2nd Branch of Meruto
สำหรับใครที่หลงใหลในอาหารญี่ปุ่นประเภทซูชิ คงเคยได้ยินชื่อ Meruto ร้านซูชิระดับพรีเมี่ยมที่เสิร์ฟในรูปแบบ Omakase สาขาแรกในซอยนวลจันทร์ 28 หลังจากที่ทางร้านได้รับกระแสตอบรับที่ดี ก็ได้เปิดสาขาเพิ่มในใจกลางเมือง ภายในล็อบบี้ ชั้น G ของอาคาร Sathorn Gardens บนถนนสาทร โดยร้านนี้เกิดจากความชอบและความหลงใหลในซูชิของเชฟอาร์ม จึงได้ทำการฝึกฝนและเรียนรู้วิธีการทำซูชิด้วยตนเองเป็นเวลามากกว่า 10 ปี
The Atmosphere
บรรยากาศในร้าน Meruto ค่อนข้างอบอุ่น และเงียบสงบ ทางร้านได้ตกแต่งเพิ่มเติมโดยยังคงคอนเซ็ปต์ของความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยผนังโทนสีสบายตา และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนทำให้ดูสว่างและให้กลิ่นอายญี่ปุ่นอย่างชัดเจน สร้างบรรยากาศให้ผู้คนที่เข้ามารู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว ที่สำคัญยังโดดเด่นด้วยซูชิบาร์ที่สามารถนั่งดูเชฟเสิร์ฟเมนูแต่ละคำได้อย่างเพลิดเพลิน
Premium Omakase Course
สำหรับอาหารของทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเมนูซูชิสไตล์ Omakase Course หรือ ซูชิที่เสิร์ฟเป็นคอร์สที่เชฟจัดให้ โดยทางร้านจะคัดสรรวัตถุดิบนำเข้าที่ดีที่สุดตามฤดูกาลและคำนึงถึงความถูกใจของลูกค้ามาครีเอทเป็นเมนูซูชิแต่ละคำ และตามปกติแล้ว การเสิร์ฟแบบโอมากาเสะ จะเสิร์ฟเรียงลำดับตามความเข้มข้นของรสชาติ จากรสอ่อนไปรสเข้ม เพื่อให้ทุกคนได้รับรสชาติที่อร่อยที่สุดตั้งแต่คำแรกจนถึงคำสุดท้าย โดยสามารถเลือกคอร์ส ซึ่งช่วงนี้เป็นคอร์ส Summer ประกอบด้วย ซูชิและซาชิมิรวม 15+ คำ โดยเชฟจะคัดเลือกเฉพาะวัตถุดิบพรีเมียมและหายากส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นมาเสิร์ฟให้ทุกคนที่มาได้ทานก่อนใคร ซึ่งแต่ละคอร์สจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ในคอร์สจะได้รับของหวานสไตล์ญี่ปุ่น ซุปมิโซะทะเล และชาเขียวร้อน/เย็นรีฟิล อีกด้วย
Best Quality Ingredients
และทางร้านจะให้ความสำคัญในการทำวัตถุดิบแต่ละอย่างอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การทำข้าวซูชิที่ผสมน้ำส้มสายชูสีแดง มีรสเปรี้ยว เค็ม ตามสูตรของทางร้าน ไปจนถึงการเลือกวาซาบิสดที่ต้องใช้จากเมืองอิซึเท่านั้น โดยจะนำมาขูดกับหนังปลากระเบน ซึ่งจะให้ความหอมเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นต้องรีบทานให้หมดภายใน 5 นาที ก่อนที่ความหอมและรสชาติของวาซาบิจะหายไป และเนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงซัมเมอร์ของทางญี่ปุ่น ดังนั้น วัตถุดิบที่ทางร้านคัดเลือกมาจะเป็นเมนูไฮไลท์เฉพาะช่วงซัมเมอร์ของทางญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย อากามิ ซึเกะ, โอโทโรรมควัน, มินิ ซูชิ โรล และ อูนิ หรือไข่หอยเม่นพันธุ์มุราซากิ แบรนด์ฮิกาชิซาวา จากฮอกไกโด ซึ่งจะอยู่เฉพาะในคอร์ส Summer Finale เท่านั้น
ส่วนเชฟก็คัดเฉพาะเมนูพิเศษมาให้ อย่างคำนี้ อากามิ ซึเกะ หรือส่วนหลังของปลาทูน่าบลูฟินนำมาสไลซ์อย่างปราณีต หมักด้วยซอสโชยุสูตรพิเศษของทางร้านประมาณ 30 นาที ก่อนจะนำมาป้ายด้วยวาซาบิ แล้วจึงวางลงบนข้าวเบา ๆ ทาด้วยเกลือและโชยุ ตามด้วยบีบมะนาวนิด ๆ เพื่อให้รสชาติตัดกันต่อด้วยเมนู โอโทโรรมควัน ซึ่งเชฟจะใช้เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่าบลูฟินมารมควันด้วยไม้ซากุระประมาณ 5 นาที จากนั้นวางลงบนข้าวเบา ๆ ก่อนจะป้ายด้วยวาซาบิ ตามด้วยเกลือ และบีบมะนาวนิด ๆและยังมีเมนูด้งไซส์พอดีคำอย่าง เมรูโตะด้ง ซึ่งด้านในจะมีโอโทโร อากามิ, อูนิสับ และแบล็คทรัฟเฟิล ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวีย ทองคำเปลว และดอกฮานะที่มีกลิ่นหอมมิ้นต์ ซึ่งเพิ่มอรรถรสในการทานเพิ่มขึ้นอีกระดับตามมาด้วยเมนู อิวาชิ โรล ปลาอิวาชิผิวเงินที่มีมันผสมแบบละมุนกำลังดี วางบนใบโอบะ ขิงบด หอมบด และป้ายวาซาบิด้านในเนื้อปลา นำไปม้วนโรลก่อนจะนำไปห่อสาหร่ายแล้วเสิร์ฟกับมือให้ทานทันที ซึ่งความสดของเนื้อปลาจะทำให้จานนี้มีรสชาติหวาน ละมุน ละลายในปากFor Uni Lovers
สำหรับใครที่ชอบทาน Uni ต้องลองทานเมนูจาก Uni ของที่นี่ เพราะทางร้านเลือกใช้ อูนิพันธุ์มุราซากิ แบรนด์ฮิกาชิซาวา จากฮอกไกโด ซึ่งต้องประมูลแข่งกับร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วโลก เพราะเป็นไข่หอยเม่นที่ขึ้นชื่อว่ารสชาติดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยทางเชฟจะนำมาวางบนข้าวญี่ปุ่น แล้วปั้นด้วยใบโอบะเพื่อไม่ให้อูนิช้ำ เสิร์ฟกับสาหร่ายอบหอยนางรม ช่วยดึงความหอมอ่อน ๆ ขึ้นมาให้เข้ากับอูนิที่มีรสชาติหวานมันอย่างลงตัว ส่วนเมนูปิดท้าย เชฟจะเสิร์ฟเป็นของหวานหรือผลไม้พรีเมียมตามฤดูกาลญี่ปุ่น
Must Read!
- สอบถามราคาคอร์สโอมากาเสะกับทางร้านก่อน และจองล่วงหน้าเท่านั้น