Published on June 26, 2020

The Journey To Southern Italy

Mediterra Restaurant Bangkok ร้านอาหารในสไตล์ Southern Italian Cuisine ที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ คุณอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ และ Mr.Diego Pignatelli ชาวอิตาลี อดีตเจ้าของร้านอาหารอิตาลี Sfizio พร้อมได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ด้วยภูมิประเทศที่รายล้อมไปด้วยทะเล ถ่ายทอดออกมาเป็นรสชาติอาหารที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบสดใหม่ ได้กลิ่นอายความเฟรชแบบอิตาเลียนตอนใต้ โดยทางร้านได้จำลองบรรยากาศและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของอิตาลีตอนใต้มาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ​ บนย่านอโศกแห่งนี้

 

มุมเอาต์ดอร์ยอดฮิตที่ใคร ๆ เห็นเป็นต้องหลงรัก

 

ทางร้านตั้งใจดีไซน์แต่ละโซนอย่างดีที่สุด เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนได้ซึมซับบรรยากาศระหว่างทานอาหารที่ดีที่สุดเช่นกัน

Sit Back, Relax & Enjoy!

เมื่อเดินเข้ามาในร้าน Mediterra จะพบกับบรรยากาศสุดชิลล์ของต้นไม้สีเขียวตามมุมต่าง ๆ ตัดกับตัวบ้านสีขาวที่ถูกรีโนเวทจากบ้าน 2 ชั้นหลังเก่าให้กลายเป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่น

ด้านนอกร้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หวายสีน้ำตาลและสีขาว พร้อมเพิ่มสีสันด้วยหมอนอิงสีฟ้าหม่นและสีน้ำตาล มีหลากหลายมุมสวย ๆ ให้คนที่แวะมาเยือนได้ถ่ายรูปเก๋ ๆ กลับไปเป็นที่ระลึก เพราะที่นี่ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ที่ประเทศอิตาลีจริง ๆ

ส่วนภายในร้าน บริเวณด้านล่างจะเป็นที่ตั้งของครัว เผยให้เห็นบรรยากาศการทำงานของเหล่าเชฟที่กำลังปรุงอาหาร รวมถึงเตาอบพิซซ่าที่ใช้รังสรรค์เมนูพิซซ่า ส่งกลิ่นหอม ๆ ไปทั่วทั้งร้าน

สำหรับชั้น 2 จะเป็นโซนสำหรับไพรเวทปาร์ตี้ ตรงกลางประดับด้วยสวนต้นไม้ย่อม ๆ ที่ได้ คุณวิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง นักออกแบบการจัดสวนและเจ้าของร้าน Little Tree มาออกแบบสวนต้นไม้ทั้งหมดของทางร้าน มีโซนโต๊ะไม้ยาวให้นั่งกันได้เป็นกลุ่มใหญ่ โซนโซฟาที่ตกแต่งคล้ายห้องรับแขกในบ้าน ประดับด้วยผลงานภาพถ่ายฝีมือเจ้าของร้าน รวมถึงเครื่องเสียงและแผ่นเสียงของสะสมต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่เหมาะนั่งชิลล์กับเพื่อน ๆ อย่างมาก

 

อีกหนึ่งมุมเอาต์ดอร์ ให้ได้นั่งทานอาหารกันแบบสบาย ๆ

 

เลือกจับจองที่นั่งได้ตามใจชอบ

 

มุมนั่งชิลล์บริเวณชั้น 2 ที่สามารถจับจองเป็นพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ส่วนตัวได้ด้วย

Taste of Southern Italian Cuisine

ต่างจากหลาย ๆ ร้านอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพฯ เพราะ Mediterra เลือกที่จะนำเสนออาหารอิตาลีตอนใต้ เน้นอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ให้ความสดชื่นจากวัตถุดิบคุณภาพในคอนเซ็ปต์ ‘Simple Comfort Food From Fresh Ingredients’ ซึ่งสร้างสรรค์เมนูโดย เชฟ Walter D'Ambrosio - Head Chef มากฝีมือชาวซิซีเลียน สัญชาติอิตาลี ที่มีประสบการณ์จากร้านอาหารในโรงแรมดังในต่างประเทศ

 

เชฟ Walter D'Ambrosio - Head Chef ของทางร้าน

ขาดไม่ได้กับเมนูยอดนิยมที่ทำให้ทุกคนคิดถึงเมื่อกล่าวถึงอาหารอิตาเลียนคงหนีไม่พ้น ‘พิซซ่า’ ทางร้านแนะนำให้ลอง Mediterra (490 บาท) พิซซ่าโฮมเมดแป้งนุ่ม ๆ ท็อปหน้ามาด้วย Mozzarella Cheese, Scamorza cheese, Imported Mussels หอยแมลงภู่เปลือกดำขนาดกำลังดี, Ndujai Spicy Salami ไส้กรอกหมูเผ็ดสไตล์อิตาลีที่จะมาช่วยชูรสชาติให้กับพิซซ่าจานนี้ ก่อนจะโรยหน้าด้วยมะเขือเทศสีเหลือง, อัลมอนด์สไลซ์และพาสลีย์ ซึ่งพิซซ่าของที่นี่อบสดใหม่ทุกจานด้วยเตาถ่านโดยฝีมือเชฟชาวอิตาเลียนแท้ ๆ ส่งกลิ่นหอม ๆ ชวนลอง 

 

Mediterra (490 บาท)

ส่วนใครที่ชอบทานซีฟู้ดแนะนำให้ลอง Crudo (1,490 บาทต่อเซ็ต สำหรับ 2 ท่าน) เซ็ตเมนูที่เชฟคัดสรรซีฟู้ดสุดพรีเมียมส่งตรงจากอิตาลีมานำเสนอความสดใหม่ ทั้ง Mazara del vallo red prawns กุ้งแดงเนื้อแน่นที่ให้รสหวานเล็กน้อย เสิร์ฟมาพร้อมกันกับ Oysters หอยนางรมสดตัวใหญ่ สดใหม่พอดีคำ, Cuttlefish หมึกกระดองหั่นชิ้น, Sea Urchin อูนิและ Hamachi Tartare ทาร์ทาร์เนื้อปลาฮามาจิ ซึ่งทั้งหมดนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสถึง 4 แบบด้วยกันให้ได้เลือกทานได้อย่างเพลิดเพลิน

 

Crudo (2690 บาท)

ต่อด้วยเมนู Dentice (650 บาท) เนื้อปลากะพงแดงอบในห่อฟอยล์ ท็อปด้วยมะเขือเทศเชอรี มะกอก เคเปอร์ มันฝรั่ง เลมอน ไวน์ขาว และสมุนไพรอื่น ๆ อบประมาณ 10-12 นาที จนสุกกำลังดี ทานแล้วสดชื่น ไม่หนักท้องจนเกินไป ได้รสชาติสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนแท้ ๆ 

 

Dentice (650 บาท)

สำหรับคนรักพาสต้า ที่นี่ยังมีเมนู Sarde (430 บาท) เมนูพาสต้าขึ้นชื่อจากซิซิลี ใช้เส้น Chitarra Spaghetti ที่ทางร้านทำเอง ตัวเส้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หนาและนุ่ม ได้ความหนึบหนับ คลุกเคล้าด้วยลูกเกด อัลมอนด์สไลซ์ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยปลาซาร์ดีน แนะนำให้คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน จะได้รสสัมผัสความหนึบหนับจากเส้นสปาเก็ตตี้โฮมเมดและรสชาติที่ตัดกันของลูกเกดและปลาซาร์ดีน

 

Sarde (430 บาท)

ปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมหวานสุดคลาสสิก Cannoli (280 บาท) ขนมรูปทรงท่อขนาดพอดีคำ เป็นหนึ่งในขนมยอดฮิตของอิตาลีในช่วงเทศกาล ที่เชฟนำแป้งมาม้วนพันเป็นทรงกรวยทอดจนกรอบก่อนจะสอดไส้ด้วยริคอตต้าชีส และตกแต่งด้วยช็อกโกแลตชิพ เป็นการส่งท้ายความหวานให้กับมื้อนี้ได้อย่างสวยงาม 

 

Cannoli (280 บาท)

Must Read!
  • บริเวณร้านมีที่จอดรถไม่มาก สามารถจอดได้ที่ตึก Interchange เช่นกัน
Info
Hours
Open : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Thu : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Fri : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Sat : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Sun : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Mon : Closed
Tue : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Wed : 12PM - 2PM
6PM - 10PM
Price

฿฿฿ 301-500 บาทต่อคน

Address
ซอยสุขุมวิท 23 (ใกล้กับไปรษณีย์สาขาประสานมิตร) เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

MRT สุขุมวิท

BTS อโศก

Facilities
Suggest an Edit