Traditional Japanese Cuisine
สาวกอาหารญี่ปุ่นหลายคนอาจคุ้นหูกับชื่อร้าน Miharu ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดโคซี่ในซอยสุขุมวิท 39 กันมาบ้างแล้ว เพราะจัดเป็นหนึ่งร้านที่ต้องกด fav สำหรับคนรักอาหารญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพอาหารที่สดใหม่ ผ่านการคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี และยังมีเชฟมากฝีมือคอยครีเอตจานพิเศษในทุกวัน
ทำให้ Miharu กลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในดวงใจของหลายคน
Comfy Vibes
ทางด้านบรรยากาศด้านในมีทั้งโซนหน้าบาร์ให้เลือกนั่งดูเชฟทำอาหารกันได้เพลิน ๆ หรือจะเป็นมุมโต๊ะเก้าอี้กว้างขวางนั่งสบายก็มีให้เลือกจับจองกันตามสะดวก นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวคอยบริการอีกด้วย การตกแต่งเรียบง่ายและเน้นเป็นไม้สีเข้มเพิ่มความสุขุมและสงบ ตกแต่งตามจุดต่าง ๆ ด้วยภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่น ให้ความผ่อนคลายระหว่างมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี
Seasonal Highlight Menus
ส่วนของเมนูอาหาร ครั้งนี้ Miharu ขอเอาใจคนรักปูกับการจัดเทศกาล Watari Kani เป็นที่แรกในประเทศไทย โดยปูวาตาริ หรือปูม้าญี่ปุ่นเนื้อหวาน ๆ จะถูกส่งตรงแบบสดใหม่ทุกวันจากประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะผ่านการรังสรรค์จากเชฟมากประสบการณ์กลายมาเป็นเมนูสุดว้าว
เริ่มต้นกันที่เมนูสุดไวรัลอย่างข้าวอบปูหม้อร้อนหรือ Watari Kani Ishi Yaki Gohan (1,500 บาท) ที่เสิร์ฟปูมาแบบล้น ๆ ในหม้อหินร้อนที่เสิร์ฟเพียง 20 หม้อต่อวัน โดยวิธีการทานทางร้านจะคลุกซอสปูเข้ากับข้าวญี่ปุ่นแล้วทิ้งไว้ในหม้อหินร้อนให้ตัวข้าวมีเท็กเจอร์ที่กรอบเกรียมก่อนจะตักเสิร์ฟ สามารถเลือกโรยต้นหอมซอยและทานกับซอสเปรี้ยวของทางร้านเพื่อเพิ่มรสชาติได้
ต่อมาเป็นเมนู Kani Miso Bread (320 บาท) ขนมปังญี่ปุ่นที่ผ่านการย่างด้วยเตาถ่านทำให้ได้กลิ่นหอม ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Kani Miso Spread ที่มากับเนื้อปูเต็มคำ ท็อปด้วยไข่ปลาคาราสุมิป่น ได้ทั้งรสหวานและเค็มในคำเดียว
อีกเมนูขายดีขอยกให้ Watari Gyoza (390 บาท) เกี๊ยวซ่าปู หรือเกี๊ยวซ่าปีกนางฟ้ามาพร้อมรสชาติเข้มข้นของเนื้อปูและมันปูแบบเต็มคำ และได้สัมผัสกรุบกรอบของแป้งเกี๊ยวส่วนที่กรอบ หรือจะเป็น Watari Cream Spring Roll (350 บาท) ปอเปี๊ยะปูที่มาพร้อมข้าวโพดเพิ่มความหวานและครีมมี ทานรวมกันกับเนื้อปูได้รสกลมกล่อมพอดี
ส่วนใครชอบซุปต้องสั่ง Watari Crab Soup (280 บาท) ซุปปูสไตล์ญี่ปุ่นที่ชูรสชาติของซุปดาชิใสแบบคลีน ๆ มาพร้อมความหวานของเนื้อปูที่ใส่มาให้แบบเต็มปากเต็มคำ ซดกันได้เพลิน ๆ
ส่วนเมนูอื่นในช่วงฤดูกาลนี้ก็มีไฮไลต์ที่น่าลองเช่นกัน อย่าง Saba Battera (600 บาท) โรลปลาซาบะดองที่ผ่านขั้นตอนพิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่ทางร้านจะเลือกใช้ปลาซาบะญี่ปุ่นสด นำไปดองก่อนจะห่อด้วยสาหร่ายบาเตระที่มีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย ด้านในเป็นข้าวญี่ปุ่น ต้มหอมและขิง ให้ความสดชื่นได้ในคำเดียว
ฟินไปกับความสดชื่นกันต่อในเมนู Katsuo Warayaki (550 บาท) ปลาคัตสึโอะสด ๆ หมักกับซอสสึเกะเป็นเวลา 15 - 20 นาที ก่อนที่เชฟจะนำไปย่างฟางเพื่อเพิ่มรสสัมผัสที่ชัดเจนมากขึ้น และ Ankimo Nitsuke (320 บาท) ตับปลาอังโกะที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น โดยเมื่อได้วัตถุดิบมาแล้วเชฟจะนำไปต้มในสาเกและทำความสะอาดอย่างละเอียด ก่อนจะนำไปต้มกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านต่อเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน จนได้สัมผัสนุ่มละมุนลิ้น
สุดท้ายแนะนำแซนวิส Wagyu Katsu (1,500 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อวากิวระดับ A5 จากจังหวัดคาโกชิม่า มาทอดในอณหภูมิ 180 องศาเพื่อสัมผัสที่ดีที่สุด ส่วนตัวขนมปังจะเป็นโชคุปังที่นุ่มเป็นพิเศษ เสิร์ฟมากับซอส 2 แบบ เข้ากันอย่างลงตัว