Published on February 11, 2020

One of Asia’s 50 Best Restaurants

Ministry of Crab ร้านอาหารทะเลชื่อดังจากศรีลังกาที่กวาดรางวัลมาอย่างมากมาย เปิดให้บริการสาขาแรกแล้วที่ไทย โลเคชันใจกลางซอยสุขุมวิท 31 โดย Ministry of Crab นั้นเปิดให้บริการมานับตั้งแต่ปี 2011 เริ่มก่อตั้งโดย เชฟดาร์ชาน มูนิดาซา และสองนักคริกเก็ตในตำนานอย่าง มาเฮลา จายาวรรณดี และ คูมาร์ สังคะระ ก่อนจะสร้างชื่อด้วยการครีเอตเมนูปูยักษ์และกุ้งยักษ์สดจากทะเล จนสามารถติดอันดับรางวัล Asia’s 50 Best Restaurants ติดต่อกันถึง 5 ปีซ้อน (2015–ปัจจุบัน) โดยในปีปัจจุบันติดอันดับที่ 35 ของเอเชียและครองอันดับ 1 ของประเทศศรีลังกาอีกด้วย
 

Ministry of Crab, Bangkok

 

การออกแบบและตกแต่งร้านในสไตล์โคโลเนียล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาขาหลักที่เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา

Ministry of Crab, Bangkok สาขาแรกของประเทศไทยนั้น ตั้งอยู่ใจกลางซอยสุขุมวิท 31 ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้ผู้ที่เข้ามาทานรู้สึกผ่อนคลาย ด้วยการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โคโลเนียล โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาขาหลักที่เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา และหากสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบ ๆ ร้าน จะเห็นว่าภายในร้านมีดอกก้ามปูถูกวางประดับไว้ด้วย ชวนให้นึกถึงลักษณะของก้ามปู ถัดมาที่บริเวณชั้นล่างทางร้านต้อนรับแขกด้วยครัวแบบเปิด สำหรับ 30 ที่นั่ง ส่วนด้านบนเปิดให้บริการในลักษณะของบาร์ให้คุณได้นั่งชิลล์จิบเครื่องดื่มไปพร้อมกับละเลียดความอร่อยของสารพัดเมนูซีฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากประเทศศรีลังกา
 

บรรยากาศชั้นบน ที่มีโซนบาร์ให้คุณได้นั่งชิลล์ จิบเครื่องดื่ม พร้อมวิวบริเวณซอยสุขุมวิท 31

Only Serve The Best Catch of The Day

มาทานที่นี่รับรองว่าถูกใจสายซีฟู้ดแน่นอน เพราะอีกหนึ่งความพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คือการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมทั้งสิ้น โดยเฉพาะปูและกุ้งที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีที่สุด อย่างการเลือกใช้ปูเป็นที่จับได้ตามธรรมชาติเท่านั้น ไม่ผ่านการแช่แข็งใด ๆ เพื่อไม่เป็นการรบกวนหรือทำลายสมดุลของระบบนิเวศทางธรรมชาติ อีกทั้งยังคงรสชาติสดหวานของเนื้อปูที่ส่งตรงมาจากหลายน่านน้ำ 


ทางร้านมีปูทะเลหลากหลายขนาดให้ได้เลือกทาน ไล่เรียงน้ำหนักกันตั้งแต่ครึ่งกิโลกรัม ไปจนถึง 'Crabzillas' หรือปูทะเลยักษ์ที่มีน้ำหนักมากถึง 2 กิโลกรัม ก่อนจะนำไปปรุงรสด้วยซอสหลากหลายชนิด พร้อมครีเอตออกมาเป็นเมนูปูผัด 4 รูปแบบ ได้แก่ ปูผัดพริก, ปูผัดพริกไทย, ปูผัดพริกกระเทียม และแกงกะหรี่ปูสไตล์ศรีลังกา

 

โคมไฟกระดองปูไซส์ต่าง ๆ ที่ถูกนำมาโชว์ไว้บนผนัง เพื่อใช้เป็นสื่อแทนวัตถุดิบจริง โดยหากปูไซส์ไหนหมดทางร้านจะปิดไฟลง เป็นสัญญาณแจ้งแก่ทางลูกค้า

สำหรับเมนู Starter ที่อยากให้ลองสั่งมาทานกัน ได้แก่ Crab Liver Pâté (390 บาท) ปาเต้ที่ทำมาจากมันปูสไตล์ฝรั่งเศส มีความหอมและรสสัมผัสที่มีความ Creamy โดยใช้เป็นซอสสำหรับปาดลงบน Melba Toast ก่อนราดตามด้วย Kithul Treacle หรือที่เรียกว่าน้ำตาลดอกมะพร้าวจากศรีลังกา เพื่อชูรสชาติความหวานมันกลมกล่อม หรือจะเป็น Avocado Crab Salad (390 บาท) เนื้อปูนึ่งที่นำมาคลุกเคล้าเข้ากับวาซาบิและมายองเนส พร้อมเสิร์ฟลงในอะโวคาโด เมนูนี้ให้รสจัดจ้าน ผสานเข้ากับความหวานฉ่ำของเนื้อปูสด ๆ และอะโวคาโดได้อย่างลงตัว
 

Crab Liver Pâté (390 บาท)

 

Avocado Crab Salad (390 บาท)

ตามมาด้วย Baked Crab (390 บาท) ที่เชฟดาร์ชานได้นำเอาวัตถุดิบสำคัญอย่าง 'เนื้อปู' ส่วนที่อร่อยที่สุดมาทำเป็น Crab Risotto ซึ่งอบกับข้าวผัด โดยความพิเศษจะอยู่ที่เนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม เคี้ยวแล้วได้รสหวานของเนื้อปูชิ้นโตแบบเต็มคำ มาถึงไฮไลต์พิเศษอย่างเมนู Black Pepper Crab (2,150 บาท) กันบ้าง สำหรับเมนูนี้ เลือกใช้ปูทะเลไซส์ Large ที่มีน้ำหนักถึง 900 กรัม และซอส Black Pepper พริกไทยดำซึ่งบดด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า 'Miris Gala' ตามอย่างสูตรเฉพาะที่มีชื่อเสียงอย่างมาก หรือเรียกได้ว่าเป็น 'King of Spice' ในประเทศศรีลังกาเลยก็ว่าได้ หากสั่งเมนูนี้มาทาน แนะนำให้คุณสวมผ้ากันเปื้อนให้พร้อม ก่อนจะใช้มือบรรจงแกะก้ามปูเพื่อลิ้มรสปูเนื้อแน่นที่สามารถทานกันได้ถึง 2 คนเลยทีเดียว

 

Baked Crab (390 บาท)

 

Black Pepper Crab (2,150 บาท)

นอกจากเมนูปูแล้ว เมนูกุ้งก็นับได้ว่าเป็นเมนูชูโรงอีกหนึ่งอย่างของทางร้าน โดยมีให้เลือกทานกันตั้งแต่กุ้งกุลาดำไปจนถึงกุ้งลายเสือไซส์ยักษ์ที่เรียกกันว่า 'Prawnzillas' ตามมาด้วยอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงของทางศรีลังกา อย่างหอยนางรม หอยลาย ซึ่งนำเสนอรสชาติในแบบดั้งเดิม เพื่อให้ถูกปากคนไทย เช่น Garlic Chili Prawn (620 บาท) เมนูที่ผสมผสานวัฒนธรรมของศรีลังกา ญี่ปุ่น และเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้ความหอมของน้ำมันมะกอก กระเทียม พริกแห้งศรีลังกา และโชยุปรุงรสออกมาเป็นกุ้งซอสกระเทียม ที่มีน้ำมันมะกอกเคลือบตัวกุ้งไซส์ Huge Prawn เอาไว้ ส่วนรสชาติจะอร่อยแค่ไหน อยากให้คุณหยิบขนมปัง 'Kade' ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันนั้นลองจิ้มทานกันดู!
 

Garlic Chili Prawn (620 บาท)

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานทานล้างปากอย่าง Coconut Crème Brûlée (250 บาท) เครมบรูเลเนื้อนุ่มในลูกมะพร้าว ที่เชฟใช้ความร้อนเบิร์นผิวหน้าของเครมบรูเลให้ตัวน้ำตาลมีกลิ่นหอมไหม้เล็กน้อย ชวนให้ลิ้มลอง

 

Coconut Crème Brûlée (250 บาท)

Reasons to Eat Here
ความสดใหม่ของปูแครบซิลลา

ความสดใหม่ของปูแครบซิลลา

ทางร้านคัดสรรปูและกุ้งเกรดที่ดีที่สุดมาเสิร์ฟความอร่อย โดยเลือกใช้ปูที่จับได้ตามธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการแช่แข็ง เพื่อคงรสหวานของเนื้อปูและกุ้งที่ส่งตรงความสดใหม่มาจากหลายน่านน้ำ

Must Read!
  • สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ shorturl.at/diMSV
Info
Hours
Open : 6:30PM - 11:30PM
Thu : 6:30PM - 11:30PM
Fri : 6:30PM - 11:30PM
Sat : 6:30PM - 11:30PM
Sun : 6:30PM - 11:30PM
Mon : Closed
Tue : 6:30PM - 11:30PM
Wed : 6:30PM - 11:30PM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน

Address
อาคารสามเอ็ด, ซอยสุขุมวิท 31 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS พร้อมพงษ์

BTS อโศก

Facilities
Suggest an Edit