Japanese Eatery & Cafe
ชวนมาเช็กอินที่ OKONOMI ร้านอาหาร Japanese Eatery & Cafe ที่ยกแบรนด์และความพิถีพิถันจากเมืองบรูกลิน มหานครนิวยอร์ก ส่งตรงถึงกรุงเทพมหานครแล้ววันนี้ที่ซอยสุขุมวิท 38 ให้คุณเข้าไปพักฮีลใจภายในบ้านสีเขียวพาสเทลหลังงามใจกลางตึกสูง แต่อบอวลไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและ Element การดีไซน์ที่ถูกใจสายคาเฟ่ฮอปเปอร์เมืองไทย
พักจากบรรยากาศจอแจ แวะเข้ามาเช็กอินที่ OKONOMI ก้าวแรกที่เข้ามาคุณจะรู้สึกได้ถึงความ Comfort สบายตาสบายใจของร้านที่ทั้งปลอดโปร่งและมีหลากหลายโซนให้เลือกนั่งถึง 2 ชั้น ตกแต่งในสไตล์สแกนดิเนเวียนที่เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และคุมโทนด้วยสีของไม้ตามแบบธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเคาน์เตอร์บาร์กลางร้าน โต๊ะ เก้าอี้ และชั้นไม้ที่กรุขึ้นเป็นที่นั่งโซฟาและเบาะนุ่ม ๆ สีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ช่วยเสริมบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่เปิดประตูเข้าไป
บริเวณกลางร้านยังเพิ่มลูกเล่นด้วยช่องแสงวงกลมด้านบนเพดาน ที่เปิดให้แสงธรรมชาติส่องลงมาทั่วบริเวณร้าน ขับบรรยากาศภายในร้านให้ดูอบอุ่นขึ้นทันตา โดยที่นั่งแต่ละจุดได้มีการแบ่งโซนให้เลือกนั่งพักชิลล์ ๆ, จิบกาแฟทำงานระหว่างวัน, ทานอาหารสบาย ๆ ที่โซฟา หรือนั่งหน้าบาร์เพื่อชมฝีไม้ลายมือของเชฟที่ลงมือครีเอตความอร่อยอย่างพิถีพิถันตามวิถีการทำอาหารแบบญี่ปุ่นก็ได้เช่นกัน
Must-Try Traditional Japanese Dishes
OKONOMI มีหลักปรัชญาที่ยึดถือมาตลอดในการทำอาหาร นั่นก็คือ หลักปรัชญา 'Mottainai' ที่ตั้งใจนำวัตถุดิบมาสร้างสรรค์ให้ได้ความอร่อยหลากหลายและคุ้มค่า โดยเหลือทิ้งน้อยที่สุด พร้อมเสิร์ฟเมนู Comfort Food ที่รวมเอาอาหารสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม แล้วเติมกลิ่นอายในแบบตะวันตกเข้าไปเสิร์ฟเป็น Brunch อร่อย ๆให้เลือกทานหลายเมนู และที่พลาดไม่ได้คือเมนูไฮไลต์อย่าง ‘Ichiju Sansai’ หรืออาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่ประกอบด้วย ‘ซุปหนึ่ง กับข้าวสาม’ เพื่อให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสุขภาพที่ดี และเป็นมื้อสำคัญที่ได้สารอาหารครบห้าหมู่ ซึ่งจะเสิร์ฟเฉพาะช่วงเวลา 08.00-11.00 น. เท่านั้น
สำหรับ Ichiju Sansai ของทางร้านนั้น มีให้สั่งทานกันถึง 4 แบบ แตกต่างกันโดยมีปลาให้เลือกทานถึง 4 ชนิด ซึ่งถูกหมักในรูปแบบแตกต่างกันออกไป โดยทางร้านได้คัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพดี โดยเฉพาะปลา Madai, Hamachi, Sawara ฯลฯ ที่สดใหม่ส่งตรงจากตลาดปลาในญี่ปุ่นเท่านั้น
ในครั้งนี้เราขอพาไปชิม Misozuke Hamachi (550 บาท) เซ็ตอาหารเช้ากับวัตถุดิบที่เป็นพระเอกอย่าง ปลาฮามาจิ หมักมิโซะหรือขั้นตอนที่เรียกว่า 'Misozuke' ก่อนจะนำไปย่าง พร้อมเสิร์ฟด้วยสัมผัสที่กรอบนอกแต่เนื้อด้านในยังคงความฉ่ำเอาไว้ ในเซ็ตจะประกอบด้วยส่วนสำคัญของซุปมิโสะโฮมเมด ทามาโกะยากิที่มีความนุ่มละมุนลิ้น บร็อคโคลีคลุกงา ถัดมาเป็นข้าวญี่ปุ่นผสมกับธัญพืช โรยด้วยปลาแห้งเพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์ที่ดีขณะทาน พร้อมเสิร์ฟมากับเครื่องเคียงผักดองนานาชนิดที่ทางร้านทำเอง และไข่ออนเซ็นในโชยุรสหวานละมุนลิ้น เพื่อเพิ่มรสชาติความกลมกล่อมให้กับเซ็ตอาหารเช้าชุดนี้ แต่ถ้าใครอยากเพิ่มออปชั่นความอร่อย สามารถเพิ่ม Ikura (90 บาท) ไข่ปลาแซลมอนที่มาพร้อมรสชาติสดชื่น ๆ ของส้มยูซุเข้าไปได้อีกด้วย
All Day Dining
ในช่วงเวลาอื่น ๆ คุณสามารถเข้ามาสัมผัสความอร่อยของเมนู All Day Dining อื่น ๆ ได้ด้วย โดยแต่ละเมนูได้มีการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างปลาและผักชนิดต่าง ๆ มาครีเอตเป็นเมนูที่หลากหลายในสไตล์ญี่ปุ่น และผสมผสานเทคนิคใหม่ ๆ ในสไตล์ตะวันตกเข้าไว้ด้วยกัน เช่น Snow Crab & Avocado Benedict (420 บาท) เมนูไข่เบเนดิกต์ที่เราคุ้นเคยถูกเปลี่ยนภาพจำเป็นความอร่อยรูปแบบใหม่ ที่นำเอาขนมปังนมที่มีความนุ่มมาเสิร์ฟคู่กับอะโวคาโด ท็อปด้วย Snow Crab และไข่เบเนดิกต์แบบเยิ้ม ๆ กำลังดี ก่อนราดด้วยซอสฮอลแลนเดสยูซุที่เป็นไฮไลต์ของจาน และโรย Toragashi หรือพริกป่นญี่ปุ่นเพื่อความเผ็ดเล็กน้อย เพิ่มความอร่อยครบรสให้กับจานนี้
ถัดมาเป็น Salmon & Cheese Mazemen (300 บาท) ราเมนแห้งเส้นเหนียวนุ่มที่คลุกเคล้ากับซีอิ๊วหวาน ท็อปด้วยแซลมอนและชีสกามองแบร์ โรยด้วยใบชิโสะ งาดำ และกลิ่นหอมเลมอนบาง ๆ ให้จานนี้มีความหวานมันลงตัวจนยากจะห้ามใจให้ลิ้มลอง และสุดท้าย Unagi Kabayaki (550 บาท) ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นที่ได้ความหอมจากการย่างบนเตาถ่านร้อน ๆ ได้เท็กซ์เจอร์ด้านนอกที่กรอบ ราดด้วยซอสซีอิ๊วหวานผสมซีตรัสสุดสดชื่น แล้วโรยรอบ ๆ จานด้วยไข่ปลาแซลมอนและหัวไชเท้าญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งจานที่ทั้งอร่อยและดีต่อใจในวันสบาย ๆ สามารถเข้ามานั่งพบปะพูดคุย หรือเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานได้ที่นี่ แล้วอย่าลืมสั่งเครื่องดื่มมาเติมความสดชื่นระหว่างการสนทนา ขอแนะนำเมนู Sweet Potato Amazake (140 บาท) เครื่องดื่มรสชาติแปลกใหม่ ที่นำมันหวานญี่ปุ่นมาผสมผสานเข้ากับนมและข้าวหมัก ให้ความหวานและกลิ่นหอมจาง ๆ จากการหมักและให้รสสัมผัสที่เหมือนได้ทานขนมหวานไปในตัว บรรยากาศญี่ปุ่นแบบนี้ใครที่ชอบชาเขียวก็ไม่ควรพลาดลองเมนู Matcha Latte (140 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้ชาเขียวจากเมืองอุจิ ทำให้เครื่องดื่มแต่ละแก้วได้เลเยอร์ ลวดลายและสีเขียวของชาอย่างชัดเจน และอีกหนึ่งเมนูน่าสนใจอย่าง Kuromitsu Macchiato (140 บาท) มัคคิอาโตที่เลือกใช้คุโรมิตสึแทนความหวานของคาราเมล ให้อารมณ์เหมือนได้จิบเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นเลยทีเดียว