Mother Of Charoen krung
Mother ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งน้องใหม่บนถนนเจริญกรุง ที่จะถ่ายทอดความอร่อยผ่านคอร์สเมนูต่าง ๆ ในสูตรลับแบบฉบับของร้าน ซึ่งหากพูดถึง “อาหาร” จุดเริ่มต้นของความอร่อยในจานคงต้องนึกถึงวัตถุดิบที่เชฟเลือกสรรมาใช้ ประกอบกับเทคนิคการปรุงแบบเฉพาะตัวของเชฟแต่ละคนออกมาเป็นเมนูแสนอร่อยให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลอง
เช่นเดียวกับที่ร้านต้องการสื่อสารถึงจุดกำเนิด ผ่านการตีความในแง่มุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคำว่า Mother ในชื่อร้าน ที่หมายถึงแม่ผู้ให้กำเนิด ล้อไปกับคอนเซ็ปต์การดีไซน์ที่อ้างอิงถึง Mother Of Earth ต้นกำเนิดของธาตุทั้ง 4 โดยเป็นตัวแทนของดินที่จะมอบอาหารและแร่ธาตุที่อร่อยและมีประโยชน์ให้กับทุกคนที่แวะเวียนมา
Restaurant & Design
ตัวร้านตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ถนนสายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความคลาสสิก ให้รู้สึกถึงความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งครั้งนี้ได้ทีม Tastespace.co มาออกแบบความสวยงามให้กับทางร้าน โดยภายในร้านถูกวางคอนเซ็ปต์ไว้ให้เป็นตัวแทนของดิน จึงประดับประดาไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน โดดเด่นด้วยผนังพิมพ์ลายไม้จริงสีเอิร์ธโทน หากแวะมาในช่วงมื้อกลางวันเมื่อมองขึ้นไปบนเพดานจะพบกับกระเบื้องมุงที่ทำจากดินเหนียวสลับกับแก้ว ตกแต่งด้วยรากไม้ขนาดใหญ่ ทำให้ยามที่แดดสาดส่องเข้ามาผ่านช่องแสงและรากไม้ จะให้บรรยากาศและลวดลายราวกับนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แสนร่มรื่น
โดยในส่วนครัวที่ชั้น 1 ทางร้านออกแบบเป็น Open Kitchen ซึ่งเลือกตกแต่งด้วยสีดำทำให้ดูโดดเด่นและน่าค้นหา ตัดกับสีเอิร์ธโทนได้เป็นอย่างดี ช่วยทำให้ส่วนนี้น่าสนใจราวกับเป็นเวทีโชว์ฝีมือของทีมเชฟที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยของอาหารสไตล์ Asian Twist ให้คุณได้ลิ้มลอง
The Great Time with Our Menus
สำหรับเมนูอาหารต่าง ๆ ถึงแม้กรรมวิธีการทำในแต่ละจานอาจมีความซับซ้อนและเทคนิคพิเศษมากมายตามลักษณะของอาหารสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่ง แต่เมื่อเสิร์ฟออกมาแล้วเป็นจานที่อร่อยและเข้าใจง่าย ให้คุณได้เอ็นจอยกับทุก ๆ จานในคอร์สได้อย่างมีความสุขตลอดมื้อ โดยสามารถเลือกรับประทานมื้อกลางวัน (A La Carte) ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเวลา 11.00-15.00 น. และมื้อค่ำ (Dinner Course) ได้ทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 08.00-23.00 น. โดยในครั้งนี้ทางร้านนำเสนอเป็น คอร์สมื้ออาหารค่ำ (2,890 บาท ++)
เริ่มต้นกันที่เมนู Mushroom จานรองท้องที่จะเสิร์ฟเห็ด 3 แบบ โดยเริ่มคำแรก เชฟใช้เห็ดพอร์โทเบลโลอินฟิวส์ในน้ำมันเป็ด 2 วันจนเข้าเนื้อ ได้ความหอมและอูมามิ เสิร์ฟมาพร้อมกันกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ คำถัดมาเป็นทาร์ตเห็ดสอดไส้มูสเห็ดแชมปิญองผสมกับแบล็กทรัฟเฟิล ท็อปด้านบนด้วยเห็ดหูหนูยำกับซอสโคชูจัง ท็อปด้านบนอีกครั้งด้วยแบล็กทรัฟเฟิล ปิดที่คำสุดท้ายอย่างชาเห็ดร้อน ๆ ที่มีส่วนผสมของเห็ด 5-6 ชนิด ให้รสชาติบางเบาแต่หอมกลิ่นเห็ดอย่างชัดเจน เสิร์ฟกับเห็ดแห้งชิเมจิ
จานถัดมาเป็น Tapi River Prawn เมนูกุ้งตาปีไซส์ใหญ่แบบ 6 ตัวต่อกิโลกรัมจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำไปกริลล์กับถ่าน จากนั้นนำมันกุ้งผสมกับมันปูผัดออกมาเป็นซอสสูตรพิเศษของร้าน ราดไว้ด้านบนของกุ้ง เสิร์ฟคู่กันกับสับปะรดปัตตาเวีย จากจังหวัดภูเก็ต
หรือจะลองเป็น Duck Umeshu เมนูที่ทางร้านเลือกใช้เป็ดบาบารี่ จากจังหวัดระยอง เป็ดเนื้อนุ่มสายพันธุ์จากประเทศฝรั่งเศสให้เนื้อแดงเยอะ นำไปรมควันแบบ Cold Smoke พรมด้วยบรั่นดีและเหล้าบ๊วย ก่อนจะนำไปดรายเอจเป็นระยะเวลา 5-7 วันจนเข้าเนื้อ จากนั้นนำไปเซียร์บนกระทะเพื่อให้หนังกรอบ เสิร์ฟพร้อมกันกับรากบัวทอด หอมแดงดองเรดไวน์เวเนก้า โรยด้วยไข่ผำและสาหร่ายแห้ง สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์จานนี้ที่เชฟตั้งใจครีเอตให้เหมือนกันกับภาพธรรมชาติของสระบัวที่มีเป็ดว่ายอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยดอกบัวและสาหร่าย
ต่อกันที่ แกงคั่วปู เมนูไฮไลต์ที่ใช้น้ำมันมะพร้าวเอาไป Cold Smoke กับกรรเชียงปู เสิร์ฟกับซอสใบชะพลูที่เชฟทำส่วนผสมของแกงคั่วเอง ก่อนจะเพิ่มลูกเล่นความโดดเด่นให้แกงคั่วจานนี้ด้วยการดึงกระชายไปทำเป็นแคนดี้ เสิร์ฟแบบซ่อนไว้ในเนื้อปู ทำให้เวลาตักทานจะได้กลิ่นของกระชายอย่างชัดเจน เสิร์ฟมาพร้อมกันกับข้าวมันปูจากจังหวัดชัยภูมิ ผัดกับคานิมิโซะในน้ำมันกระเทียมจนแห้ง ก่อนจะผสมเนื้อปูและไข่ปูม้าลงในข้าว
ปิดท้ายด้วย ไอศกรีมข้าวคั่ว ที่เชฟคั่วข้าวจนเข้มให้กลิ่นชัดเจน แช่ลงในเบสไอศกรีมก่อนจะมาริเนดเอาไว้นาน 2 วัน จากนั้นจะนำมาขึ้นเป็นไอศกรีมเนื้อเนียนหอมกลิ่นข้าวคั่ว เสิร์ฟคู่กันกับอิตาเลียนเมอแรงก์ผสมน้ำข้าวหมาก โรยด้วยข้าวพองกรุบกรอบ ท็อปด้วยข้าวคั่วเบลนด์เบคอนกรอบ ให้กลิ่น Smokey ชัดเจนและรสชาติเค็มตัดกันกับแครกเกอร์มิกซ์เบอร์รี ให้รสเปรี้ยวอ่อน ๆ ช่วยบาลานซ์ความหวานหอมของจานสุดท้ายนี้ได้เป็นอย่างดี