The New Coffee Lover Spot in Ari
Nana Coffee Roasters Ari อีกหนึ่งสาขาใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Nana Coffee Roasters ที่ครั้งนี้มาเปลี่ยนบ้านหลังใหญ่ในอารีย์ซอย 4 ให้กลายเป็นพื้นรวมตัวแห่งใหม่ของคอกาแฟโดยฝีมือของ คุณกุ้ง-กานดา โทจำปา และ คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุพงษ์ สองนักคั่วกาแฟฝีมือดีและแชมป์บาริสต้าจากหลายเวทีที่เป็นผู้ริเริ่มแบรนด์ ก่อนจะจับมือกับ คุณฝ้าย-นันท์นภัส มัลลิกะมาลย์ ที่ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์และสร้างสรรค์สาขาที่สามแห่งย่านอารีย์นี้ ขึ้นมา
The Coffee House in Garden
สาขาอารีย์เนรมิตบ้านหลังใหญ่ให้กลายเป็นร้านกาแฟแสนร่มรื่น ที่โอบล้อมบ้านสองชั้นหลังใหญ่ด้วยความสบายตาจากสีเขียวของสวนสไตล์เซน โดดเด่นและคุมโทนด้วยสีสวยของอิฐมอญแดงสลับกับอิฐคริสตัลใส ที่ส่องประกายระยิบระยับและพาแดดอุ่น ๆ ลอดผ่านเข้าไปยังในตัวบ้าน ซึ่งออกแบบอย่างเรียบง่ายด้วยการเลือกจัดวางโต๊ะและโซฟาตามมุมต่าง ๆ ให้บรรยากาศเหมือนห้องรับแขก
Choose Your Favourite Coffee Cup in The Morning
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านแน่นอนว่าเมื่อเอ่ยถึง Nana Coffee Roasters คงต้องนึกถึงหลากหลายเมนู Specialty Coffee ระดับคุณภาพเป็นอันดับแรก และสำหรับที่สาขาอารีย์นี้ก็มีเมล็ดกาแฟ Single Origin ให้เลือกมากถึง 30 ชนิด ตั้งแต่เมล็ดกาแฟไทยไปจนถึงเมล็ดจากต่างประเทศ โดยแต่ละตัวนั้นมีความพิเศษและมี Taste Note ที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะสดชื่นสุด ๆ ในโทนฟรุ้ตตี้หรือละมุนแบบนัตตี้ก็ดีไม่แพ้กัน
สำหรับใครที่เป็นคอกาแฟ ทางร้านแนะนำให้ลองแวะมาที่ Slowbar กับเมนู Moonstone Siphon (250 บาท) กาแฟไซฟอนจาก Moonstone ให้กลิ่นและรสชาติที่สดชื่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใครกับ Taste Note ที่หอมลิ้นจี่และกุหลาบ
หรือจะลองเป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะสาขานี้อย่าง Ari Soi 4 (180 บาท) น้ำมะพร้าวหวาน ๆ หอมละมุน ราดด้านบนด้วยเอสเพรสโซช็อตเข้มข้นจากเมล็ดกาแฟคอสตาริก้าเบลนด์ 4 สายพันธุ์เป็นเลเยอร์สวย ก่อนจะท็อปด้วยโฟมมะพร้าวนุ่ม ๆ และเนื้อมะพร้าวให้ได้เคี้ยวตามกันแบบเพลิน ๆ
นอกจากอุปกรณ์การทำกาแฟแบบครบครันแล้ว ความพิเศษของที่นี่ยังมอบให้สำหรับเหล่า Tea Lover กันด้วยกับเครื่องชงชา Steampunk เครื่องเดียวในประเทศไทย และขอแนะนำเมนู Signature Kanda (250 บาท) เมนูดื่มง่ายที่ทางร้านเลือกใช้ชาผลไม้สกัดเย็นจากดอกกุหลาบ ส้ม และตะไคร้ ให้สัมผัสความหอมละมุน และเติมความเข้มข้นให้แก้วนี้ด้วยเอสเพรสโซช็อตที่เข้ากันอย่างลงตัว เป็นหนึ่งในเมนูสุดเฟรชที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ต่อกันที่ Panna Cotta Creme Brulee (190 บาท) เมนูที่ผสานความเป็นกาแฟ Dirty และขนมหวานเอาไว้ด้วยกัน ซึ่งทางร้านนำเสนอพานาคอตต้าเนื้อเนียนนุ่ม ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยช็อตเอสเพรสโซสกัดจากเมล็ดกาแฟคอสตาริก้ารสเข้ม และเครมบูเลหวาน ๆ ด้านบน แนะนำตักทานพร้อมกันให้ครบทุกเลเยอร์ จะได้ความนุ่มละมุนผสมผสานกับความเข้มข้นของกาแฟที่เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว
หรือจะลองเป็นเมนู Nitro Coffee (250 บาท) กาแฟไนโตรจากเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษ ที่เบลนด์กันระหว่างเมล็ดกาแฟจากบราซิล ไทยและอินโดนีเซีย ที่ให้ Taste Note โทนนัตตี้นุ่ม ๆ ของดาร์กช็อกโกแลตและช็อกโกแลตนม ก่อนจะปิดท้ายกันด้วยขนมหวานทานคู่กันอย่าง Banana Darkness (210 บาท) เค้กช็อกโกแลตรสเข้มที่ให้สัมผัสหนุบหนับ เสิร์ฟมาพร้อมกับกล้วยคาราเมลให้ความหอมหวานลงตัว