Club for Commons
หากไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้าพ่อเสือเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมแวะมาหลบร้อนที่ Mojo Old Town คาเฟ่คลาสสิกริมถนนตะนาว แห่งย่านพระนคร ที่นำพาคนที่ชอบอะไรคล้ายกัน มาเจอกันด้วยบทเพลงดังจากเกาะอังกฤษ เดิมทีตึกสองชั้นริมถนนแห่งนี้เป็นร้านขายของชำเก่าแก่อายุกว่า 50 ปี ของอาม่าท่านหนึ่งในหุ้นส่วนร้าน ก่อนจะปล่อยให้เช่าเป็นร้านตัดเสื้อ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ลุกลามมาจากบ้านข้าง ๆ จนเกิดความเสียหายและถูกทิ้งร้างไว้นานหลายปี จึงถูกรีโนเวทให้คืนชีพอีกครั้ง โดยรุ่นหลานที่รวมตัวกับแก๊งเพื่อน ๆ อีก 4 คน ร่วมกันบอกเล่าเรื่องราวความชอบผ่านเสียงเพลง สไตล์การตกแต่ง และของสะสมมากคุณค่าภายในร้าน
บรรยากาศในร้านตกแต่งคุมโทนให้อยู่ในยุค 60-70s โดดเด่นด้วยสีเขียวอันมีเสน่ห์และวัสดุหินอ่อน โดยมีของสะสมวัยเด็กของแต่ละคนมาร่วมประดับตกแต่ง และบอกเล่าที่มาที่ไปลงบนกรอบภาพเล็ก ๆ ที่แปะอยู่บนผนังข้างกัน ราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์วงดนตรี รูปภาพศิลปินคนโปรดแห่งเกาะอังกฤษ และของเล่นที่ได้จากวันเกิดเมื่อครั้งยังเยาว์วัย
อีกหนึ่งสิ่งที่พาเหล่า 5 หุ้นส่วนมารวมตัวกัน คือความหลงใหลในเสียงเพลงจากเกาะอังกฤษ ทำให้ในร้านมีแผ่นเสียง Vinyl จากศิลปินก้องโลกมากมาย อย่าง The Beatles, The Beach Boys, The Smiths และ The Kinks ที่มาช่วยเสริมสร้างบรรยากาศภายในร้านนี้ให้อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งเพลงร็อก โดยทุกคนสามารถเลือกแผ่นเสียงไปเปิดฟังได้ที่เครื่องเล่นบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ที่นี่จึงกลายเป็น Club for Commons พื้นที่ของคนรักเสียงเพลงและแหล่งรวมพลคนที่ชอบอะไรคล้าย ๆ กัน ให้ได้มา Enjoy ร่วมกัน
Homemade by Heartmade
ความโดดเด่นอีกประการที่อยากชวนคุณมาเยือนที่นี่ คือเมนูต่าง ๆ ของทางร้านที่ครีเอทและลงมือปรุงเองทุกจานโดยหนึ่งในหุ้นส่วน ซึ่งจบการศึกษาจาก Le Cordon Bleu ที่ใส่ทุกความสามารถ ความตั้งใจ และวัตถุดิบมากคุณภาพลงในทุก ๆ เมนู เริ่มต้นด้วยเมนูที่เรียกความสดชื่นอย่าง Wild Berry Passion Fruit (90 บาท) เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเสาวรสและไซรัปเลมอนที่ทางร้านหมักด้วยสูตรเฉพาะ ให้ได้รสชาติที่หอมหวานอย่างเป็นธรรมชาติ ดื่มแล้วคลายร้อนได้ดีสุด ๆ
ถัดมาเป็น Americano Yuzu (110 บาท) อีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มเรียกความสดชื่น ที่มีส่วนผสมของอเมริกาโน่และไซรัปส้มยูซุที่ทางร้านหมักเองอีกเช่นกัน แนะนำให้ทานคู่กันกับ Orange Cake (75 บาท) เมนูที่เอาใจสาว ๆ ชอบทานเค้กเป็นพิเศษ แบบไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะเนื้อเค้กนั้นมีส่วนผสมของ Poppy Seed และไซรัปส้มยูซุ ให้เนื้อสัมผัสคล้ายกับมัฟฟิน ท็อปด้านบนมาด้วยส้มฝานบางชิ้นโตที่สามารถทานได้ทั้งเปลือก
ต่อด้วยเมนูโฮมเมดแสนอร่อยกับ Mojo's Dog + Killing Sauce (140 บาท) แซนด์วิชชิ้นใหญ่สอดไส้ไส้กรอกที่ทางร้านทำเองและเบคอนกริลล์กรอบ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของคุณแม่ที่เบสรสชาติด้วยมายองเนสและพริกน้ำส้มรสเผ็ดซี้ด ที่มาช่วยตัดความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
และ Pancake Maple Bacon (125 บาท) เมนู Breakfast หอม ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟด้วยแพนเค้กหนานุ่ม สอดไส้เมเปิ้ลเบคอนที่นำไปกริลล์และราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปออกรสชาติหวานปนเค็ม ก่อนจะเพิ่มความชุ่มฉ่ำด้วย Sunrise Tomato ที่อบปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และใบไทม์ เมื่อทานคู่กัน จะได้ความอร่อยในแบบฉบับของคาวและของหวานไปพร้อม ๆ กัน