Experience the Edomae Sushi
ชวนมาต้อนรับฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นด้วยหลากหลายวัตถุดิบเกรดพรีเมียมที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมส่งตรงให้คุณได้ลิ้มลองความสดใหม่ได้ในทุก ๆ วัน ที่ Nowaki BKK ร้านโอมากาเสะที่นำเสนอความอร่อยในแบบฉบับของ Edomae Sushi Experience โดยที่ Nowaki BKK แห่งนี้ เริ่มต้นด้วยความรักในอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม อีกทั้งให้ความสำคัญกับรสธรรมชาติและความละเอียดประณีต ผ่านการเตรียมส่วนผสมแต่ละอย่างเพื่อมอบประสบการณ์ของเอโดมาเอะซูชิอย่างเต็มรูปแบบ
Japanese Vibes
ด้านบรรยากาศของร้านถูกออกแบบในแบบเรียบง่ายสบายตาด้วยโทนสีครีมของไม้เนื้ออ่อน โดยทุกคนจะสามารถรับชมการเตรียมอาหารจากเชฟกันได้แบบเพลิน ๆ แต่นอกจากความพิเศษในเรื่องของวัตถุดิบและบรรยากาศแล้ว Nowaki ยังมีเชฟไมค์ เชฟผู้มากด้วยประสบการณ์ด้านอาหารญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 14 ปี มาคอยรังสรรค์ความอร่อยซูชิคำพิเศษให้คุณได้รับประทานแบบสดใหม่ทุกคำในราคา 8,000++ บาท (17 คอร์ส)
Natural Taste
เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้ว ทางร้านได้เริ่มต้นเสิร์ฟเครื่องดื่มสดชื่น ๆ กันก่อนด้วย Sparkling Honey Yuzu ดริงก์ที่หยิบยกเอารสชาติและกลิ่นหอมสุดพิเศษของส้มยูซุมาผสานเข้ากับน้ำผึ้งและความซาบซ่าของ Sparkling ได้อย่างลงตัว
จากนั้นเชฟไม่รอช้า ลงมือเสิร์ฟคำแรกมาในหมวดของซาชิมิ เริ่มด้วย Ankimo ตับปลาอังโกะจากจังหวัดฮอกไกโด เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสพอนสึจากน้ำส้มยูซุ เข้ากันเป็นอย่างดีกับรสชาติและสัมผัสสุดครีมมี่ของของตับปลาที่เลอค่าจนได้ฉายาฟัวกราส์แห่งท้องทะเล
ต่อมาเป็น Sawara ปลาตระกูลปลาอินทรีจากจังหวัดคิวชู ที่เชฟนำมาย่างเฉพาะส่วนของหนังให้ได้กลิ่นหอม ๆ เนื้อสัมผัสนุ่ม รสชาติหวานจากความสดใหม่ ไขมันน้อย มาพร้อมความสดชื่นของซอสพอนสึ ท็อปด้วยดอกขิงและต้นหอมญี่ปุ่น
ส่วนใครเป็นแฟนปลาทูน่าต้องรัก Smoke Chutoro ปลาในตระกูล Blue Fin Tuna ในส่วนที่มีไขมันระดับกลางจากปลาไซส์ประมาณ 80 กิโลกรัม ไฮไลต์อยู่ที่ก่อนเสิร์ฟเชฟจะทำการรมควันจากเปลือกไม้เชอร์รี เพื่อให้กลิ่นหอม ๆ ซึมเข้าไปในเนื้อปลาทั้งคำ
เมนูต่อมาเป็นซุปในชามของ Sharkfin Chawanmushi หูฉลามที่ผ่านการ Slow Cook ด้วยการ Sous Vide จนเปื่อยนุ่ม เสิร์ฟมาบนไข่ตุ๋นเนื้อเนียนสัมผัสนุ่มเด้งจากไข่ไก่สายพันธุ์ดีของประเทศญี่ปุ่น
แล้วเริ่มคำแรกในหมวดหมู่ซูชิกันต่อที่ Hotate หอยเชลล์จากฮอกไกโดที่ทางร้านให้ความสำคัญในเรื่องความสดใหม่เป็นอันดับ 1 เสิร์ฟมาบนข้าวซูชิที่ผ่านการทดลองมาเป็นเวลานานจนได้รสชาติที่กลมกล่อมและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ คำต่อมาคือ Abura Kinmedai เป็นการเสิร์ฟปลาคินเมได หรือปลากะพงแดงจากเมืองชิบะที่ผ่านการอาบุริเพียงส่วนของหนัง ทำให้ได้เท็กซ์เจอร์ดี ๆ ไปพร้อมกลิ่นหอม ๆ ตามมาด้วย Shima Ebi คำนี้เสิร์ฟกุ้งหวานจากเมืองฮอกไกโด ถือเป็นวัตถุดิบที่โดดเด่นของฤดูกาลนี้ ส่วนของข้าวถูกผสมเข้ากับมันกุ้งย่างเพื่อให้ข้าวมีกลิ่นหอม เหมือนได้รับประทานกุ้งทั้งตัวในคำเดียว และ Shima Aji ปลาอาจิที่เป็นปลาในตระกูลของปลาทูจากเมืองคาโกชิมา มาพร้อมเนื้อแน่น ๆ เพราะเป็นปลาที่ถูกจับตามแหล่งน้ำธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมี Saba ปลาซาบะสดส่งตรงจากทะเลญี่ปุ่นซึ่งหารับประทานได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่ปลาจะมีไขมันมากกว่าปกติ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน คำนี้ถูกห่อด้วยสาหร่ายสุดพรีเมียม ให้รสชาติที่เข้ากันเป็นอย่างดี
ส่วนอีกไฮไลต์ของฤดูกาลต้องยกให้ Awabi หอยเป๋าฮื้อที่ส่งตรงมาแบบเป็น ๆ จากเมืองชิบะ รับรองเรื่องความสดใหม่ เสิร์ฟมาในรูปแบบด้ง ราดด้วยซอสที่ทำจากส่วนตับของเป๋าฮื้อให้ความครีมมี่เข้มข้น ส่วนเนื้อของหอยผ่านการ Slow Cook ในอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสมาเป็นเวลาถึง 8 ชั่วโมง จึงได้สัมผัสนุ่มละมุน ฉ่ำไปด้วยซอส จากนั้นเชื่อมคำต่อไปด้วย Uni Bafun อูนิสายพันธุ์ Bafun ที่ทางร้านคัดเลือกมาให้เป็นเกรดที่ดีที่สุด ถูกห่อด้วยสาหร่ายคุณภาพดี
ตามมาด้วย Akami Zuke เนื้อปลาทูน่าในส่วนที่มีไขมันน้อยสุดที่เชฟนำมาหมักกับโชยุเป็นเวลา 5 นาที ให้รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อปลา ต่อด้วย Otoro ส่วนท้องของปลาทูน่า โดยชิ้นนี้ผ่านขั้นตอนการ Aburi เล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสสัมผัสให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และปิดท้ายหมวดของซูชิกันที่ Unagi หรือปลาไหลจากเมืองเกียวโต ซึ่งในฤดูกาลนี้เนื้อปลาจะมีไขมันมากที่สุด ทำให้ได้ความนุ่มนวล เหมาะกับการรับประทานปิดเป็นซูชิคำสุดท้ายนั่นเอง
เมื่อใกล้จบคอร์ส เชฟไมค์ได้เสิร์ฟ Nengi Toro Roll ให้ได้รับประทานต่อกันอีกเต็ม ๆ คำ โดยด้านในประกอบไปด้วยส่วนของ Akami, Chutoro และ Otoro ให้รับประทานไปพร้อมกัน แล้วเพิ่มรสชาติด้วยข้าวปรุงรส หัวไชเท้าดอง และสัมผัสของไข่ปลาแซลมอนที่เข้ากันเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ในส่วนของซุปก็น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่าง Hamaguri Miso Soup ที่พิเศษด้วยรสชาติของมิโสะสด มาพร้อม Hamaguri หอยตลับญี่ปุ่นตัวโต ให้รสชาติกลมกล่อม นุ่มนวลและรสชาติไม่เค็มจนเกินไป ตักซดกันได้ร้อน ๆ เติมความชื่นใจหลังปิดเมนูข้าว
ส่งท้ายมื้อพิเศษนี้ด้วย Dessert โดยเชฟได้เสิร์ฟขนมไข่หวาน หรือ Tamago Katsu ที่ใช้มันญี่ปุ่นแทนส่วนของแป้ง มาพร้อมสัมผัสนุ่มนวลจากวิธีการอบด้วยอุณหภูมิต่ำ ๆ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เสิร์ฟเคียงมากับเมลอนหวาน ๆ จากเมืองนากาโนะ และ Mango Yuzu Sherbet ที่ให้รสเปรี้ยวอมหวานเย็นสดชื่น เป็นการปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างน่าประทับใจ
