A Vacation Getaway to Live Aesthetic Lives
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นและสแกนดิเนเวียน ต้องถูกใจกับ OIKOS Cafe & Restaurant คาเฟ่และร้านอาหารในย่านเอกชัย ที่มาพร้อมการดีไซน์ให้เหมือน ‘บ้านพักตากอากาศ’ ในแถบยุโรปและสแกนดิเนเวียน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Japandic Style’ ที่เน้นความเรียบง่าย โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและสแกนดิเนเวียนได้อย่างลงตัว มีทั้งโซน Cafe / Restaurant / Bakehaus / Wine Bar แบบครบครัน พร้อมต้อนรับให้ทุกคนได้มาดื่มด่ำและพักผ่อนหย่อนใจไปกับบรรยากาศสบาย ๆ รวมถึงอิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูเครื่องดื่ม ขนมหวาน หรืออาหารสไตล์ Home Cooking ที่ใส่ใจและพิถีพิถันทำเองในทุกขั้นตอน
Japanese Meets Scandinavian
‘OIKOS’ เป็นภาษากรีกโบราณ แปลว่า ‘บ้าน’ จึงไม่น่าแปลกใจที่บรรยากาศของทางร้านจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายสบาย ๆ พร้อมให้ทุกคนได้มาผ่อนคลายและใช้เวลาร่วมกันในที่แห่งนี้ เปรียบเสมือนบ้านเพื่อนและคอมมูนิตี้อันอบอุ่นที่จะทำให้คุณต้องประทับใจ นับตั้งแต่หน้าร้านก็ได้สร้างความสะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรมทรงกล่องสีขาวที่เรียบง่าย ประดับประดาด้วยต้นไม้และสวนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่ให้สัมผัสถึงความเป็น ‘Japandic’ ได้อย่างชัดเจน
ส่วนบรรยากาศด้านใน เชื่อว่าทุกคนต้องตื่นตาตื่นใจไปกับการดีไซน์และมู้ดแอนด์โทนร้านที่ถ่ายทอดความมินิมัลออกมาได้อย่างน่าสนใจ ในขณะเดียวกันยังแฝง Element ความเก๋ด้วยของตกแต่งต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้แห้งที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นกลางร้าน รวมไปถึงจานชาม แจกัน หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็กลายเป็นมุม Photogenic Spot ให้ได้ถ่ายรูปแบบเพลิน ๆ พร้อมเติมเต็มความอบอุ่นละมุนละไมด้วยการเปิดรับแสงธรรมชาติด้วยกระจกใสให้คุณผ่อนคลายได้ตลอดวัน โดยมีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ให้เลือกชิลล์ตามใจชอบ
นอกจากนี้บริเวณด้านหลังของร้านยังมี ‘OIKOS Bakehaus’ ร้านขนมปังเล็ก ๆ สุดมินิมัล พร้อมเสิร์ฟหลากหลาย Pastry แบบโฮมเมดที่ทางร้านทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลี้ยงยีสต์ การขึ้นรูปขนมปัง การทำไส้ ไปจนถึงขั้นตอนการอบ ซึ่งยังคงผสมผสานวัตถุดิบที่มีกลิ่นอายความเป็น Nordic และ Japanese ไว้ เกิดเป็นรสชาติที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยมีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ‘Sourdough’ สูตรพิเศษของทางร้าน ‘Shokupan’ เนื้อนุ่มหอมกลิ่นเนย ‘Milk Sourdough’ ไส้พิเศษต่าง ๆ รวมถึง ‘Danish’ อีกหลากหลายประเภท
All Day Dining in Japandic Style
นอกจากการดีไซน์ร้านที่น่าสนใจแล้ว เมนูเครื่องดื่มหรืออาหารก็น่าสนใจไม่แพ้กัน พร้อมนำเสนอความเป็น ‘All Day Dining’ ในสไตล์ ‘Japandic’ คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาจากประเทศญี่ปุ่นและแถบสแกนดิเนเวียให้คุณเอ็นจอยตั้งแต่เช้าจรดเย็น เริ่มต้นความอร่อยด้วยเมนูเบา ๆ อย่าง Truffle Mushroom Soup (190 บาท) ซุปเห็ดแชมปิญองรสกลมกล่อม ให้กลิ่นหอมของทรัฟเฟิลกำลังดี ท็อปด้วย Milk Foam ปิดท้าย เป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดีในจานแรก
ตามด้วย Tuna Spicy Miso Dip with Tortilla (240 บาท) ทูน่าทาท่านำมาคลุกเคล้าความอร่อยเข้ากับมะเขือเทศ พริกจาราปิโน ปลาแห้งญี่ปุ่น และซอสสูตรพิเศษทางร้าน ออกมาเป็นรสชาติกลมกล่อม หอมละมุนแบบครีมมี่ ก่อนที่จะโรยด้วยสาหร่ายปิดท้าย เสิร์ฟมาให้ทานพร้อมผักสลัดและแผ่นตอติญ่าอบกรอบเข้ากันได้เป็นอย่างดี
คนรักสุขภาพ ต้องห้ามพลาดกับเมนู Baby Cos with Ponzu Yuzu Dressing Salad (290 บาท) สลัดที่มีส่วนผสมของผัก Baby Cos, Butterhead, Red Radish และแตงกวาดอง พร้อมเพิ่มรสชาติด้วย Parmigiano Cheese โรยด้วยงาขาว งาดำ และปลาแห้ง แล้วราดด้วยน้ำสลัดสูตรพิเศษที่ทำมาจากยูซุ ให้กลิ่นหอม ทานแล้วสดชื่น
ส่วนใครมองหาเมนูอิ่มท้อง ต้องลอง Roasted Baby Chicken (Half) (280 บาท) ไก่ที่นำมาอบจนได้ความกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟคู่กับซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่ให้รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน เคียงมากับผักย่างต่าง ๆ อย่าง มันฝรั่ง กะหล่ำดาว แครอท และหัวหอม ทานพร้อมกันช่วยเสริมความอร่อยมากยิ่งขึ้น
เมนูไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ คือ Japandic Pizza (380 บาท) Signature Menu ของทางร้าน พิเศษด้วยกรรมวิธีการทำที่นำแป้งไปหมักแบบ Sourdough เป็นเวลา 2-3 วัน จากนั้นนำมาอบให้มีความกรอบแต่ยังคงความเหนียวนุ่มไว้ แล้วท็อปด้วย Anchovy, Black Olive, Green Olive, Kale และ Mozzarella Cheese ให้รสชาติเข้มข้น ทานได้แบบเพลิน ๆ
มาถึงเมนูในหมวดขนมหวาน ขอแนะนำ Matcha Caramelised Toast with Macadamia Ice Cream (270 บาท) เมนูขายดีของทางร้าน เป็นการนำโชกุปังเนื้อนุ่มไป Caramelized กับน้ำตาล เพื่อให้ได้ความกรอบและรสหอมหวาน ทานพร้อมซอสมัทฉะเข้มข้นและไอศกรีมแมคคาเดเมียโรยด้วยถั่วพิสตาชิโอ ช่วยเสริมความกรุบกรอบเข้ากันได้อย่างลงตัว
ปิดท้ายกันที่เมนูเครื่องดื่มที่น่าสนใจ แนะนำเมนูในหมวดค็อกเทลอย่าง Lychee Gin Sour (320 บาท) เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ Gin นำมาเพิ่มกลิ่นหอมด้วย Lychee Syrup และ Elder Flower Syrup แล้วท็อปด้วยฟองไข่ขาวปิดท้าย ให้รสชาติหอมหวาน เป็นการผสมผสานได้อย่างลงตัว หรือจะเป็น Holiday Aperol Gin Spiritz (280 บาท) มีส่วนผสมของ Aperol ที่เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำส้มและ Lemon Syrup เหมาะกับการดื่มในวันสบาย ๆ