Published on January 29, 2018

Ideal Daily Meal

Meat Bar 31 เป็นร้านสเต็กที่เพิ่งเปิดบ้านได้ไม่นานในซอยสุขุมวิท 31 โดยเจ้าของร้าน เชฟนิกุ อิทธิ วรเนตร หนึ่งในทีมงานของร้าน Barka Bar ที่มาพร้อมกับประสบการณ์หลายปีที่ร้าน Umenohana, bitterman, Chivasom และโรงแรม Alila ที่ชะอำ หลังจากเรียนการทำอาหารจบจาก Le Cordon Bleu ประเทศอังกฤษ คุณนิกุอยากให้ที่นี่เป็นร้านสเต็กดี ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องแพงเหมือนร้านในโรงแรมและสามารถทานได้บ่อยทุก ๆ วัน

 

ด้วยความตั้งใจของคุณนิกุที่อยากให้ที่นี่เป็นร้านสเต็กที่มาทานได้โดยไม่ต้องเกร็ง พี่ชายของคุณนิกุเองผู้เป็นสถาปนิกจึงออกแบบโดยเลือกใช้สีขาวกับกระจกให้ร้านโปร่งสบาย ดูน่านั่งด้วยรูปวัวตัวใหญ่ที่เพ้นท์อยู่บนผนังและการตกแต่งที่ใช้ต้นไม้ประดับประดาห้อยตามเพดานและรอบ ๆ ร้าน อบอุ่นแต่แฝงความ Classy นิด ๆ ด้วยการใช้ไม้สีเข้มและเหล็กสีดำมาช่วยเติมบรรยากาศที่หลายคนนั่งจิบไวน์ท่ามกลางเพลงแนว Classic Jazz ยุค 1920s-1930s
 

Crusty Juicy

นอกเหนือจากความหลากหลายของเนื้อคุณภาพที่มีให้เลือกกันแล้ว จุดเด่นของที่นี่คือการย่างเนื้อสเต็กแบบ Lava Grill คือ การใช้หินลาวาซึ่งเป็นหินที่สามารถจุความร้อนได้สูงกว่าถ่านหรือเตาแก๊สทั่ว ๆ ไป จึงทำให้เนื้อมีความฉ่ำและมี Crust อยู่ภายนอก สำหรับคนที่ชอบเนื้อแบบนุ่ม ๆ ทางร้านแนะนำสายพันธุ์ญี่ปุ่นอย่าง Miyasaki Wagyu Rib Cap (2,200 บาทสำหรับ 180 กรัม) กับมาร์เบิลสกอร์เกรด A5 แต่ถ้าชอบแบบเนื้อฉ่ำเคี้ยวมันส์ ลองเนื้อสันในจากอเมริกาอย่าง USDA Prime Beef Tenderloin (1,350 บาทสำหรับ  200 กรัม)

 

Australian Grain-Fed Bone-in Tomahawk Cut (2,800 บาท)

 

Roasted Bone Marrow with Garlic Bread (350 บาท)

ส่วนเนื้อไทยก็ดูเข้าท่าไม่แพ้กัน ลอง Pure Breed Thai Wagyu, Tenderloin (650 บาทสำหรับ 200 กรัม)  ซึ่งเป็นเนื้อที่ได้จากวัวดำสายพันธุ์ญี่ปุ่นจากอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ส่วนโต๊ะไหนมากันหลายคน ทางร้านแนะนำ Australian Grain-Fed Bone-in Tomahawk Cut (2,800 บาทสำหรับ 1 กิโลกรัม) ที่มาพร้อมกับมันบดและน้ำเกรวี่ เหมาะสำหรับทาน 3-4 คน

 

Australian Grain-Fed Bone-in Tomahawk Cut (2,800 บาทสำหรับ 1 กิโลกรัม)

 

Lobster Macaroni (450 บาท)

สำหรับเมนูของหวาน ทางร้านได้คุณเพญณี จิรายุวัฒนา ที่จบจาก The Culinary Institute of America มาเป็น Pastry Chef ให้ โดยขนมที่นี่จะเน้นใช้ผลไม้สดตามฤดูกาลที่ทานแล้วสดชื่นกับอากาศร้อน ๆ ของบ้านเรา ลองสั่งจานโปรดของเราอย่าง Elderflower Jelly (250 บาท) ที่ใส่บลูเบอรี่ รสชาติออกเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาและอัลมอนด์สไลด์ หรือลอง Double Chocolate Brownie (250 บาท) บราวนี่รสเข้มข้นท็อปด้วยครีมมาร์ชเมลโล่ ซอสวานิลลาและเฮเซลนัท

 

Double Chocolate Brownie (250 บาท)

หลังเสร็จจากมื้อหนัก ๆ สามารถสั่งวิสกี้อย่าง Talisker 10 Years, Single Malt (280 บาท) หรือ Suntory, Hibiki 17 years, Single Malt (380 บาท) มานั่งจิบชิล ๆ ที่โต๊ะเอ้าท์ดอร์กันได้ ส่วนใครที่กำลังมองหาไวน์มาดื่มแพร์เข้ากันกับสเต็ก ที่นี่เน้นไวน์สัญชาติฝรั่งเศสเกือบทั้งหมดซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อแก้ว ส่วนเบียร์มี Mikkeller, Lervig และ Modern Times เริ่มต้นที่ขวดละ 250 บาท

Info
Hours
Open : 6:30PM - 11PM
Fri : 6:30PM - 11PM
Sat : 6:30PM - 11PM
Sun : 6:30PM - 11PM
Mon : Closed
Tue : 6:30PM - 11PM
Wed : 6:30PM - 11PM
Thu : 6:30PM - 11PM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน
(Cash Only)

Address
ใต้คอนโดมิเนียม El Patio ซอยสุขุมวิท 31 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Map
Facilities
Suggest an Edit