาก Kinmedai ปลาทะเลน้ำลึกเนื้อขาวสวยของญี่ปุ่นที่มาพร้อมความสดใหม่สัมผัสนุ่มและเต็มไปด้วยรสหวานของวัตถุดิบจากธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีต้มซีอิ้วสไตล์ญี่ปุ่นตามแบบเฉพาะของทางร้าน กลายเป็นรสชาติสุดกลมกล่อมนุ่มละมุน
ต่อมาเป็นเมนูจาก Kuruma Ebi หรือกุ้งลายเสือญี่ปุ่น ในจานของ Kuruma Ebi Tempura (850 บาท) ที่เชฟใช้กุ้งลายเสือญี่ปุ่นไซส์ใหญ่มาปรุงแบบ Tempura ก่อนจะนำไปทอดในอุณหภูมิที่พอดีจนได้สีเหลืองทอง มาพร้อมสัมผัสความกรอบนอก นุ่มฉ่ำด้านใน รับประทานง่ายแต่รับรองว่าติดใจในรสชาติแน่นอน
จานต่อมาเป็น Kuruma Ebi Sushi (350 บาท) ซูชิกุ้งลายเสือญี่ปุ่นที่ทางร้านเลือกใช้ข้าวญี่ปุ่นที่ผ่านการปรุงรสแบบ Akashari เข้ากันเป็นอย่างดีกับรสหวานธรรมชาติของกุ้งลายเสือเนื้อแน่นที่ผ่านการทำให้สุกด้วยการนำไป Mushi ผ่านน้ำร้อน
ต่อจากเมนูทานเล่นมาสู่ความยิ่งใหญ่ของเซ็ตซาชิมิกับ Seven Oceans (1,390 บาท) หนึ่งใน Signature ของทางร้าน ที่รวบรวมเอาล้ำค่าของท้องทะเลมารวมไว้ในที่เดียวจากวัตถุดิบสดใหม่ ทั้ง 7 ชนิด อย่าง Salmon, Salmon Toro, Ikura, Tuna, Akami, Hotate, Engawa และ Hamachi ที่เสิร์ฟมาแบบชิ้นใหญ่ ให้เราได้ลิ้มรสความอร่อยแบบเต็มคำ
ส่วนในหมวดของเมนูด้ง ขอแนะนำ Golden Bara Don (790 บาท) มินิด้งที่รวมความสดใหม่พรีเมียมจากท้องทะเลมาให้ชิมกันในชามเดียว โดยชามนี้ประกอบไปด้วย 4 วัตถุดิบสุดแกรนด์ทั้ง Otoro, Akami, Salmon Toro และ Tamago ไข่ดองแบบโฮมเมดของทางร้าน
อีกชามที่ห้ามพลาดคือ Golden Kaisen Don (750 บาท) มินิด้งที่ประกอบไปด้วย Otoro, Negi Toro, Kinmedai, Kurama Ebi, Salmon Toro และ ไข่ดองโฮมเมดสูตรพิเศษจากทางร้าน
ปิดท้ายด้วยเมนูสลัดแบบเบา ๆ เป็นการล้างปาก ในจานของ Soft Shell Crab Salad (370 บาท) สลัดปูนิ่มทอดกรอบที่มาพร้อมผักหลากหลายชนิดที่สดใหม่ ท็อปด้วยปูนิ่มทอดกรอบชิ้นโตเต็มคำ ราดด้วยน้ำสลัดซีอิ๊วญี่ปุ่นที่ช่วยเสริมความสดชื่นได้อีกเป็นเท่าตัว เป็นการจบมื้อพิเศษนี้ได้อย่างน่าประทับใจ