Enjoy Sophisticated Vibes X The Life Artois' at Nowhere
The Life Artois ชวนคุณมาเปลี่ยนบรรยากาศ แฮงเอาต์บนรูฟท็อปสุดเก๋ กับหนึ่งในลิสต์ร้านจากซีรีส์คอนเทนต์ Enjoy Sophisticated Vibes X The Life Artois ที่เราคัดสรรร้านดูดีมีสไตล์มาให้คุณเอ็นจอยกับบรรยากาศ และเครื่องดื่มที่ดีต่อใจอีกเช่นเคย และครั้งนี้เราขอพาไปทำความรู้จักกับร้านดังในตำนานอย่าง ‘Nowhere’ ร้านแฮงเอาต์ยามเย็นย่านเอกมัย ที่เหมาะกับการพาคนรู้ใจมาดินเนอร์ และสังสรรค์กับบรรดาเพื่อน ๆ หลังเลิกงานเป็นที่สุด
Now you are at 'Now-here'
จากพื้นที่โล่งธรรมดาบนดาดฟ้าอาคาร THA City Loft Hotel สู่รูฟท็อปบาร์ลับสไตล์โมเดิร์นในบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง ไม่ว่าจะเเต่งตัวสไตล์ไหน ก็สามารถมานั่งเล่นได้ทุกวัน สมกับชื่อ ‘Nowhere’ ที่ดึงความหมายและการเล่นคำระหว่าง No Where – Now Here ที่ดูเก๋และมีความหมายดีไม่น้อย
การออกแบบดีไซน์ร้านชวนให้คิดถึงงานศิลปะแนวเซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) เพราะโดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่ก้าวแรกด้วยมุมบันไดที่พาดไปมาอยู่กลางร้าน ซึ่งได้ทีมดีไซเนอร์จาก stu/D/O architects มาช่วยถ่ายทอดไอเดียและคอนเซ็ปต์การออกแบบ โดยตีความจากภาพ Relativity of M.C.Escher ซึ่งเป็นรูปบันไดต่อเนื่องกันที่โด่งดังไปทั่วโลกมาเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อสร้าง Social Space หรือพื้นที่แห่งความสุขที่ทุกคนสามารถเดินทางเข้ามาใช้เวลาร่วมกันได้ทุกช่วงเวลาโดยใช้บันไดพาดไปมาทั่วร้านประกอบเป็นเคาน์เตอร์บาร์ โต๊ะ ชั้นวาง แล้ววนกลับขึ้นไปด้านบนเพื่อสร้างความรู้สึกที่ไม่มีสิ้นสุดแบบ Infinity นั่นเอง
นอกจากนี้ช่วงพระอาทิตย์ตกยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะได้ดื่มด่ำกับแสงสุดท้ายในมุมสูงของย่านเอกมัย ก่อนจะไปสนุกสุดเหวี่ยงกับบรรยากาศในร้าน ที่เปลี่ยนมู้ดในยามค่ำคืนให้สนุกขึ้นด้วยดนตรีสดและดีเจที่สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นมอบความบันเทิง
Eurasian Homemade Style
อาหารของที่นี่เน้นเสิร์ฟความพิเศษของเมนูสไตล์ Eurasian Homemade ซึ่งผสมผสานความหลากหลายทั้งอาหารตะวันตกและตะวันออก โดยเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากทั่วโลก เพื่อสร้างรสชาติที่แปลกใหม่ เสริมประสบการณ์แฮงเอาต์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร
เปิดต่อมรับรสชาติ เรียกน้ำย่อยกันด้วยเมนู Calamari Fritter (280) เมนูสุดคลาสสิกแต่รสชาติไม่ธรรมดา เพราะเลือกใช้ปลาหมึกสดที่คัดทั้งไซส์และสายพันธุ์ มาทอดและปรุงรสในแบบฉบับของ Nowhere เพื่อให้สัมผัสที่กรอบ หนึบ และอร่อยในเวลาเดียวกัน เสิร์ฟพร้อมดิปปิ้ง 4 สี 4 รสชาติ แค่บีบเลมอนลงไปนิดหน่อย ก็รับรองว่าอร่อยฟินโดยเฉพาะเมื่อได้ดื่มคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้ว
Deep Fried Chicken Wings (180 บาท) อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้านต้องยกให้ปีกไก่ทอดรสจัดจ้าน ที่มีให้เลือกกันถึงสองรสชาติคือ BBQ และซอสพริกศรีราชา โดยทางร้านใช้เทคนิคการเคลือบซอสและทอดให้ยังคงความชุ่มฉ่ำของซอสเอาไว้ กัดตรงไหนก็อร่อยนุ่มทุกคำ
Shrimp and Chorizo Pasta (360 บาท) Main Course สำหรับดินเนอร์นี้ขอชวนมาอิ่มอร่อยกับพาสต้าเส้นสปาเก็ตตี้ ที่ผัดเข้ากับเครื่องเทศจนได้รสกลมกล่อม เติมความอร่อยฟินด้วยกุ้งสดคำโตและไส้กรอกโชริโซ ไส้กรอกหมูแบบสเปนที่ผ่านกรรมวิธีการถนอมอาหารแบบโรมันโบราณ ก่อนจะท็อปด้านบนด้วยความหอมของพาร์เมซานชีสเพื่อความอร่อย
Grilled Salmon With Red Pepper Bisque Sauce (640 บาท) แซลมอนชิ้นใหญ่ที่กริลล์มาได้ระดับความนุ่มของเนื้อที่พอดี ราดด้วยซอส Red Pepper Bisque ที่ผสมมันกุ้งเข้าไปทำให้ได้รสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมยิ่งขึ้นเมื่อทานกับเนื้อปลาและมันบด เป็นอีกหนึ่งจานอร่อยที่ต้องลอง