Published on April 21, 2022

Move Like Ms.Jigger

ภายในโรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok ย่านหลังสวน ยังเป็นที่ตั้งของ Ms.Jigger ร้านอาหารอิตาเลียนและบาร์สุดเท่ภายใต้คอนเซ็ปต์เล่าเรื่องการเดินทางของตัวละคร Ms.Jigger หญิงสาวสุดเก๋ผู้รักการเดินทาง, การทานอาหารอิตาเลียนดี ๆ และแน่นอนว่ายังชื่นชอบการดื่มดริงก์สนุก ๆ ด้วย ซึ่งที่นี่ได้นำเสนอเรื่องราวการเดินทางไปทั่วอิตาลีของ Ms.Jigger ผ่านหลากหลายกิมมิกที่แฝงอยู่ในเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้ทุกคนที่ได้มาลองสัมผัสประสบการณ์แบบ Ms.Jigger กัน
 

ตัวร้านซ่อนอยู่ด้านหลังม่านสีครีมที่ชั้น L, Kimpton Maa-Lai Bangkok

Modern Comfort

ตัวร้านซ่อนอยู่ด้านหลังม่านสีครีมที่จะเปิดให้เข้าไปเฉพาะช่วงที่ร้านพร้อมให้บริการ ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและสบาย ๆ เน้นใช้สีโทนเรียบง่ายอย่างสีครีม เทาอ่อน และดำ เข้ากับพื้นและผนังไม้สีอ่อน เสริมให้ภายในร้านดูสว่างและอบอุ่นยิ่งขึ้น ด้านข้างร้านยังเป็นหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในช่วงกลางวัน

ทางร้านจัดสรรพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน มีมุมที่นั่งให้เลือกหลากหลาย รวมถึงมีมุมที่เป็นโซนส่วนตัวสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่นอกจากนี้เมื่อเดินผ่านโซนไดน์นิ่งไป จะเป็นโซนบาร์สุดเท่ที่ให้บรรยากาศในสไตล์วินเทจคล้ายกับการย้อนกลับไปในยุคสมัยก่อน ตามมุมต่าง ๆ ของทางร้านได้เติมกิมมิกผ่านหลากหลายไอเท็มที่บ่งบอกบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของ Ms.Jigger ได้เป็นอย่างดี

 

ภายในเน้นใช้สีโทนเรียบง่ายอย่างสีครีม เทาอ่อน และดำ เข้ากับพื้นและผนังไม้สีอ่อน

 

มุมที่เป็นโซนส่วนตัวสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่

Narrative Cocktail Chapter 2 : The Tales of Thailand

มาเริ่มต้นกันที่มุมบาร์เครื่องดื่มของที่นี่ด้วยดริงก์แก้วพิเศษ โดยครั้งนี้มาในธีม "The Tales of Thailand" ที่หยิบยกเอาเสน่ห์ของแต่ละจังหวัดในประเทศไทย ครีเอตออกมาเป็นค็อกเทลที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป อย่างแก้วของ Sukhothai (440 บาท) นี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากอุทยานประวัติศาสตร์อันอบอวลไปด้วยเสน่ห์และมนต์ขลัง รังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องดื่มจากเหล้าในไหดินเผา ผสานเข้ากับส่วนผสมของ Mancino Vermouth Rosso Amaranto และ Umeshu แต่งแก้วด้วยใบเตยหอม ๆ และเคเปอร์

 

Sukhothai (440 บาท)

ต่อด้วยแก้วของ Siam Milk Punch (440 บาท) อีกหนึ่งแก้วขายดีที่ให้ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายของขนมไทยโบราณอย่าง ลอดช่องน้ำกะทิ จากรสสัมผัสของน้ำตาลมะพร้าว ให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับความหวานเย็นชื่นใจจากส่วนผสมของ Bulleit Bourbon, Campari, Thai Milk Tea, Amaretto เพิ่มรสสดชื่นด้วยเลมอน ท็อปด้วยขนมไทยขึ้นชื่ออย่าง ฝอยทองให้ทานเคียงไปด้วยกัน

ปิดท้ายด้วยสีสันสดใสของ Koh Samui (440 บาท) ความหอมหวานที่มาจากน้ำมะพร้าวสด ๆ ให้รสชาติและสัมผัสพิเศษไม่เหมือนที่ไหน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสมุยนั่นเอง แก้วนี้มีส่วนผสมของ Ketel One Vodka, Ha Young coco flower, Coconut Syrup จาก Silpin Samui และ Chalong Bay White Rum เพิ่มความสดชื่นและสีสวย ๆ ด้วยน้ำฝรั่งและโฟมอัญชัน

 

Siam Milk Punch (440 บาท)

 

Koh Samui (440 บาท)

The Taste of Ms.Jigger's Journey Throughout Italy

แน่นอนว่าอาหารของที่นี่สามารถถ่ายทอดความรักในอาหารอิตาเลียนของ Ms.Jigger ได้อย่างชัดเจน โดยได้เชฟหนุ่มชาวอิตาลี Danilo Aiass, Head Chef ของร้านมาดูแลเมนูทั้งหมด ทางเชฟเน้นการเลือกใช้วัตถุดิบโลคอลสดใหม่ผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหารแบบดั้งเดิม และยังนำเสนออาหารอิตาเลียนจากโซนตะวันตกตอนเหนือของประเทศอิตาลีที่เชฟเติบโต สร้างสรรค์ออกมาเป็นหลากหลายเมนูอาหารอิตาเลียนที่คงความดั้งเดิมเอาไว้ 


เมนูอาหารของที่นี่จะเน้นเป็นจาน Sharing หรือสามารถแบ่งกันทานได้ เพื่อให้ความรู้สึกสบาย ๆ ไม่อึดอัด เริ่มต้นกันที่เมนูเบา ๆ ทานเล่นกันเพลิน ๆ อย่าง Aperitivo Combo (590 บาท) ที่เสิร์ฟ Tuscany Ham เคียงมากับ Homemade Smoked Olives และ Parmigiano Reggiano ให้ทานคู่กัน

 

Aperitivo Combo (590 บาท)

ต่อด้วย Ravioli Repieni di Spinaci e Ricotta Con Salsa al Pomodoro Picante, Pesto e Pinoli (420 บาท) ราวิโอลีโฮมเมดสอดไส้ด้วยผักโขมและชีสริคอตต้า ราดด้วยซอสมะเขือเทศรสเผ็ดและซอสเพสโต

 

Ravioli ripieni di spinaci e ricotta con salsa al pomodoro picante, pesto e pinoli (420 บาท)

เมนูที่แนะนำให้ลอง ต้องยกให้พิซซ่าสูตรดั้งเดิมของทางร้านกับ 24-month aged parma ham (470 บาท) พิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ที่มาพร้อมส่วนประกอบสุดคลาสสิกอย่าง ซอสมะเขือเทศสูตรเฉพาะของที่ร้าน, Torn Mozzarella, มะเขือเทศเชอร์รี, ร็อคเก็ตและพาร์เมซานชีส ส่วนไฮไลต์อยู่ที่ 24-month Parma Ham พาร์ม่าแฮมที่หมักมาถึง 24 เดือน จนได้เนื้อแฮมที่นุ่มและเค็มกำลังดี เพิ่มความพิเศษให้เมนูนี้อีกเท่าตัว

 

24-month aged parma ham (470 บาท)

ปิดท้ายที่เมนูพิเศษประจำวันที่ทางร้านภูมิใจนำเสนออย่าง Lobster Linguine (1500 บาท) เสิร์ฟมาในรูปแบบหม้อใบโตที่ด้านในบรรจุเส้น Linguine คลุกเคล้ากับซอสรสชาติเข้มข้นกำลังดี ก่อนจะวางล็อบสเตอร์ด้านบน ปิดปากหม้อด้วยแป้งแผ่นใหญ่และนำไปอบให้รสชาติทุกอย่างเข้ากัน ออกมาเป็นรสชาติที่สมบูรณ์แบบ สำหรับวิธีการทาน ก็สามารถตัดแป้งด้านบนแล้วดิปกับซอสในหม้อได้เลย

 

Lobster Linguine (1500 บาท)

หลังจากทานอาหารกันครบทุกเมนูแล้ว ก็ถึงเวลาของหวานปิดท้ายมื้อนี้กับ ทางร้านแนะนำเมนู Ms.Jigger Tiramisu (320 บาท) ทิรามิสุสูตรพิเศษของทางร้าน ซ้อนเลเยอร์ระหว่างขนมเลดี้ฟิงเกอร์ที่ถูกแช่ในกาแฟรสเข้มข้น สลับกับชีสมาสคาโปเน และไอริชครีม เพิ่มด้วยสเปรดโกโก้เฮเซลนัท และโรยหน้าด้วยช็อกโกแลตขูด เป็นเมนูขนมหวานที่ได้ทั้งรสเข้มข้นจากกาแฟและโกโก้ พร้อมความครีมมีจากชีสมาสคาโปเน

 

Ms.Jigger Tiramisu (320 บาท)

Video Story
Info
Hours
Open : 11:30AM - 11PM
Sun : 11:30AM - 11PM
Mon : 11:30AM - 2:30PM
5:30PM - 11PM
Tue : 11:30AM - 2:30PM
5:30PM - 11PM
Wed : 11:30AM - 2:30PM
5:30PM - 11PM
Thu : 11:30AM - 2:30PM
5:30PM - 11PM
Fri : 11:30AM - 2:30PM
5:30PM - 11PM
Sat : 11:30AM - 11PM
Price

฿฿฿฿ 501-1,000 บาทต่อคน

Address
L Floor, Kimpton Maa-Lai Bangkok, 78 ซอยต้นสน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
Map
Mass Transit

BTS ชิดลม

Facilities
Suggest an Edit