Cozy Cafe and Casual Dining
ชวนมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ผ่อนคลายพร้อมสัมผัสความอบอุ่นละมุนละไมไปกับ Mareeji Cafe & Casual Dining คาเฟ่และร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบโฮมเมด ท่ามกลางบรรยากาศสุดพิเศษแบบ Casual Dining ที่ให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่น สบาย ๆ อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยต้นไม้ เหมาะสำหรับแวะมาพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี
Feel Warm with Natural
ด้วยความที่ชื่อร้านมาจากคำว่า ‘มรีจิ’ ที่หมายถึงแสงแดด เป็นเหตุผลให้คาเฟ่แห่งนี้ถูกรายล้อมด้วยกระจกใส เพื่อให้แสงแดดสามารถส่องรำไรเข้ามาสร้างความอบอุ่นระหว่างวันได้ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หนังและไม้ ทำให้เต็มไปด้วยมู้ดแอนด์โทนอบอุ่นและเรียบง่ายในคราวเดียวกัน มีหลากหลายมุมที่นั่งให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น Indoor หรือ Outdoor ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ ก็สามารถผ่อนคลายกันได้ตลอดทั้งวัน
Serves Home Cooked Meals and Hearty Drinks
ในส่วนของเมนูอาหาร ทางร้านพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบโฮมเมดที่ครีเอตมาทั้งอาหารไทยภาคใต้ และอาหารสไตล์ Western ให้เลือกทานตามความชอบ แนะนำเมนูแรกอย่าง Chicken Satay Wrap (130 บาท) ไก่สะเต๊ะปรุงรสเข้มข้น กลมกล่อม ด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ก่อนจะนำไปย่างจนหอมแล้วห่อด้วยแป้ง สอดไส้ด้วยผักกาดและหอมแดง เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับ Parmesan Truffle Fries และ Sour Cream Dip เข้ากันได้อย่างลงตัว แนะนำให้ทานคู่กับเครื่องดื่ม Café Latte (85 บาท) เมล็ดกาแฟไทย-บราซิล ชนิดคั่วกลาง นำมาผสมผสานเข้ากับนมจนได้รสชาตินุ่มละมุน
ตามด้วย Mareeji Refreshing Salad (130 บาท) สลัดผักที่ให้รสชาติสดชื่นด้วยส่วนผสมของ ส้มแมนดาริน แอปเปิ้ลเขียว และบีทรูท ท็อปด้วยธัญพืชอย่างเมล็ดทานตะวันและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ราดมาด้วยซอสบัลซามิก ให้รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วสดชื่น
มาถึงเมนู Comfort Food ที่ไม่ว่าใครทานก็ต้องติดใจอย่าง สตูไก่ (150 บาท) น่องไก่ติดสะโพกที่ทางร้านนำไปทอดจนกรอบ ก่อนจะนำไปตุ๋นกับกับเครื่องเทศและซอสสูตรพิเศษนานกว่า 3-4 ชั่วโมง จนได้เนื้อไก่ที่นุ่มชุ่มฉ่ำ พร้อมรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศเป็นอย่างดี
ตามด้วยเมนูอาหารไทยที่ให้รสชาติตามแบบฉบับภาคใต้แท้ ๆ อย่าง หมูผัดเคยฉลู (120 บาท) สันคอหมูที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี ผัดคลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศสมุนไพรอย่าง พริก กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด และเคยฉลูจากเกาะลิบง จังหวัดตรัง ทำให้จานนี้เต็มไปด้วยรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม พร้อมเนื้อสัมผัสจากเคยฉลู
อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ ต้องลอง แกงส้มใต้ปลากะพง (150 บาท) ปลากะพงสดใหม่ ที่ทางร้านนำไปเคี่ยวกับเครื่องแกงรสชาติใต้แท้ ๆ จากจังหวัดตรัง และสมุนไพรไทย ให้รสชาติเผ็ดร้อนแต่ยังคงความกลมกล่อมไว้ได้เป็นอย่างดี เสริมความอร่อยด้วยไหลบัวหรือยอดมะพร้าว ที่สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
ตามด้วยเมนูขนมหวานน่าทานอย่าง Carrot Cake (120 บาท) เค้กแครอทโฮมเมด ให้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน ท็อปด้วยครีมชีสหอมกลิ่นเลมอน เสริมความกรุบกรอบด้วยถั่วปิดท้าย ทานคู่กับ Signature Drink แสนชื่นใจอย่าง Anona (120 บาท) มีส่วนผสมของสับปะรดและตะไคร้ ก่อนจะนำไปเพิ่มความซ่าสดชื่นด้วยโทนิค ตามด้วยช็อตเอสเปรสโซปิดท้าย เติมเต็มความสดชื่นระหว่างวันได้เป็นอย่างดี
หรือจะเป็น Maysa (130 บาท) อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ช่วยสร้างความรีเฟรชชิ่งได้ดี ด้วยส่วนผสมของใบมะกรูดที่นำมาบดกับสตรอเบอร์รีสดจนได้ความหอม พร้อมผสมผสานรสชาติด้วยเลมอนและแครนเบอร์รี ทำให้แก้วนี้ดื่มง่าย มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่ผสมผสานกันออกมาได้อย่างลงตัว
ปิดท้ายกันที่ Shortcake Biscuits With Real Chocolate Dip & Jam (80 บาท) บิสกิตกรุบกรอบหอมเนย เสิร์ฟพร้อมแยมส้มสดและช็อกโกแลตกานาช ให้รสชาติเข้มข้น ที่คนรักขนมหวานต้องถูกใจ