A Small Wine Room for all Creative Minds
หากพูดถึง ‘ไวน์บาร์’ ภาพจำของใครหลาย ๆ คน อาจจะนึกถึง Element ความเนี๊ยบและความหรูหรา แต่เชื่อไหมว่ายังมีไวน์บาร์ที่มาพร้อมบรรยากาศอบอุ่นเรียบง่าย ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนอย่าง ‘oben’ ไวน์บาร์มู้ดดีในย่านสะพานควาย ที่โดดเด่นด้วยการดีไซน์ร้านขนาดกะทัดรัดจากวัสดุไม้ พร้อมเสิร์ฟไวน์แบบ Low-Intervention หรือเทคนิคการหมักไวน์แบบธรรมชาติที่คัดสรรมาจากหลากหลายที่ พร้อมให้ทุกคนได้ลองมาใช้ช่วงเวลาดี ๆ ดื่มด่ำไวน์แบบเข้าถึงง่ายมากขึ้น
Warm and Cozy Wine Room
ด้วยโลเคชันที่ตั้งอยู่บนชั้นสองของร้าน BONCI คาเฟ่ที่ฮอตฮิตที่สุดในย่านสะพานควาย อันเต็มไปด้วยกลิ่นอาย Scandinavian ผสมผสานความเก๋จากยุค Mid-Century ได้อย่างชวนดึงดูดใจ ทำให้การออกแบบ oben จึงดีไซน์ด้วยวัสดุไม้สีเข้มที่กลมกลืนรับกับบรรยากาศของร้าน BONCI ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสอดคล้องไปกับชื่อ “oben” ในภาษาเยอรมัน ที่เมื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษจะมีความหมายว่า Above the Surface ซึ่งสอดคล้องกับโลเคชันของไวน์บาร์แห่งนี้นั่นเอง
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาจะพบกับ Vibes ดี ๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุด Cozy มีกลิ่นหอมจาง ๆ จากเทียนหอมพร้อมกับแสงไฟสลัว ๆ ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศในยามค่ำคืนให้น่าจดจำมากยิ่งขึ้น บวกกับพื้นที่เล็ก ๆ ที่เปรียบเสมือนห้องนั่งเล่นที่บ้าน ทำให้อบอวลไปด้วยมวลความอบอุ่นที่คุณต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน
Low-Intervention Wine and Good Food Pairings
สำหรับความโดดเด่นของไวน์จากทางร้าน อยู่ที่การคัดสรรเฉพาะไวน์แบบ Low-Intervention จากหลากหลายประเทศ ซึ่งเป็นไวน์หมักแบบธรรมชาติ นอกจากจะดีต่อสุขภาพ ยังมาพร้อมรสชาติที่อร่อยลงตัว โดยทางร้านจะหมุนเวียนรสชาติใหม่ ๆ มาเสิร์ฟ เพื่อให้เกิดประสบการณ์การดื่มที่แตกต่างกันไปในแต่ละสัปดาห์ และให้ทุกโมเมนต์ของผู้คนที่แวะเวียนมารู้สึกถึงความพิเศษมากยิ่งขึ้น
แก้วแรกขอแนะนำไวน์ขาวอย่าง D.B Schmitt Riesling ไวน์หมักธรรมชาติจากเยอรมนี ที่มาพร้อมกลิ่นหอมแอปเปิ้ล ผสมผสานกับกลิ่นผลไม้ซิตรัสตามแบบฉบับของ Riesling ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ส่วนใครที่ชอบดื่มไวน์แดง แนะนำ Cantina Indigeno Rosso จากอิตาลี ที่ทำจากองุ่นแดงปลูกตามธรรมชาติ ให้กลิ่นหอมโทนเชอร์รี สตรอเบอร์รี และบลูเบอร์รี เป็นอีกหนึ่งตัวที่แนะนำว่าต้องลอง
มาถึงเมนูอาหารของทางร้านจะเน้นเสิร์ฟเป็นเมนูง่าย ๆ เหมาะสำหรับ Pairing คู่กับไวน์ได้อย่างเข้ากัน นอกจากนี้ทางร้านยังใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบจากเกษตรกรชาวไทยมาครีเอตสู่หลากหลายเมนูให้ทุกคนได้ลิ้มลอง เริ่มกันที่ oben Popcorn (150 บาท) ป๊อปคอร์น 2 รสชาติ อย่าง Salty Cheese เค็มกลมกล่อม และ Choco Caramel เข้มข้น หอมหวาน ทานได้แบบเพลิน ๆ
ตามด้วย House Nacho (150 บาท) แผ่นแป้งข้าวโพดกรอบรสชาติกลมกล่อมพอดี ที่ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทย เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับซัลซามะเขือเทศรสเปรี้ยวอมหวาน เมื่อทานพร้อมกันได้ความอร่อยที่แสนลงตัว จับคู่กับเครื่องดื่มก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูที่แนะนำว่าต้องลอง คือ Kiddo Sandwich (200 บาท) ขนมปังซาวโดว์เนื้อเหนียวนุ่ม ท็อปด้วยชีส Grana Padano จากอิตาลี ที่มีรสชาติเข้มข้น เค็มมันกำลังดี ควบคู่ไปกับสโมกแฮม แล้วราดด้วยซอสรสจัดจ้านสูตรเฉพาะของทางร้าน เป็นการผสมผสานความอร่อยได้อย่างเข้ากัน
ส่วนใครมองหาเมนูเบา ๆ แนะนำ Summer Salad (185 บาท) สลัดผักออร์แกนิกจากจังหวัดเชียงใหม่ จัดเต็มมาด้วย ผักกาดคอส มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น เลมอน และต้นอ่อนทานตะวัน ทานคู่กับไข่ต้ม ราดด้วยน้ำสลัดงาดำหอม ๆ ออกมาเป็นรสชาติกลมกล่อมแบบลงตัว
มาถึงเมนูไฮไลต์อย่าง Spicy Mhee-Gai-Cheek (250 บาท) เส้นหมี่ผัดคลุกเคล้าเข้ากับซอสรสเข้มข้น จัดจ้าน เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับไก่ฉีกและแคบหมูกรุบกรอบ พร้อมท็อปด้วยพริกเผาปิดท้าย ไม่ว่าใครทานก็ต้องถูกใจ
ปิดท้ายด้วย oben Platter (600 บาท) ที่เหมาะกับการจิบไวน์เป็นที่สุด ประกอบไปด้วย Serrano Ham, Mortadella, Chorizo Fort, Brie Cheese, Grana Padano, Dried Berry, Mixed Nuts, Crackers ทานคู่กับแตงกวาดองและพริกดองที่ทางร้านทำเองแบบโฮมเมด รวมถึงน้ําผึ้งป่าจากจังหวัดจันทบุรี ที่ช่วยเพิ่มความหอมหวานได้เป็นอย่างดี
ต้องจองล่วงหน้าก่อนเท่านั้น! ผ่านช่องทาง LINE OA : @obenbangkok